'พลังการขอ' วิจัยมาแล้วว่า 93% มนุษย์ยอมให้แซงคิว 😱
มนุษย์ทุกคนถูกเทรนมาตั้งแต่เด็ก 💢 ให้เป็นมนุษย์รับคำสั่ง 💢 เฮ้ยยยย จริงดิ ทาร่าได้ยินเรื่องนี้มาจาก Kerwin Rae โค้ชธุรกิจชื่อดังที่ออสเตรเลียนี่เองค่ะ
Kerwin ได้เล่าเรื่อง Power of Asking ไว้ว่า มีการทดลองนึงที่จัดทำขึ้นที่ประเทศอเมริกา การทดลองนี้น่าสนใจมาก และสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างของความเป็นมนุษย์เลยค่ะ
Kerwin Rae
🌈 โจทย์คือเค้าอยากรู้ว่า ถ้าเราอยากได้อะไร แล้วเราแค่ถามออกไป คนอื่นจะตอบเรายังไง??
🌈 วิธีการทดลอง คือ ส่งคนไปขอแซงคิวถ่ายเอกสาร ตอนพักเที่ยง ในห้องสมุดค่ะ เพราะในสมัยนั้นเครื่องถ่ายเอกสารเป็นสิ่งป๊อปปูล่ามาก นักศึกษาจำนวนมากจะต้องต่อแถวเพื่อเข้าคิวถ่ายเอกสารตอนช่วงพักกลางวัน
โดยมี script 3 แบบที่ใช้ในการทดลอง เพื่อดูว่า… การขอแบบไหนที่จะมีโอกาสได้แซงคิวมากที่สุด?? และผลการทดลองออกมาแบบนี้ค่ะ 👇
1
🤓 แบบที่ 1 ขอเฉยๆ เช่น ขอโทษนะคะ ฉันขอถ่ายเอกสารก่อนได้ไหมคะ ของฉันมีแค่ 5 หน้าเอง 👉 และผลที่ออกมา คือ 60% ของคนที่ถูกถาม ยอมให้แซงคิวได้!! เฮ้ยย ถ้ามีคนข้างหน้าเรา 10 คน นี่เราก็แซงได้ 6 คนละนะ แค่ขอเราขอเฉยๆ นะ
🤓 แบบที่ 2 ขอและให้เหตุผลจริงๆ ไปด้วย เช่น ฉันขอถ่ายก่อนได้มั้ยคะ อีก 15 นาทีก็ต้องไปเรียนแล้ว และต้องใช้เอกสารนี้ในคลาสนี้ด้วยอ่ะค่ะ 👉 สิ่งที่เกิดขึ้น คือ 94% ของคนยอมให้แซงคิวได้ค่ะ
🤓 แบบที่ 3 (อันนี้ทาร่าว่าน่าสนใจที่สุด) คือ ขอและให้เหตุผลมั่วๆ อะไรไปก็ได้ และมีคำว่า ‘เพราะ’ เช่น ขอถ่ายเอกสารก่อนได้ไหมคะ เพราะฉันต้องถ่ายเอกสารนี่จริงๆ ค่ะ (เอ่อ ข้างหลังเพราะมันเป็นเหตุผลตรงไหน 😅) 👉 แต่ผลที่ออกมาก็อิหยังวะพอๆ กับประโยคที่เอามาใช้ในการทดลอง คือ 93% ของคนที่ถูกขอ อนุญาตให้แซงคิวค่ะ (อิหยังวะมั้ยล่ะ)
1
Credit : Pixabay
Kerwin Rae ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการทดลองนี้ว่า มนุษย์เราทุกคนถูกเทรนมาตั้งแต่เด็กให้เป็นมนุษย์รับคำสั่งค่ะ จำตอนที่เราเป็นเด็กได้ไหมคะ?? ตารางกิจวัตรประจำวันทั้งวันของเรา ตั้งแต่เช้ายันเย็นก็มาจาก ‘บุคคลภายนอก’ ทั้งนั้น ตั้งแต่เวลาตื่น ไปโรงเรียน ต้องเรียนอะไร ต้องกินอะไรในแต่ละวัน ต้องนอนกี่โมง ไปร้านอาหารก็ต้องกินเมนูแนะนำ และอื่นๆ อีกมากมายที่เราเองก็ยินยอมพร้อมใจที่จะทำตาม โดยที่ไม่เคยแม้แต่จะตั้งคำถาม
ไม่สิ โตมาเราก็ไม่เอะใจที่จะตั้งคำถามแล้ว แต่ตอนเป็นเด็ก ทุกคนน่าจะเคยสงสัย ถาม และได้รับคำตอบกลับมาแบบเดียวกันจนชินแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
แม่บอกให้กิน หนูก็ต้องกินนะคะ
เด็กดีต้องเชื่อฟังพ่อแม่ (จึ้ก!)
เค้าว่ากันว่าบลาๆๆๆ
คนส่วนใหญ่รู้สึก คุ้นชิน (🤔) กับการมีคนมาบอกว่าเราต้องทำอะไร หรือไม่ทำอะไร และ (น่าสนใจ) เรายอมรับคำอธิบายที่มันอิหยังวะมาตั้งแต่เด็ก จนมันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราค่ะ แน่นอนว่าถ้าเรามีสติดีๆ เราอาจจะไม่ตอบแบบนี้ แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่เราไม่มีเวลามาตรึกตรองอย่างละเอียดรอบคอบ สัญชาติญาณจะบอกเราให้ “รับคำสั่ง” มาก่อน เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเราถูกเทรนมาตั้งแต่เด็กค่ะ
1
🌈 สรุปผลของการทดลองนี้อีกทีนะคะ
ไม่กล้าขอ = โอกาสได้ 0%
ขอเฉยๆ = โอกาสได้ 60%
1
ขอพร้อมเหตุผล = โอกาสได้ 91% - 94%
1
🌈 เมื่อรู้แบบนี้แล้ว…. คุณจะเลือกอะไร??
Power Of Asking อีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ที่ทาร่าคิดว่าทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยทันที แต่ทาร่าก็ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจมากๆๆๆ อีกเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้รู้จักและลองใช้กันนะคะ
2
👉 Vision Board คือการที่เรานำภาพความฝันของเรามาติดไว้ในที่ที่สามารถมองเห็นได้ในทุกวัน เหมือนเป็นการตั้ง GPS ให้รถก่อนออกเดินทาง ที่จะช่วยให้เราไปถึงจุดหมายอย่างแน่นอน และไม่ว่าเราของเราจะออกนอกเส้นทางสักกี่ครั้ง เจ้า GPS อันแสนอัจฉริยะนี้ก็จะหาทาง ‘reroute’ และพาเรากลับสู่จุดหมายเดิมเสมอ เล่มนี้อ่านง่าย จบภายใน 2 ชั่วโมงเลยค่ะ 👇
หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow
 
แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl
E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0
E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj
 
🌈🌈🌈🌈🌈
เกี่ยวกับผู้เขียน
Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย
#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน
#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ
#หนังสือไมเคิลเรียนไม่เก่งจนสอบตกป.3
#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ
#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
💞 💞💞💞💞
ช่องทางในการติดตามทาร่า 😘
IG: tarathow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: จุด by Tara Thow
Tiktok: @tarathow
Line: @tarathow
โฆษณา