9 พ.ค. 2022 เวลา 08:54 • ไอที & แก็ดเจ็ต
โปรแกรม Antivirus สำหรับ Home User กับ Business User ต่างกันตรงไหน ?
เวลาเราเข้าไปดูใน Website ของผู้ผลิตโปรแกรมเหล่านี้ เราจะเห็นว่า เขาจะมีผลิตภัณฑ์แยกสำหรับ Home Use กับ Business ยัน Enterprise เลยก็มี เมื่อก่อน (กล้าใช้คำนี้ด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคือเมื่อ 10 กว่าปีก่อน) เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่กว่ามันต่างกันยังไง นอกจากราคาที่แพงกว่ามาก
อย่างแรกที่มันต่างกันคือ หน้าตาการใช้งาน (User Interface) ที่มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า เราต้องเข้าใจว่า การใช้งานในบ้าน ไม่ใช่ทุกคนจะเป็น Expert หรือ Specialist ดังนั้นโปรแกรมที่ทำมาสำหรับการใช้งานในบ้านจึงต้องมีหน้าตาที่เข้าใจง่าย และป้องกันโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องมีความรู้มาก
อีกข้อคือ การใช้งานในบ้าน เรามักจะจบที่การป้องกันที่แต่ละเครื่อง หรือก็คือ เครื่องที่เราใช้งานอะไรแบบนั้นซะมากกว่า เพราะการใช้งานในบ้านทั่ว ๆ ไป ไม่น่าจะมี Mail Server หรือ Virtualisation Server อยู่ในบ้านเราแน่นอน แต่ระดับ Business จนไปถึง Enterprise เขามีการวางระบบที่ซับซ้อนกว่า ทำให้พวกนั้นต้องการ Product ที่อยู่ในทุกระดับของการทำงานในนั้นนั่นเอง เช่น อาจจะมีสำหรับ File Server หรือ อาจจะเป็น Endpoint Security ก็มี
และสุดท้ายคือ การป้องกันที่ Advance มากขึ้น อีกสิ่งที่ทำให้ การใช้งานในบ้านเฉย ๆ กับ การใช้งานเชิงธุรกิจ คือ ความใหญ่โต ของมัน โดยเฉพาะในแง่ของ ทรัพย์สิน ถ้าเราใช้งานในบ้านแล้วโดนเอง บางที ก็ไม่มีอะไร เอาเครื่องไปซ่อมนิดหน่อยอะไรแบบนั้น
แต่ถ้าเป็นองค์กร การโดนเข้าไปสักดอกนั่นหมายถึง ระบบ หรือ เครื่องสักเครื่องเป็นอัมพาตนี่เรื่องใหญ่มาก เสียเงินหลายล้าน เพราะจะขาดทุนจากการที่เครื่องใช้ไม่ได้เท่าไหร่ ไหนจะต้องเอาคนเข้ามาจัดการอีกเสียเงินหนักมาก ยังไม่นับว่า องค์กร มีจำนวนเครื่องมากกว่า ทำให้โอกาสจะโดนแบบสุ่มก็เยอะขึ้นไปได้อีก (คิดแบบความน่าจะเป็นเลย เราเอาความที่น่าจะโดนของแต่ละเครื่องมาคูณกัน ย่อมมากกว่า ไม่กี่เครื่องในบ้านแน่นอน)
ทำให้โปรแกรมที่ใช้งานในระดับองค์กรจึงต้องมีการป้องกันที่หนาแน่นกว่าตามบ้าน อย่างเช่น การมีพวก Zero-Day Attack Protection เพื่อป้องกัน การโจมตีใหม่ ๆ ที่อาจจะยังไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล หรือจะเป็นพวก Risk Analysis ที่จะช่วยผู้ดูแลระบบ ตรวจสอบความเสี่ยงของระบบไอทีในองค์กรได้ ซึ่งแน่นอนว่า ของพวกนี้คนใช้งานในบ้าน ไม่น่าจะได้ใช้แน่นอน
ช่องทางติดตาม KODEFIX เพิ่มเติมได้ที่
Website : www.kodefix.com
=========================
ให้คำปรึกษา แจ้งซ่อม ผ่าน Line OA ได้ที่ : @kodefixth
หรือคลิก : https://lin.ee/68GuhTJ
=========================
โฆษณา