11 พ.ค. 2022 เวลา 04:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 11 พ.ค. ​2022
"Dow Jones ปิดลบในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ FED จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี"
3
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 Fear & Greed index = 23
📌ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (10 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,160.74 จุด ลดลง 84.96 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,001.05 จุด เพิ่มขึ้น 9.81 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,737.67 จุด เพิ่มขึ้น 114.42 จุด หรือ +0.98%
📌ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นในวันอังคาร (10 พ.ค.) จากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูกซึ่งร่วงลงจากแรงเทขายก่อนหน้านี้ท่ามกลางความวิตกว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง
📌สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ในวันอังคาร (10 พ.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลว่าการที่จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 99.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 3.48 ดอลลาร์ หรือ 3.28% ปิดที่ 102.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
📌สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันอังคาร (10 พ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 17.6 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,841 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2565
📌ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (10 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.26% แตะที่ 103.9200
📌นายอีลอน มัสก์ กล่าวเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) ว่าเขาจะยกเลิกการแบนบัญชีทวิตเตอร์ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์แล้ว โดยมองว่าการแบนดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และการแบนบัญชีถาวรควรใช้กับบัญชีบอท, บัญชีหลอกลวง และบัญชีสแปมเท่านั้น
📌ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐกล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่กำหนดขึ้นในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลดราคาสินค้าช่วยผู้บริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ดี วอลล์สตรีทคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอีก 8%
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังทบทวนมาตรการเก็บภาษีนำเข้าที่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เคยบังคับใช้ และมีแนวโน้มที่จะยกเลิกทั้งหมด เนื่องจากการกำหนดภาษีนำเข้าได้ส่งผลให้ราคาสินค้าทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่ผ้าอ้อมเด็กไปจนถึงเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์
"เรากำลังประเมินสถานการณ์ว่า อะไรที่จะทำให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกมากที่สุด และเรากำลังพิจารณาถึงการยกเลิกมาตรการเก็บภาษีที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันด้วย" ปธน.ไบเดนกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับจีนด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมาเป็นเวลานาน โดยมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมสินค้าที่ผลิตโดยอเมริกัน
3
บรรดานักเศรษฐศาสตร์กำลังอภิปรายกันว่า การยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจะช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐได้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า การผ่อนปรนหรือการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั้งหมดนั้น อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่ทำเนียบขาวจำเป็นจะต้องทำ เพื่อฉุดต้นทุนสินค้าทุกประเภทให้ลดลง
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนย้ำว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งภายในและต่างประเทศ ประกอบกับการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980
"ผมต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนทราบว่า ผมให้ความสำคัญกับสถานการณ์เงินเฟ้อเป็นอย่างมาก ผมมองว่าสาเหตุแรกที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อคือโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 1 ศตวรรษ ซึ่งโรคระบาดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการชัตดาวน์ของเศรษฐกิจทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและอุปสงค์เป็นวงกว้าง
และในปีนี้เรากำลังเผชิญกับสาเหตุที่สอง คือการที่ปธน.ปูตินเข้าทำสงครามในยูเครน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง" ปธน.ไบเดนกล่าว
📌สำนักข่าว CNBC รายงานว่า มูลค่าตลาดของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐได้ทรุดตัวลงรวมมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 3 วัน ในวันที่ 5-6 พ.ค. และวันที่ 9 พ.ค. เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้นายพาวเวลกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเฟดไม่ได้พิจารณาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขนาดนั้นก็ตาม
📌มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกวูบหายไปถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ซึ่งจะฉุดสภาพคล่องในตลาด
📌นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.63 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.57 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อ เทียบกับทุกสกุลเงินหลัก โดยวันนี้มีปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนติดตามคือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
"บาทอ่อนค่าตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก ระหว่างวันคาดว่าจะผันผวนแต่อยู่ใน กรอบ ไม่เทไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐค่ำนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.55 - 34.75 บาท/ดอลลาร์
📌สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ขยับขึ้น 1.5% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 1.9%
1
ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากระบบโลจิสติกส์ของจีนยังคงได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ราคาอาหารในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าในเดือนมี.ค.ที่ร่วงลง 1.5% ส่วนราคาเนื้อหมูซื้อเป็นอาหารจานหลักของชาวจีน ร่วงลง 33.3% ในเดือนเม.ย. แต่ยังดีกว่าในเดือนมี.ค.ที่ราคาทรุดตัวลง 41.4%
ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานเนื่องจากมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.1%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน เพิ่มขึ้น 8% ในเดือนเม.ย. ชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 8.3% อย่างไรก็ดี ดัชนี PPI เดือนเม.ย.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.7%
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT 💵💵💵
2 ASP-EUG 💵💵💵
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC 💵💵💵
5 ASP-ROBOT 💵💵💵
6 B-Bharata
7 B-GTO 💵💵💵
8 B-INNOTECH 💵💵💵
9 BCAP-CLEAN 💵💵💵
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE 💵💵💵
12 K-CHANGE-A 💵💵💵
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT 💵💵💵
15 K-USA-A 💵💵💵
3
16 K-USXNDQ-A 💵💵💵
17 K-WORLDX 💵💵💵
18 KF-EUROPE 💵💵💵
19 KF-GTECH 💵💵💵
20 KF-ORTFLEX 💵💵💵
21 KF-US 💵💵💵
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A 💵💵💵
24 KFHTECH-A 💵💵💵
25 KFINFRA-A 💵💵💵
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL 💵💵💵
29 KT-PRECIOUS
30 KT-WTAI-A 💵💵💵
3
31 LHCYBER-A
32 LHESPORT-A / WE-PLAY 💵💵💵
33 LHINNO-A 💵💵💵
34 LHMOBILITY 💵💵💵
35 M-EM 💵💵💵
36 MATECH-A 💵💵💵
37 MFTECH 💵💵💵
38 ONE-DISC-RA 💵💵💵
39 ONE-GECOM 💵💵💵
40 ONE-UGG-RA 💵💵💵
41 P-CGREEN 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
42 PRINCIPAL GCLEAN-A 💵💵💵
43 PRINCIPAL GCLOUD-A 💵💵💵
44 PRINCIPAL GHEALTH-A 💵💵💵
45 Principal VNEQ-A 💵💵💵
3
46 PWIN 💵💵💵
47 SCBDJI(A) 💵💵💵
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge)
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225 💵💵💵
52 SCBS&P500 💵💵💵
53 SCBSEMI 💵💵💵
54 SCBUSSM 💵💵💵
55 T-ES-GGREEN 💵💵💵
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO 💵💵💵
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW 💵💵💵
58 T-Premium Brand 💵💵💵
59 TBIOTECH 💵💵💵
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
3
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD 💵💵💵
63 TGENOME 💵💵💵
64 TGHDIGI 💵💵💵
65 TMB-ES-AUTOMATION 💵💵💵
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF 💵💵💵
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG 💵💵💵
71 TMBWDEQ 💵💵💵
72 TNEWENGY 💵💵💵
73 TNEXTGEN / WE-CYBER 💵💵💵
74 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
3
76 UEDTECH 💵💵💵
77 UEV 💵💵💵
78 WE-CANB, MCANN 💵💵💵
79 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
80 WE-GOLD 💵💵💵
81 WE-TENERGY / SCBCLEANA 💵💵💵
82 ABAGS 💵💵💵
83 BFINTECH 💵💵💵
3
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021
ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนักเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1700, 1730 หรือ 1760 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 2000, หรือ 2035, 2075 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 เม.ย. 2022) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ : https://youtu.be/yINnnDuTcRM
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
- ไม่มีกองทุนแนะนำขาย
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌 พิเศษสำหรับ ใครที่สนใจลงทุนในกองทุน ARK INVEST ผมทำสรุป BIG IDEAS 2022 ออกมาให้ 3 ตอน สามารถรับชมได้ที่
EP.1 | Big Ideas 2022 by Ark Invest อ่านแล้วมาเล่า By หนีดอย
EP.2 | Big Ideas 2022 by Ark Invest อ่านแล้วมาเล่า By หนีดอย
EP.3 (จบ) | Big Ideas 2022 by Ark Invest อ่านแล้วมาเล่า By หนีดอย
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 17 เม.ย. 2022 : https://youtu.be/3hVVnmkUYbs
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ : https://youtu.be/osV1Vc0Osfo
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, BNB, XRP, ADA, SOL, DOT,
LTC, LUNA, AVAX, DOGE, SHIB
ประจำวันที่ 17 เม.ย. 2022 : https://youtu.be/HijpvrhcJyY
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
2
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา