11 พ.ค. 2022 เวลา 04:51 • ท่องเที่ยว
เรื่องของวิหารเฃียนที่วัดญานสังวร
เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๑๙ นายแพทขจร และคุณหญิงนิธิวดี อ้นตระการ ได้น้อมถวายที่ดินบางละมุงแด่ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) วัดบวรนิเวศวิหารฯ จำนวน ๑๐๐ ไร่เศษ ประสงค์เพื่อสร้างอารามที่อุดมธรรมชาติให้เอื้อเฟื้อต่อการปฏิบัติธรรม
เมื่อลงมือก่อสร้างกลับต้องพบอุปสรรคต่าง​ๆนานา
คือเมื่อลงมือสร้างกุฏิกลุ่มแรกจำนวน ๕ หลัง จู่ ๆ ก็เกิดไฟไหม้ขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่กุฏิแต่ละหลังล้วนอยู่ห่างกัน เมื่อคณะศรัทธาลงมือสร้างขึ้นใหม่
ไฟก็ไหม้วอดหมดอีกทั้ง ๕ หลัง สองครั้งสองครา
เมื่อลงมือสร้างพระอุโบสถ เพียงแค่ฐานรากเท่านั้น ก็พบอาถรรพ์สารพัน บางคราวคนงานก็พบงูเหลือมตัวมหึมาเลื้อยไปรอบ ๆ บริเวณก่อสร้าง
บางครั้งพอเช้ามาก็พบรอยเท้าเสือเดินวนเวียนรอบฐานโบสถ์​ บางคราวก็เห็นรอยมาเดินแถวแคมป์คนงานคล้ายรอรับประทานมื้อดึก ที่หนักหน่อยก็ "เห็นตัว" กันทีเดียว เป็นเสือดำตัวมโหฬารย่างสามขุมอยู่ไปมาน่าเสียวซี่โครง
ยิ่งกว่านั้นก็....คือ​ ผี คนงานต่างขวัญเสีย​หวาดกลัวไปตามๆกัน
ร้อนถึงผู้ริเริ่มก่อตั้ง ต้องนำความขึ้นกราบเรียนสมเด็จพระญาณสังวร พระองค์จึงเดินทางมายังวัดญาณฯ ด้วยองค์เองแล้วเข้าที่ภาวนาพิจารณาดู
พบว่ามีวิญญาณสิงสู่อยู่บริเวณนี้มาก จึงแผ่เมตตาจิตไปยังวิญญาณเหล่านั้นให้อนุโมทนาบุญกุศลแล้วรามือเสีย ผู้ไปเกิดยังภพภูมิที่ดีได้ก็จงไป
ที่ไหนได้.. เมื่อพระองค์เสด็จกลับไป มันลงมือหลอนหนักกว่าเดิม
คณะผู้สร้างวัดก็หารือกับสมเด็จฯ อีกหน สมเด็จฯ วินิจฉัยสักครู่ก็ออกพระโอษฐ์ว่า
"แบบนี้ต้องอาจารย์เซียนเท่านั้น"
ผู้สร้างก็งง ใครคืออาจารย์เซียน ?
สมเด็จพระญาณสังวร ทรงแนะนำแนวทาง จนที่สุดก็ได้ไปเชิญ "ง้วนเซียน" หรือ "ท่านอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ" มาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ
ครั้นอาจารย์สง่าได้ฟัง ก็บอกทันทีว่าไม่ยาก คนฟังฟังแล้วก็มีท่าทีไม่ศรัทธา เพราะขนาดสมเด็จฯ ยังปราบไม่ลง แล้วจีนชราผู้นี้จะเอาคุณวิเศษอัศจรรย์จากไหนไปปราบ
คลับคล้ายอาจารย์สง่าจะอ่านใจได้ ท่านอรรถาธิบายว่า สมเด็จพระญาณสังวร เป็นพระสงฆ์ เป็นผู้มีแต่เมตตาธรรม เมื่อไปพบวิญญาณก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้อย่างเดียว
อาจารย์สง่าดูแล้วพบว่าแต่เดิมผีที่นั่นมีราว ๒๐๐ ตัว แต่พอสมเด็จฯ แผ่เมตตาให้กลายเป็น ๔๐๐ กว่าตัว เพราะมันพากันมาเอาบุญ แต่เอาแล้วก็ไม่ยอมไปตามนิสัยอันธพาล มันถึงต้องเป็นผีเร่ร่อนอยู่นี่
ท่านย้ำว่า เรื่องปราบปีศาจกำราบมารเป็นงานท่านโจวซือ(วิสุทธิเทพลื่ท่งปิน 1​ ใน​ 8​ เซียน)​อยู่แล้ว ภูตผีปีศาจเปรียบเหมือนผู้ร้าย องค์โจวซือเปรียบเหมือนตำรวจ
จากนั้นอาจารย์สง่าก็เดินทางมายังจุดก่อสร้างวัดญาณสังวราราม ท่านเล่าให้ฟังว่า
"อาจารย์ใช้แชเล้งฮู้(ยันต์​มังกร​เขียว)​ใบเดียวจุดเผา ทันทีที่จุดไฟ ความรู้สึกสัมผัสว่าองค์โจวซือ(วิสุทธิเทพลื่อท่งปิน​ 1​ ใน​ 8​ เซียน)​ลงมาจากเบื้องบน โดยยืนมาบนหลังมังกร พอใกล้ถึงพื้น ยังไม่ทันชักกระบี่ พวกผีก็หนีหายเข้าป่าไปหมด"
และที่น่าอัศจรรย์คือ ในระหว่างที่อาจารย์​สง่าประกอบพิธีแบบจีน ๆ อยู่นั้น พวกคนไทย ที่เป็นศิษย์สมเด็จฯ และแม้องค์ท่านเอง ก็เข้าที่ภาวนา "ดู" เหตุการณ์ที่เกิดอยู่ "ภายใน"
และเห็นเช่นเดียวกันทุกคน !
นับแต่นั้น ความเฮี้ยนทั้งปวงในวัดญาณฯ ก็เป็นอันยุติลงโดยสิ้นเชิง คณะสมเด็จฯ จึงเริ่มมีใจศรัทธาในตัวอาจารย์ชาวจีนผู้นี้มากขึ้นเป็นทวี
Cr.รณธรรม​ ธารา​พันธ
อเนกกุศลศาลา (วิหารเซียน)
โฆษณา