17 พ.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เราย้อนเวลาไม่ได้ ]
ซัมเมอร์ 2021 หรือย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลต้องสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญคือ จินี่ ไวจ์นัลดุม แบบฟรีเอเจนท์ ไม่ได้ค่าตัวแม้แต่เพนนีเดียว
2
ตัวนักเตะเลือกย้ายไปปารีส แซงต์ แชร์กแมง ท่ามกลางความเชื่อว่าเรื่องเงินคือตัวแปรสำคัญ ทางนั้นจ่ายค่าจ้างให้มหาศาลกว่า หากเทียบกับสัญญาฉบับใหม่ที่หงส์แดงยื่นมาให้
ในขณะเดียวกัน จินี่ ที่ทำท่าจะเลือกบาร์เซโลน่า เพราะเป็นความฝันส่วนตัวว่าอยากเล่นให้สโมสรแห่งนี้ ตามรสนิยมของนักเตะดัตช์ส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา
ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังเกี่ยวกับตลาดซื้อขาย ระบุเอาไว้ว่า ทางเปแอสเชจ่ายค่าจ้างแบบดับเบิ้ล จนทำให้บาร์ซ่าล่าถอยยอมแพ้ สู้เงินไม่ไหว
1
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Capology เปิดเผยไว้ว่า ไวจ์นัลดุม ฟันค่าเหนื่อยปีละ 17.27 ล้านยูโรหรือคิดเป็นสัปดาห์คือ 332,115 ยูโร สูงเป็นอันดับ 7 ของทีมชุดปัจจุบัน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยซูเปอร์สตาร์
ในขณะที่ข้อมูลจาก salary sport อ้างว่า ไวจ์นังดุม รับค่าจ้างมากเป็นอันดับ 9 ของเปแอสเช ใกล้เคียง 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
แน่นอนว่าเรื่องเงินค่าจ้างไม่เป็นที่ยืนยันชัดเจนหรอก ส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราพอจะบอกได้ว่า ไวจ์นัลดุม ได้ในเรตสูงจริงๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย หากใครต่อใครจะเชื่อว่า เงินคือปัจจัยสำคัญทำให้เกิดดีลนี้
1
ตอนตัดสินใจว่าจะไม่ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล เขาได้แจกแจงถึงเหตุผลไว้อย่างน่าสนใจ โดยส่วนหนึ่งมาจากความรู้สึกผิดหวังที่ตัวเองมักตกเป็นเหยื่อยประจำ ในยามทีมผลงานไม่ดี
แฟนบอลบางส่วนคิดเอาเองว่า เขาเล่นแบบไม่ทุ่มเทจริงจัง รอวันที่จะย้ายทีม นี่แหล่ะที่ทำให้คาใจและตัดสินว่าควรไปดีกว่า
1
"ทั้งตอนลงแข่งและซ้อมผมจะทำงานอย่างเต็มที่ ลิเวอร์พูลมีความสำคัญกับผม ทุกคนต่างรู้ดี"
"แต่มีบางครั้ง ทำให้รู้สึกว่าไม่มีใครรักผมเลย เหมือนไม่ต้องการให้ผมอยู่ ไม่ใช่เป็นเพื่อนร่วมทีมหรอกนะ ไม่ใช่ทุกคนจากเมลวู้ดเลย พวกเขาให้ความรักกับผม ผมก็รักพวกเขา แต่เกิดจากคนอีกด้านมากกว่า"
"แฟนในสนามและแฟนในโซเชี่ยล คือความแตกต่างกัน แฟนในสนามนี่ ผมไม่อาจนึกถึงอะไรแย่ๆจากพวกเขาได้เลย พวกเขาต่างสนับสนุนผมเสมอมา"
"แต่ถ้าเป็นในโชเซียล ถ้าเราแพ้ขึ้นมา ผมมักจะโดนตำหนิ ด้วยเหตุผลอยากย้ายทีม มันจึงทำให้ผมคิดว่า พวกเขาคงคิดเองว่าผมฟิตและพร้อมเล่นทุกเกม แต่ถ้าเล่นไม่ดีจริงๆ ผมก็พร้อมนำกลับไปปรับปรุง"
1
"มีบางช่วงที่ผมรับรู้ว่าไม่ได้รับความรัก มันเกิดขึ้นใน 2 ฤดูกาลสุดท้าย พวกสื่อก็ทำให้สถานการณ์แย่ลง มักบอกว่า ผมไม่รับข้อเสนอลิเวอร์พูล เพราะต้องการเงินมากกว่าเดิม"
1
"แฟนก็เลยเชื่อไปว่า เมื่อไม่ได้ตามที่เรียกร้อง ก็เลยไม่ตั้งใจเล่น ไม่ต้องการชนะ ผมเลยได้แต่รู้สึกว่า อะไรวะ ผมอีกแล้วหรือเนี่ย?"
นี่คือบางส่วนของบทสัมภาษณ์ ไวจ์นัลดุม ซึ่งบางคนได้ยินแล้วก็เห็นใจ แต่ก็มีบ้างที่ยังฝังแน่นในความรู้สึก ยังไงต้องเป็นเรื่องเงินแน่นอน
เจมี่ คาร์ราเกอร์ คือหนึ่งในคนที่ไม่เชื่อ โดยแสดงความเห็นว่า ไวจ์นัลดุม ไม่ควรเอาคอนเมนต์ในโซเชี่ยลมาเป็นข้ออ้างหรือทำให้รบกวนจิตใจหรอก
ในโลกโซเชี่ยลมันเหมือนละครสัตว์ ทุกสโมสรต่างก็มีตัวตลกด้วยกันทั้งนั้นแหล่ะ เราต่างก็น่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพิ่งมาเกิดขึ้น
1
"เขาแค่อยากได้เงินมากกว่าเดิมและสโมสรบอกว่าไม่ได้ นั่นแหล่ะคือฟุตบอล!"
ประโยคนี้คือบทสรุปของ คาร์ร่า ซึ่งกระชับชัดเจนดี ไม่จำเป็นต้องยกนั่นนี่มาอ้างให้เสียเวลาเลย
ทุกคนต่างเห็นและรับรู้ดีอยู่แล้วว่า ไวจ์นัลดุม เป็นที่ยอมรับ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีที่ลิเวอร์พูล ยกระดับเป็นแกนหลักในทีม จนประสบความสำเร็จฟาดมาหมดทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและพรีเมียร์ลีก
เจอร์เก้น คล็อปป์ พยายามโน้มน้าวทุกวิถีทางแล้ว กระทั่งเข้าใจว่าคงยาก ในเมื่อข้อเสนอมีเพดานที่วางไว้อยู่ คงไม่อาจปล่อยให้ทะลุเกินลิมิต ซึ่งมันอาจส่งผลกระทบถึงโครงสร้างในอนาคต
ดังนั้น ไวจ์นังดุม จึงเก็บสัมภาระ โยกไปปารีสฯ พร้อมเสียงบ่นเสียดายจากเดอะ ค็อปมากมาย
ไม่แน่ใจเหมือนกัน ความรู้สึกเสียดายดังกล่าว จะยังหลงเหลือมากน้อยแค่ไหนในเวลานี้
----------------------
นอกจากต้องปรับตัวกับปารีส แซงต์ แชร์กแมงแล้ว อุปสรรคหลักใหญ่ของ ไวจ์นัลดุม คือการแย่งตำแหน่งตัวจริง
ในทีมชุดปัจจุบันมีมิดฟิลด์ตัวกลางหรือที่เล่นตำแหน่งคล้ายกัน เป็นคู่แข่งพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น เลอันโดร ปาเรเดส , อดริสซ่า กานา เกย์ , มาร์โก แวร์รัตติ , อันเดร เอร์เรร่า และ ดานิโล่ เปเรยร่า
ไม่ง่ายเลยที่จะแทรกตัวเป็นตัวเลือกต้นๆหรือกระทั่งลงตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ จึงต้องเริ่มด้วยการเป็นตัวสำรอง
ผลงานเมื่อนับถึงปัจจุบัน ดูเผินๆแล้วไม่ได้แย่อะไรนัก ลงในลีกเอิงถึง 30 เกม แต่เมื่อแยกย่อยลงรายละเอียด มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย
เขาเป็นตัวจริง 18 นัด สำรอง 12 นัด และเล่นครบ 90 นาทีแค่ 7 นัดเท่านั้นเอง พอจะฟ้องได้ว่า นี่คือนักเตะที่อยู่ในโหมดอะไหล่มากกว่า
ส่วนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งเป็นความหวังใหญ่ ได้เล่นแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้นและออกสตาร์ตแค่ 2 เกมอีกต่างหาก ที่เหลือคือนั่งรอโอกาสต่อไป
มันชัดเจนแล้วว่า ในเกมสำคัญหรือมีความหมาย ไวจ์นัลดุม เป็นได้เพียงแค่ตัวสแตนบายด์เท่านั้นเอง
ส่วนช่วงหลังที่ได้ลงมากขึ้น มีสาเหตุมาจากอาการบาดเจ็บของ อันเดร เอร์เรร่า ซึ่งลากยาวมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์และเพิ่งเรียกฟิตลงได้ในเกมล่าสุด
ในขณะเดียวกัน บางนัดทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ถอยเอา ดานิโล่ เปเรยร่า ไปเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก ทำให้โควต้ากองกลางพอมีที่ว่างอยู่บ้าง
เมื่อได้ลงเล่นแบบกระปริดประปรอย แถมผลงานยังดร็อปลงไป ไม่โดดเด่นเหมือนตอนเล่นลิเวอร์พูล มันจึงกระทบชิ่งมายังสถานะในทีมชาติฮอลแลนด์ด้วย
หลุยส์ ฟานกัล กุนซือดัตช์ ประกาศรายชื่อผู้เล่นทำศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เดือนหน้าเจอทั้งเบลเยี่ยม , เวลส์และโปแลนด์ โดยที่ไร้ชื่อ ไวจ์นัลดุม ด้วยเหตุผลที่เข้าใจกัน นั่นคือผลงานจากสโมสร
"โชคร้ายที่สถานการณ์ของ จินี่ ที่สโมสรเปลี่ยนแปลงน้อยไป ผมจึงต้องหาคนอื่นมาทดแทน เสียใจด้วยจริงๆ" ฟานกัล ว่าไว้อย่างชัดเจน
แล้วเมื่อหันมามองลิเวอร์พูลในเวลานี้ ซึ่งกวาดไปแล้ว 2 แชมป์ลีกคัพและเอฟเอคัพ รวมทั้งลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ 4 แชมป์ ไม่รู้เหมือนกันว่า ไวจ์นัลดุม จะคิดอย่างไร
เขากำลังจากลิเวอร์พูลมาครบ 1 ปีและคงไม่คิดว่า มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี้หรอก
เปล่าประโยช์ที่จะไปถามว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ ยังจะตัดสินใจอย่างเดิมหรือเปล่า
เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้นั่นเอง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา