“ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง” จากร้านยี่ปั๊ว สู่ธุรกิจขนม หมื่นล้าน
รู้ไหมว่าเบนโตะ เจเล่บิวตี้ โลตัสหนังไก่กรอบ เครื่องดื่มตราเมจิกฟาร์ม อควาวิตซ์ วิตามิน มิเนอรัลวอเตอร์ แบรนด์เหล่านี้ต่างมีเจ้าของเดียวกัน
นั่นคือ ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ SNNP ที่มีจุดเริ่มต้น เป็นเพียงร้านยี่ปั๊ว
ขายขนมปังบรรจุปี๊บ แต่วันนี้กลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 14,700 ล้านบาท
วันนี้ เรามาดูกันว่าเส้นทางที่ผ่านมาของ SNNP เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ SNNP ก่อตั้งขึ้นในปี 2515 หรือราว 50 ปีก่อน โดยคุณวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล เพื่อทำการผลิตและขายขนมปังบรรจุปี๊บ
ในช่วงแรก ร้านของคุณวิวรรธน์นั้นขายดี จนถึงขนาดครองส่วนแบ่งทางการตลาดขนมปังบรรจุปี๊บ เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
แต่ในเวลาต่อมา เขาก็เริ่มเจอกับความท้าทาย เพราะนอกจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นแล้ว วัตถุดิบซึ่งก็คือ “แป้งสำหรับทำขนมปัง” เริ่มขาดตลาด
ด้วยความที่คุณวิวรรธน์ ต้องนำเข้าวัตถุดิบแป้งจากต่างประเทศ
ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น จนเมื่อทำไปสักพักแล้ว กลับกลายเป็นว่าบริษัทแทบไม่มีกำไรเลย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณวิวรรธน์มองว่าเขาต้องไม่ยึดติดกับธุรกิจเดิม อย่างขนมปังบรรจุปี๊บอีกต่อไป และได้ตัดสินใจ คิดเรื่องหันไปทำธุรกิจอย่างอื่นแทน
โดยเริ่มตั้งแต่การทำเจลลีแก้ว พร้อมสั่งเครื่องผลิตจากญี่ปุ่น เข้ามาปรับปรุงใหม่เป็นรายแรกในไทย และที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญเลย ก็คือ การทำปลาหมึกอบแบบแผ่น แบรนด์ “เบนโตะ”
สำหรับที่มาที่ไปของแบรนด์ปลาหมึก มีอยู่ว่าคุณวิวรรธน์ มองว่าตลาดขนมในประเทศไทยช่วงนั้น มีเจ้าตลาดปลาเส้นอยู่แล้ว และเขาก็ไม่ต้องการที่จะไปแข่งขันด้วย จึงเลือกที่จะทำปลาหมึกแบบแผ่น
ซึ่งก็ดูเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะปลาหมึกเบนโตะ กลายเป็นแบรนด์ปลาหมึกที่เข้ามาอยู่ในสมองของผู้บริโภค และก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
ถึงขนาดทำให้ 7-Eleven ที่ไต้หวัน ติดต่อขอเป็นช่องทางจำหน่ายให้กับเบนโตะตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงร้านผลิตและขายขนมปังบรรจุปี๊บ
ธุรกิจของ SNNP ก็เติบโตขึ้น มีสินค้าหลากหลายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นขนมเจลลี น้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากปลาและปลาหมึก และอย่างอื่นตามมาอีกมากมาย
โดยสินค้าหลายอย่างของ SNNP ที่ถ้าพูดถึงชื่อแบรนด์
หลายคนน่าจะคุ้นเคย เช่น
- ปลาหมึกอบเบนโตะ
- เจลลีพร้อมดื่ม ตราเจเล่
- โลตัสหนังไก่กรอบ
- เครื่องดื่มตราเมจิกฟาร์ม
- อควาวิตซ์ วิตามิน มิเนอรัล วอเตอร์
โดยกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ของ SNNP นั้น มาจากกลุ่มขนมขบเคี้ยว
ปัจจุบัน นอกจากตลาดในประเทศไทยแล้ว SNNP ยังขยายตลาดด้วยการส่งออกสินค้าของบริษัทไปขายยังต่างประเทศ อีกกว่า 35 ประเทศ ใน 5 ทวีป ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา ยุโรป และแอฟริกา
ขณะที่สัดส่วนรายได้ของ SNNP มาจาก
- ตลาดในประเทศ 79%
- ตลาดต่างประเทศ 21%
โดยช่องทางการขาย จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลัก คือ
- ช่องทางโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส, บิ๊กซี 52%
- ช่องทางการค้าดั้งเดิม เช่น ร้านยี่ปั๊ว 48%
หากเรามาดูรายได้และกำไรของ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
ปี 2563 รายได้ 4,436 ล้านบาท กำไร 94 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,392 ล้านบาท กำไร 437 ล้านบาท
โดยเหตุผลที่กำไรเติบโตเป็น 4 เท่าจากปีก่อนหน้า ก็เพราะว่ามีการออกสินค้าใหม่ ที่อัตรากำไรสูงขึ้น บวกกับบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น
โดยปัจจุบัน SNNP มีมูลค่าบริษัท 14,700 ล้านบาท
หนึ่งในไอเดียที่เราได้จากเรื่องราวของ SNNP เลย
ก็คือ ในบางครั้งเราจำเป็นต้องยอมรับว่า หากธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่มันเปลี่ยนไป
เราก็ต้องกล้าตัดสินใจที่จะไปต่อ อย่ายึดติดกับอะไรเดิม ๆ
อย่างในกรณีของคุณวิวรรธน์ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุน อย่างแป้งขนมปังที่มีราคาแพงขึ้น
และรู้ดีว่าหากทำต่อไป อย่างไรก็ไม่มีกำไร จึงตัดสินใจเลิกทำ และหาโอกาสใหม่ไปเลย
ในที่สุด เขาก็ได้พบเข้ากับเบนโตะ
ที่เขามองว่า นี่แหละของใหม่ ทำก่อนแถมไม่ต้องแข่งขันกับใคร
จนเบนโตะนี้เอง ที่กลายเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ
ที่ทำให้ในวันนี้ SNNP กลายมาเป็นธุรกิจขนมขบเคี้ยว ระดับหมื่นล้าน..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
References
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2564, บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
