โลกกำลังเจอภาวะ ต้นทุนสูงเกินไป ที่จะขายสินค้าได้กำไร
ต้นตอที่เร่งให้เงินเฟ้อทั่วโลกดีดตัวสูงขึ้นรุนแรง ก็คือ ราคาน้ำมัน และอาหาร
ซึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย
ยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก
รัสเซียเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ของโลก
และรัสเซียยังเป็นผู้ส่งออกน้ำมัน และแก๊สธรรมชาติ รายใหญ่ของโลกอีกด้วย
ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือ
พอราคาปุ๋ยสูงขึ้น ต้นทุนในการทำเกษตรกรรมจะสูงเกินไปที่จะทำแล้วคุ้มค่า
พอราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการผลิตสินค้าจะสูงเกินไปที่จะได้กำไร
ดังนั้นเมื่อผู้ผลิตเห็นว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะผลิต ก็จะมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง ก็คือ
1. ชะลอการผลิตออกไปก่อน
2. ขึ้นราคาสินค้า
ในบางสินค้าที่สามารถขึ้นราคาได้โดยง่าย โดยมีผู้บริโภคคอยซื้ออยู่ตลอด เช่นสินค้าแบรนด์หรู ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่หลายสินค้าที่ไม่สามารถขึ้นราคาได้ ก็เป็นเพราะ ถูกควบคุมราคาโดยภาครัฐ เช่น สินค้าพื้นฐานในชีวิตประจำวันทั้งหลาย หรือถ้าขึ้นราคาสูงไป ผู้บริโภคจะไม่มีกำลังซื้อ หรือไปบริโภคสินค้าอื่นที่ทดแทนกันได้
ดังนั้นต่อจากนี้ไปเราจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการหลายราย เลิกกิจการ เลิกผลิต เลิกบริการ เพราะรู้ตัวว่าทำไปก็ไม่ได้กำไร เพราะต้นทุนมันมากกว่าราคาขาย ซึ่งเรื่องนี้อันตราย เพราะถ้าการผลิตหดตัวลง จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าได้
ล่าสุด การบริโภคที่ลดลง และต้นทุนที่สูงขึ้น เริ่มส่งผลในกลุ่มบริษัทค้าปลีกบ้างแล้ว
2 วันก่อน หุ้น Walmart -11% หลังประกาศงบ เป็นการปรับตัวลดลงแรงสุดตั้งแต่ปี 1987 หรือในรอบ 35 ปี
หุ้น Target อีกหนึ่งธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ -24% ภายหลังจากรายงานว่าบริษัทมีปัญหาเรื่องซัปพลายเชน ทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว การควบคุมเงินเฟ้อนั้นมีอยู่ทางเดียวที่ทำแล้วได้ผลก็คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น FED หรือ ธนาคารกลางสหรัฐ จึงมีนโยบายปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เพื่อชะลอเงินเฟ้อ ซึ่งผลเสียก็คือจะทำให้ผู้ประกอบการทั้งหลายมีต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ แต่หลาย ๆ รัฐบาลทั่วโลก ที่มีเสถียรภาพต่ำก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เริ่มจากค่าเงินที่อ่อนลง ไม่สามารถซื้อสินค้าด้วยเงินตราต่างประเทศในราคาเท่าเดิมได้ อย่างที่เราได้เห็นกันในประเทศศรีลังกา ลาว และจะเริ่มมีประเทศอื่น ๆ ตามมา
สรุปแล้ว โลกกำลังเจอภาวะเศรษฐกิจแบบกระอักกระอ่วน ที่เรียกว่า Stagflation คือเศรษฐกิจชะลอตัว ในขณะที่เงินเฟ้อสูง
รัฐบาลจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ก็จะยิ่งไปซ้ำเติมเศรษฐกิจให้แย่ลง
รัฐบาลจะคงดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะยิ่งไปซ้ำเติมให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
เรากำลังจะได้เห็น สินค้าต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
เรากำลังจะได้เห็น พืชผลน้อยลง เพราะคนปลูกน้อยลง
พูดง่าย ๆ คือ การผลิตสินค้าและอาหารของโลกกำลังถูกทำให้สะดุด ซึ่งจะทำให้เกิดประเด็นที่น่าเป็นห่วงตามมาก็คือ การเข้าสู่ภาวะการขาดแคลนสินค้าและอาหาร
รู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้อาหาร ที่ผลิตมาบนโลกนี้จะถูกผลิตเป็นห่วงโซ่ที่มีอายุที่สั้นมาก โดยเฉลี่ยเพียง 90 วัน
แค่กิจกรรมการผลิตอาหาร ถูกทำให้สะดุดไปสัก 10 วัน
มันก็มากเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ของคนทั้งโลก 7,900 ล้านคน..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
- 155
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
