20 พ.ค. 2022 เวลา 06:30 • ข่าว
"หมอยง" ชี้ "ฝีดาษวานร" ไม่ใช่โรคใหม่ ย้ำการเฝ้าระวังเป็นสิ่งจำเป็น
"หมอยง" เผย "ฝีดาษวานร" ไม่ใช่โรคใหม่ ไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนก การติดต่อแพร่กระจายต้องสัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำการเฝ้าระวังเป็นสิ่งจำเป็น
1
วันที่ 20 พ.ค. 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "ฝีดาษวานร" โดยระบุว่า การเรียกชื่อฝีดาษวานร อยากให้เป็นเกียรติและระลึกถึงท่านศาสตราจารย์นายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้ตั้งชื่อโรคนี้ในประเทศไทย
สำหรับ ฝีดาษวานร ไม่ใช่โรคใหม่ พบครั้งแรกในลิงปี 2501 และพบในคนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ในแอฟริกาตอนกลาง และแอฟริกาตะวันตก ฝีดาษวานรคล้ายกับโรคฝีดาษในมนุษย์ แต่ความรุนแรง และการแพร่ระบาดได้น้อยกว่าฝีดาษมาก การติดต่อทราบกันดีว่า คนจะติดมาจากสัตว์ เช่น ลิง สัตว์ตระกูลฟันแทะ กลุ่มหนูในแอฟริกาและกระรอกแหล่งระบาดจะอยู่ในแอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง
1
ทั้งนี้ การพบนอกแอฟริกา ส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางมาจากแอฟริกา และหรือสัมผัสกับสัตว์ที่นำมาจากแอฟริกา การติดต่อระหว่าง คนสู่คนเป็นไปได้ แต่ต้องสัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่น สัมผัสกับน้ำใส ตุ่มหนอง หรือสารคัดหลั่ง ใช้เสื้อผ้าร่วมกัน นอนเตียงเดียวกัน การเลี้ยงสัตว์ต่างถิ่นที่เป็นพาหะโรคนี้อยู่ ในอดีตที่ผ่านมายังไม่พบการระบาดใหญ่ พบเป็นกลุ่มในแอฟริกา และพบในยุโรปและอเมริกา เคยมีรายงานผู้ป่วยในสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ในอังกฤษมีการตั้งข้อสงสัยการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยังต้องรอการยืนยัน เชื้อไวรัสเป็นกลุ่มเดียวกับโรคฝีดาษ จึงเชื่อว่าวัคซีนป้องกันฝีดาษ น่าจะป้องกันโรคนี้ได้ คงต้องรอการพิสูจน์ การปลูกฝี มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝีดาษสูงมาก จึงทำให้โรคฝีดาษหมดไป และประเทศไทยเลิกปลูกฝีตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 ใครที่เกิดก่อนปี 2517 จะมีแผลเป็นจากการปลูกฝี
ผมเองก็มีฝีดาษวานร ไม่เคยพบในประเทศไทย ไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนก การติดต่อแพร่กระจายต้องสัมผัสอย่างใกล้ชิด การเฝ้าระวังเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง รวมทั้งการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้าสู่ประเทศไทย.
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
โฆษณา