22 พ.ค. 2022 เวลา 03:03 • ความคิดเห็น
หลักธรรมะไงล่ะครับ ธรรมะที่แท้จริงในเบื้องต้นคือหน้าที่ คือการดําเนินชีวิตไปตามธรรมชาติ นั่นคือเราทํางานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม หากคุณเป็นคนกวาดถนน ก็ทําอย่างมีฉันทะ ทําให้บ้านเมืองสะอาด นึกถึงส่วนรวม เป็นนักการเมืองหรือข้าราชการก็ทําหน้าที่รับใช้ประชาชน เป็นเศรษฐีก็กระจายความมั่งคั่งให้ส่วนรวม เป็นตํารวจก็จับผู้ร้ายผดุงความยุติธรรมให้บ้านเมือง เป็นทหารก็รับใช้ชาติ
เป็นครูก็สอนให้ลูกศิษย์เป็นคนดี เป็นพ่อแม่ที่รักและเคารพของลูกๆ เป็นนักบวชก็ทําตัวให้เป็นที่เคารพศรัทธา ทุกๆคนรู้หน้าที่ ทําหน้าที่ของตัวเอง อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ แค่นี้สังคมก็สงบสุข บ้านเมืองก็เจริญก้าวหน้า และหน้าที่ที่ว่า
นอกจากฉันทะ แล้ว ต้องทําไปด้วย วิริยะ จิตตะ วิมังสา ด้วย คือ รัก มีความเพียร ใส่ใจในหน้าที่ ทําไปด้วยสติสัมปชัญญะ
ไม่มีแรงขับดันของกิเลสตัณหาเป็นตัวผลักดัน หรือขับเคลื่อน จะเกิดความขัดแย้งและนํามาซึ่งความทุกข์ เช่น ถ้าเป็นคนกวาดถนนแต่อยากจะรวย หรือเป็นครูแต่ขี้เกียจสอนแต่ชอบรับจ๊อบสอนพิเศษ เป็นพระที่เอาแต่ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เน้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
เมื่อเรามีธรรมะในหัวใจ เราก็มีหลักยึดในการดำเนินชีวิต และเราจะก้าวหน้าไปกว่านั้น เมื่อเราเข้าใจหลักธรรมะที่เป็นคําสอนขององค์พระศาสดา ที่สอนให้เราเข้าใจชีวิต เข้าใจถึงความจริงของธรรมชาติ เราก็จะใช้ชืวิตอย่างมีสุข ทุกข์มีได้นิดหน่อย เข้าใจโลก ไม่บ่นไม่โวยวาย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หลงไปกับมายาของโลก
และเป้าหมายสูงสุดของชีวิตคือ ยกระดับจิตใจเพื่อพ้นสภาวะแห่งความเป็นมนุษย์ ไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนของวิวัฒนาการของมนุษย์ชาติที่แท้จริง
โฆษณา