22 พ.ค. 2022 เวลา 04:55 • ปรัชญา
เรื่องราวของความสำเร็จ ..มันเป็นคำถาม..ที่ต้องพิจารณา..ทำความเข้าใจ ..ที่สุดชีวืดต้องตายๆ ต้องตายแน่นอน ..การที่เราเราพิจารณาเรื่องของความตาย ที่ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลก..นั่นก็เดินไปสู่จุดนั้น คราวนี้ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น เราก็มาทบทวนพิจารณาเรื่องราวของกาย..เราก็ไปดู…คนที่บอกว่าประสบความสำเร็จ…เราก็ดู..ไปนั่งดู..คนรวยบ้างคนจน..บ้างที่เดินเข้าออกโรงพยาบาล
ดูคนที่เค้าว่าประสบความสำเร็จ..ดูตอนที่เค้าว่า ประสบความสำเร็จ เค้าว่า..นะ ดูที่เรือนกายของเค้า..แข็งแรง ..ดูที่อารมณ์ของเค้า ..ดูที่กายวาจาใจ ที่เค้าว่ามีความสำเร็จ ดูที่หัวโขนที่เค้าใส่ ดูลักษณะกิริยาของผู้ที่ว่าความสำเร็จ นั้นมีความสุข หรือ ว่าว่าความนิ่ง หยุดนิ่งเฉย ต้องมีอารมณ์คิดนั้นคิดนี่ตลอด กายกับใจเค้า เคยพักมั้ย
บางคนบอกว่า ประสบความสำเร็จ..ร่ำรวยเงินทอง ..มีเงินมีทองรักษา โรครื้อรังที่เกิดขึ้นในกาย เงินทองนั้นให้ความสุขมั้ย
เรื่องที่ว่า สำเร็จ..ส่วนใหญ่ที่เราเข้าใจ มันเรื่องราวของอารมณ์ ที่เราอยากได้ อยากมี ทะเยอทะยานให้มี ตามที่อารมณ์นึกคิด..พอสุขสมหวัง..อารมณ์นั้นก็จางลง เดี๋ยว..อารมณ์นั่นก็ลุกขึ้นมาอีก ผุดขึ้นมาอีก ..พากายไปเสาะแสวงหา ..ไปกอบโกย..เงินทอง.. ได้มามากก็บอกว่ามีความสุข ไม่เคยคิดว่า จะมีกรรม..มีสิ่งที่จะมาบั่นทอน ชีวิตที่อาศัยกาย
พอกายเจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บพิกลพิการ มีโรครื้อรัง ถามว่า จะใช้ร่างกาย ไปเสาะแสวงหา อะไรได้มั้ย เราก็มาสมมุติว่า หากเราดำเนินชีวิต มุ่งมั่นแต่เรื่องราว ทำมาหากิน ที่ต้องใช้ร่างกาย ..ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ มีอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายจากการใช้กาย
เราเคยคิดมั้ยว่า นั่นมันก็คือ กรรม กรรมที่เราอาศัยเรือนกายนี้ไปเสาะแสวงหามา หามาไว้ทำอะไรบ้าง..ประโยชน์ที่ที่แท้จริงที่เราไปหามาคือ อะไร หามาเพื่อประทังสังขารพอมั้ย ไม่พอ..เอ้า..เอามาเก็บไว้ใช้ตลอดชีวิตพอมั้ย เอ้า..หากบอกว่าใช้ตลอดชีวิตก็ยังเหลือ ..เหลือไว้ให้ใคร ..ให้คนที่ยังอยู่ได้สนุกสนาน ใช้เงินใช้จ่าย เพื่อความสุขของเค้า ส่วนจิตเรา..เมื่อเคลื่อนออกจากกาย จะไปอยู่กับสิ่งไหน ก็ต้องคิดเหมือนกัน
หากเราได้มีโอกาส เราก็เอาจิตเอากายที่เรา อาศัยพัวพันอยู่กับโลกชั่วขณะหนึ่ง ให้จิตเรารู้จักกรรม รู้จักเรื่องบุญกุศล..ที่เค้าจะติดตามเราไป เมื่อจิตออกจากสังขารนี้ เราก็ได้เกิดมาสร้างบุญสร้างกุศล สร้างเรื่องราวอโหสิกรรม สร้างเรื่องอุทิศส่วนกุศลให้กับทั้งสิ่งที่เห็นด้วยสายตาและไม่เห็นด้วยสายตา
เมื่อจิตเราออกจากสังขารนี้ ก็ไม่เป็นโมฆะ ที่ได้มาอาศัยเรือนกายคุณบิดามารดาชั่วขณะหนึ่ง ได้ทำเรื่องราวบุญกุศล บันทึกติดตามไปกับจิต ไม่ใช่จิตมีแต่กรรมที่นำไป
ของ..ของโลก ต้องทิ้งไว้ในโลก เมื่อจากลา ความสำเร็จยิ่งใหญ่ ความจน ความรวย ความภูมิใจ อะไรๆที่หลอกเราว่าสำเร็จสำคัญ ก็ทิ้งไว้ในโลก ที่ว่าเคยยึด เคยถือว่าสำเร็จ ก็ต้องทิ้ง ไม่มีเอาอะไรไปได้เลย สิ่งที่จิตเอาไปก็คือกรรม หรือบุญกุศลบารมี ที่ต้องเลือกกระทำ ด้วยสติปัญญาในตน เมื่อกายนี้สังขารนี้ยังอำนวย แข็งแรง เพียบพร้อมให้กระทำ กายไม่แข็งแรงเจ็บป่วยเป็นกายกรรม ก็หมดโอกาส หมดกายใช้กายสร้างบุญกุศลบารมี
จิตเราตีองเดินทางออกจากสังขารนี้ ก็ควรศึกษาไว้บ้าง เพราะกายนี้ ตายแน่นอน ท่องกันไว้ จะได้เตือนสติของตน ว่าเราเกิดมาทำอะไร จะเอาอะไรไปกับจิตของเรา เพราะสิ่งเหล่านีมันมองไม่เห็น แต่มันก็ เป็นสิ่งที่จะทำให้จิตเดินทางไปหาที่ทุกข์ยาวนาน หรือ สุขยาวนาน ก็ต้องศึกษา เพราะเค้าให้เราเกิดมาแก้ไข เรียนรู้ เรื่องโลก เรื่องกรรม
เรื่องบุญกุศลที่มีเพียงกายมนุษย์เท่านั้น ที่สามารถกระทำได้ กายหมูหมาที่เราเห็นก็เป็นตัวอย่างจิตของผู้ที่กรรม ที่ต้องไปอยู่ในสั่งขารนั้นให้เราเห็น เป็นเพราะอะไร จิตดวงนั่น ทำไมไปอยู่ในสังขารกรรม เราก็ศึกษาขึ้น
..เพราะเราก็เป็นจิตดวงหนึ่งเหมือนกัน พลาดพลั้งไป เมื่อเราไปอยู่ในสังขารกรรม มันทุกข์หรือสุข ไม่รับรู้เลย ไม่มีโอกาศเรียนรู้เลย ไม่มีใครช่วยได้ เมื่อจิตไปอยู่ในสังขารสัตว์ กินนอนอยู่ในกรรมเท่านั้นเอง
ดูเรื่องความสำเร็จ ที่ต้องใช้เวลาอันยาวนาน https://www.blockdit.com/posts/61298eef1c61650ebedd9925
โฆษณา