23 พ.ค. 2022 เวลา 16:40 • ปรัชญา
๔./.๔ กายส่วนกาย จิตส่วนจิตต้องแยกจากกัน ปัญญารู้จักเรื่องราวของกรรม
สิ่งที่ไหลออกมาจากกายคนตาย
นี่แหละ คือสิ่งที่มองให้เห็นไกลๆ แล้วขยายมาอยู่ที่จิตของเรา เราก็จะรู้จักธรรม ที่เกิดขึ้นว่า อ้อ..ของนี้มันมีจริงน่ะ เราจะไม่แตะต้องมันอีกไม่ได้แล้ว อะไรต่างๆ เค้าไม่ให้เราไปแตะต้องอีก ถึงแม้ว่าเราจะไม่แตะต้องอีก แต่เค้าอยากจะให้เรารู้ซึ้งจริงๆ ว่าเราจะไม่แตะ เราจะไม่ไปมองทางนั้น
แม้แต่คนว่า คนนี้ อยู่คนข้างเคียงกัน เค้าเอาคาถามาให้เราดู คาถานี้ดีน่ะ มีฤทธิ์มีเดช เดี๋ยว..จะทำให้ดูน่ะ เค้า..ก็ทำให้ดูน่ะ โอ้โห..มีฤทธิ์มีเดชจับอะไรต่างๆ นี่ดูซิ..ตัวหนังสือ เค้าเขียนว่า อย่างนี้ๆ ถ้าเราเคยศึกษา เคยได้สัมผัสมาแล้ว ชะเลืองตาก็ไม่มอง เค้าจะแสดงอย่างไร ก็ตามใจ เราก็ดูไป ไปศึกษาเท่านั้น ไม่ไปสนใจ
คราวนี้ ถ้าเราไม่เคยรู้เรื่องราว พอเค้าเอาตัวหนังสือมาให้ดู เค้าแสดงเรื่องราวต่างๆให้เราเห็น เราทำยังไง ..เราหันขวับไปเลย ไปดู..ไปศึกษา..เอากับเค้าบ้าง โดยที่เราไม่ทำแล้ว แต่เห็นว่า ..น่าจะทำ มันก็เลยไหล ไปหากับเค้า
เมื่อรู้..เค้าให้ศึกษาแล้ว ต่อไปก็ ให้วิเศษอย่างไง ก็ไม่เอาแล้ว กลัว..กลัว..ไอ้เขี้ยวแหลมๆ จะมาขบ ขบเอาตัวเรา ให้ถึงที่สุดได้ เล็บก็ยาว แหม่..จะเขมือบเราลูกเดียว อย่างนี้ นี่แหละ เค้าให้ศึกษา ก็ศึกษาซะ รับรู้เท่านั้นเอง ไม่ได้ว่า ไปเป็นตัวเป็นตน ไปรังแกอะไรต่างๆ แต่มันก็ต้องชำระล้างเหมือนกัน ชำระล้าง..ด้วยการทำบุญบ้างปฏิบัติบ้าง หรือว่า หาสิ่งที่ควรชำระล้างเรื่องราวต่างๆให้มันหมดสิ้นไป
นี่ก็อธิบาย มากว้างๆ แล้วก็เอาไปพิจารณากัน ไปศึกษากัน ต่อไป จะได้รับรู้ว่า สิ่งนี้ มันมีจริง แล้วทำให้เราต้องตกอยู่ในกรรมจริงมั้ย สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่ทำให้เรามีทุกข์จริงมั้ย หรือว่า ทำให้เรามีสุข
คราวนี้ เราอุปโลกน์ไปเอง หลอกตัวเอง มีสุขจังเลย ไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา ที่จริงมันทุกข์จริงๆ ไม่ได้มีความสุขเลย เรื่องราวต่างๆ ที่ได้สร้างบุญสร้างกุศล ก็เพื่อต้องการ ขยายจิตของเราให้กว้างออกไปๆ แต่บังเอิญ มาในสถานที่นี้ ทำให้มีปัญญาเกิดขึ้น โดยได้ฟังการชี้เรื่องราวต่างๆ แล้วทำให้กายของเรา จิตของเรา มันนิ่ง..นิ่งขึ้น ทำให้เรามีปัญญา
ในการที่รับฟังเรื่องราวที่ขี้ ให้เห็น ว่าเรื่องราวของดี และ ชั่ว กรรมดีกรรมชั่วนั้นเอง ที่จะต้อง..ทุกคนต้องขวนขวาย นำสิ่งเหล่านี้..ออกจากจิตของเราให้ได้ แต่ว่าชาตินี้ มันยังไม่ถึงขนาดนั้น เราก็ค่อยๆ..ทำใจให้มันกว้างไว้ก่อน ไม่แคบ..เห็นใจซึ่งกันและกันมากเข้าๆ
โอ้ว..เดี๋ยวมันก็ดีเอง สิ่งต่างๆ สิ่งที่เรา..ชาตินี้เราดี ต่อใครๆเค้าน่ะ แล้วสิ่งนั้นไปไหนมั่น ไม่ได้ไปไหน จิตของเราไปสังเกตดูซิ จิตของเรากว้างขึ้น ไม่เห็นอะไรที่ มีความสำคัญ อะไรที่อยากได้ อยาก..อยากได้ไอ้โน้นอยากได้ไอ้นี่ เมื่อก่อนนี้ ทำไมถึงอยากได้จัง
เดี๋ยว..นี้ทำไมไม่อยากได้ เห็นบ้านโน้นเค้ามีงาน เราก็ไปช่วยเค้าด้วยความเต็มใจ เอาแรงกายไปบ้าง เอาวัตถุไปบ้าง อะไรอย่างนี้ หรือ ว่าไปช่วยคนนั้นเค้ายกของ คนนั้นเค้าไม่ไหว ไปข่วยเค้ายกอะไรอย่างนี้ แล้วเราไปสังเกตดูจิตของเรา มันจะกว้างขึ้นๆ จะเห็นสิ่งที่เป็นวัตถุ ที่เคยหลงใหลอยู่เนี่ย หรือ เคยเห็นเพชรเม็ดนี้ เคยอยากได้ พอเห็นตอนนี้ เฉยๆ ..
จิตมันกว้างแล้ว มันไม่ไปตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เป็นตัวยึด ไม่ไปโลภ ..ตัวโลภนั้นแหละ คือ พวกตระหนี่ถี่เหนียว พวกเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ทั้งนั้น
คราวนี้ผู้ที่ ไม่เอาก็กว้างขึ้นๆ ก็ไปสังเกตดูน่ะ เรื่องราวเหล่านี้ ไม่ใช่ว่า ..ฉันช่วยเค้าแล้ว ช่วยคนโนคนนี้ ฉันไม่เห็นได้อะไรเลย เสียทั้งเงิน เสียวัตถุ เสียทั่ง แรงกาย บางทีเค้าก็ว่า เอาอีก
สมมุติว่า วันนี้ เราเคย แกงหม้อหนึ่ง ส่งไปให้บ้านโน้นบ้านนี้ มีบ้านโน้น เค้าบอกว่า ไม่อร่อยเลยแกงเนี่ย ..ตอนแรกเรากเสียใจ พอบ่อยเข้า มีคนโน้นตำหนิ คนนี้ตำหนิ จิตผู้ให้…กลาย..ให้แล้วไม่เอาคืน ไอ้ที่เค้าบอกไม่อร่อย กเรื่องของเค้า เค้าเป็นคนพูด เราไม่ใช่เป็นคนพูด แต่มันอร่อยของเรา แต่ให้เค้าด้วยความเต็มใจ จิตมันก็ต้องกว้างขึ้น
นี่แหละ สิ่งเหล่านี้ อย่านึกว่าทำฟรี ไม่ฟรีหรอกน่ะ เป็นเรื่องที่ ทำให้จิตเรากว้างขวาง ไม่หลงใหล ในเรื่องของกรรมนั้นเอง
เช่นหลงใหล ในเรื่องที่อยู่ที่อาศัย หลงใหลในการอยากได้ไอ้โน้น อยากได้ไอ้นี่เกิดขึ้น อย่กได้เป็นไอ้โน้นไอ้นี่ จิตกว้างๆ เราก็ไม่เอาแล้ว ชักไม่อยากจะได้อะไรแล้ว เมื่อก่อนนี้ อยากได้ เดี๋ยวนี้ไม่อยากได้แล้ว เบาลงๆไปอะไรอย่างนี้
นี่ก็ขอให้ไปศึกษากันพอประมาณน่ะ นี่เค้าเห็นว่า เชิญใครมาล่ะ เชิญองค์ที่สูงเค้ามา เดี๋ยวเค้าก็มาช่วยเหลือโยมนั่นแหละ ก็ยอกเสียเลยน่ะ ท่านคงจะไม่มาบอกหรอก ท่านไม่บอกใครง่ายๆ ฉันจะบอกให้ ท่านมาช่วยเหลือ แต่ละคนน้อยแล้ว จะไม่มาช่วยอีกแล้ว
จะขึ้นคอยที่จะ เกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน เพื่อจะศึกษา เรื่องราวนิสัยมนุษย์ เกิดมาเป็นตัวตน เป็นมนุษย์เหมือนกัน เพื่อศึกษานิสัยมนุษย์ว่า มนุษย์ ..สร้างกรรมแล้วไปไหน ปลดปล่อยกรรมแล้วไปไหน มนุษย์ชอบอะไร เรื่องราวอารมณ์ต่างๆ เนี่ย
เค้ามาศึกษา แล้วถึงจะไป ลอยไปอยู่ คอยอีก..ไม่รู้ เป็นล้านปีว่าอย่างงั้น กว่าจะลงมาอีกทีหนึ่ง ตอนนี้ที่ท่านมาช่วยเนี่ย เป็นอีกสี เค้าเรียกว่าเป็นอีกระแสหนึ่ง แสงหนึ่ง ซึ่ง ส่งมาปราบปรามช่วยเหลือในสิ่งที่ไม่ดี ให้มันดีขึ้นเท่านั้นเอง ก็บอกกล่าวไว้แค่นี้แหละ แต่อธิบายยากนะ จะอธิบายให้เข้าใจ อธิบายยากเหมือนกัน สาธุ สาธุ สาธุ
โฆษณา