✅ สรุป Take away idea
FPI
- Product หลักคือชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็น Value-added หาก EV เข้ามาก็ไม่กระทบ
- บริษัทคาดว่าค่าเงินบาทจะอ่อนลงทั้งปีไปจนถึง Q4 ที่ 35 บาท (ตั้งใจจะทำ Option ไว้ทั้งปีนี้)
- ตอนนี้ Order จากจีนไหลเข้ามาเยอะ เพราะจีนยังปิดประเทศอยู่ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยาปีที่แล้ว
- รายได้หน่วยดอลลาร์โตประมาณ 30% และได้ประโยชน์จากค่าเงินอีกประมาณ 4% รวมๆ รายได้ Q1/65 = 593 ลบ. กำไรสุทธิ 105 ลบ. (NPM 17-18%)
- จุดเด่นของบริษัทคือสามารถทำ 1 day shipment ได้ประมาณ 70% ในส่วนงาน Trading (ลูกค้าสั่งของวันนี้ พรุ่งนี้ส่งของได้เลย)
- ตลาดที่โตเยอะคือ Middle east และ South America โดยเฉพาะประเทศ Saudi เพราะเพิ่งมีการเปิดให้ผู้หญิงสามารถขับรถได้ และมักจะนิยมรถยนต์เกาหลีซึ่ง FPI เข้าไปกินตลาด After market ประมาณ 60% ส่วนที่เหลือคือคู่แข่งจีนประมาณ 40% แต่คุณภาพของจีนสู้ไม่ได้
- FPI เน้นการทำ Product ที่ GPM สูง ในส่วนของ Production ตอนนี้เฉลี่ยอยู่แถว 34% และ Trading อยู่แถว 20% มีมาร์จิ้นสูง เพราะใช้กลยุทธ์สร้างแบรนด์ของตัวเอง
- Target GPM ดูในรูป สำคัญ* -> GPM ใน Q1 ดี แต่ยังไม่ดีที่สุด
- คู่แข่งหลักคือ OTN (Taiwan) เป็นบริษัทแรกที่ทำ After market
- เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจ B2C เป็นการให้ลูกค้าสามารถ Customize ตกแต่งรถยนต์ของตัวเอ
ได้ GPM สูง 80% รายได้ประมาณ 8 ลบ.
- ปัจจุบัน Order ทำไม่ทันและคิดว่าจะไม่ทันไปจนถึงปลายปี
- Q1 ปกติจะเป็น Low season ของบริษัท แต่ปีนี้ Q1-2 จะดีกว่าปกติเพราะจีนยังปิดประเทศอยู่ มีโอกาสปรับเป้าแต่ตอนนี้ยึดไว้ที่ 2,400 ลบ. ก่อน
- โรงงานที่อินเดียต้องมีรายได้ประมาณ 400 ล้านรูปี (ประมาณ 180 ลบ.) ถึงจะ Breakeven
#MoneyChamp
ขอบคุณน้องแชมป์
Money Champ ด้วยนะครัชช
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
