27 พ.ค. 2022 เวลา 11:50 • ธุรกิจ
ปีนี้ ธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโท จะมีรายได้ลดลง
1
ในปี 2021 หากเราลงทุนในบิตคอยน์ตั้งแต่ต้นปี และนำมาขายตอนสิ้นปี
เราจะสร้างผลตอบแทนได้เกินกว่า 70%
มากกว่าทั้งทองและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลาเดียวกัน
การที่ตลาดคริปโทร้อนแรง ปริมาณการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ
ธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโท ที่มีรายได้มาจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย จึงมีผลประกอบการดีแบบถล่มทลาย
สะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการของ Coinbase ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่มีรายได้เพิ่มเป็น 6 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
รวมถึง Bitkub ที่เมื่อปีที่แล้ว กวาดกำไรทั้งปีไปถึง 2 พันล้านบาท
เป็นสตาร์ตอัปที่ร้อนแรง จนก้าวขึ้นมาเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวในปีนี้ จะกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน
เพราะธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโท มีแนวโน้มที่จะมีรายได้ลดลง
แล้วเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เหตุผลหลักของเรื่องนี้ก็คือ “ปริมาณการซื้อขายในปีนี้ลดลง”
ทั้ง ๆ ที่มีผู้เข้ามาลองซื้อขายคริปโทกันมากขึ้น
1
อธิบายให้เห็นภาพจากผลประกอบการของ Coinbase
ไตรมาสที่ 1 ปี 2022 Coinbase มีปริมาณการซื้อขาย 10.6 ล้านล้านบาท
- ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อน
- ลดลงมากถึง 44% เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2021
ในขณะเดียวกัน Coinbase กลับมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
ไตรมาสที่ 1 ปี 2021 มีผู้เข้ามาทำธุรกรรม 6.1 ล้านบัญชีต่อเดือน
ไตรมาสที่ 1 ปี 2022 มีผู้เข้ามาทำธุรกรรม 9.2 ล้านบัญชีต่อเดือน
จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่ามีคนไหลเข้ามาในตลาดนี้เพิ่มขึ้น
แปลว่าที่ปริมาณการซื้อขายลดลง เพราะปริมาณการซื้อขายต่อคนลดลงมาก
เหตุผลก็น่าจะมาจากตลาดคริปโทปรับตัวลดลงแรง การซื้อขายจึงลดลง
และด้วยความที่ เป็นธุรกิจตัวกลาง เป็นศูนย์ซื้อขาย
ที่จะมีรายได้หลัก ๆ มาจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย
พอมีคนไหลเข้ามาเพิ่ม แต่ไม่ค่อยได้ซื้อขาย
รายได้จึงไม่เพิ่ม แถมบริษัทยังต้องมีต้นทุนในการบริหารจัดการอยู่
ท้ายที่สุด ก็จะส่งผลไปยังความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง
อย่างในกรณีของ Coinbase ในไตรมาสที่แล้ว มีรายได้ลดลง 35%
ก็ต้องบอกว่า บริษัทคงไม่ได้คาดการณ์ว่ายอดซื้อขายจะหายไปมากขนาดนี้ เพราะหากดูจากผลประกอบการ Coinbase ยังคงเพิ่มการใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการตลาดด้วย
ทำให้ในไตรมาสที่ผ่านมา Coinbase พลิกเป็นขาดทุน 1.5 หมื่นล้านบาท จากที่เคยทำกำไรได้ 1 หมื่นล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว
1
ส่งผลให้มูลค่าหายไปเลย -74% ตั้งแต่ต้นปี
ปัจจุบัน ซื้อขายกันที่ P/E ย้อนหลังเพียง 6 เท่า เรียกได้ว่าเป็น P/E ที่ต่ำ เพราะตลาดคาดการณ์ล่วงหน้าไปแล้วว่ารายได้จะลดลง
ซึ่งเรื่องนี้ ก็น่าจะเกิดขึ้นกับเจ้าของศูนย์ซื้อขายคริปโทอื่น ๆ ทั่วโลกเหมือนกัน
ทั้ง Binance, FTX ไปจนถึง Bitkub และ Zipmex ในประเทศไทย ก็น่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างกัน
อีกเหตุผล ที่ท้าทายธุรกิจนี้ ก็คือ “ความเชื่อมั่น”
ในปีนี้ มีหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบ ต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
แต่ที่เป็นประเด็นร้อนแรงที่สุด ก็คือ LUNA และ UST ของโด ควอน
เดิมที เขาเป็นอัจฉริยะชาวเกาหลีใต้ ที่เป็นผู้ออกแบบอัลกอริทึม Stablecoin ชื่อดัง
แถมแพลตฟอร์มของเขา ก็มีระบบให้คนนำเงินมาฝาก และให้ดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อปี
จนที่ผ่านมา มีแต่คนแห่กันนำเงินเก็บ หรือสำหรับบางคนคือเงินเก็บทั้งชีวิตมาฝากเอาไว้
แต่วันดีคืนดี ทุกอย่างที่เขาคิด และพัฒนาขึ้นมา
กลับถูกโจมตีโดยที่เขาหาทางรับมือไม่ทัน
บทสรุปที่เกิดขึ้นคือ ธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมา ซึ่งมีมูลค่ารวม ๆ กันหลายแสนล้านบาท
กลายเป็นศูนย์ จนสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ต่อความเชื่อมั่นของตลาดคริปโท ว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเหรียญอื่น ๆ หรือไม่
1
ทั้งยังส่งผลกระทบต่อผู้ที่มาร่วมลงทุนกับเขา อย่าง CZ ผู้ก่อตั้ง Binance
ที่สำคัญที่สุดคือ ส่งผลกระทบต่อคนที่เสี่ยงลุย All-in กับธุรกิจของเขา จนขาดทุนหนัก
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้ อาจจะเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว
เราก็ยังด่วนสรุปไม่ได้ ว่าธุรกิจนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง
1
เพราะปริมาณการซื้อขายที่ลดลง อาจจะมาจากสภาพเศรษฐกิจโลก
ที่เงินทุนกำลังไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง
เมื่อใดก็ตามที่สินทรัพย์เสี่ยงกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุน
ตลาดคริปโท ก็จะฟื้นตัว และกลับมาร้อนแรงเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามสำหรับในตอนนี้
หากให้ประเมินสถานการณ์ทั้งสภาพเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี บวกกับประเด็นเรื่องของโด ควอน
ก็ต้องบอกว่าโลกของคริปโทเคอร์เรนซี
จะยังคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกสักพัก
และมันจะทำให้ในปีนี้ ธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโท มีรายได้ลดลง..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
Reference
-Coinbase Global Q1 2022
1
โฆษณา