28 พ.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ผมเคยสู้เขาไม่ได้ ]
เกมชิงดำยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเที่ยวนี้ แสงไฟไม่น้อยสาดไปยัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งเคยมีปมดราม่ากับเรอัล มาดริดมาก่อน
ย้อนไปยังปี 2018 ลิเวอร์พูลหักด่านผ่านมาตัดสินแชมป์กับมาดริด แน่นอนว่า ซาลาห์ กำลังร้อนแรงสุดๆ ระเบิดไป 44 ประตูย่อมถูกจับตาในฐานะมวลมหาความหวังของเดอะ ค็อป
แต่เขาอยู่ในสนามได้แค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง เพราะปะทะกับ เซร์คิโอ รามอส จนเจ็บหัวไหล่อย่างหนัก ฝืนเล่นต่อไม่ไหว เดินออกจากสนามด้วยน้ำตานองหน้า ด้วยอารมณ์เสียใจและผิดหวังสุดขีด
ภาพดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจมากๆ แฟนบอลทั่วโลกรู้สึกเห็นใจ ซาลาห์ ที่ต้องมาเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ หลายคนก่นด่าสาปแช่ง รามอส ว่าเจตนาทำร้ายกันเลย เพื่อตัดกำลังตัวเก่งของฝั่งตรงข้าม
ซ้ำร้ายมาดริดเป็นฝ่ายชนะ ครองแชมป์อีกสมัยอย่างยิ่งใหญ่ ซาลาห์ แทบจะเจ็บปวดดับเบิ้ล
แม้วันเสาร์นี้ที่พาร์ค เดอ แพร็งซ์ ทางมาดริดจะไม่มี รามอส ยืนประจำการแนวรับแล้ว แต่ยังไงเรื่องในอดีตก็ต้องถูกจับเอามาโยงแน่ ยิ่งประเด็นการชำระบัญชีหนี้แค้น ดูเหมือนถูกนำมาพูดกันเพียบ
เพราะมีอดีตไม่น้อยไปกว่าใคร ซาลาห์ จึงได้รับความสนใจเป็นธรรมดา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเลย
แต่อีกหนึ่งแข้งของลิเวอร์พูล ซึ่งมีอดีตติดสอยห้อยตามความทรงจำเช่นกันคือ ฟาบินโญ่
เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อนหรอก เพราะย้ายมาลิเวอร์พูลหลังจากนั้นไม่นานนัก มีค่าตัวสูงถึง 40 ล้านปอนด์
1
แต่ ฟาบินโญ่ เคยเป็นนักเตะเรอัล มาดริดมาก่อน แม้จะไม่เป็นที่จดจำของแฟนบอลมากมายก็ตาม
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนหรือปี 2012 ฟาบินโญ่ ถูกทางริโอ อาฟสโมสรในลีกสูงสุดโปรตุกีสจับเซ็นสัญญาระยะยาว 6 ปีด้วยกัน ในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตา
แม้รูปร่างจะผอมเพรียวดูอ้อนแอ้น แต่ชั้นเชิงลูกหนังไม่ธรรมดา เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง รวมทั้งมุ่งมั่นตั้งใจด้วย แววตาฟ้องว่าเอาเรื่องเลยทีเดียว
1
จริงๆการย้ายมาริโอ อาฟ เหมือนเป็นการพักไว้ช่วงสั้นๆเท่านั้นเอง อยู่ได้เพียงแค่เดือนเศษ ก็ต้องเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ข้ามมาทางฝั่งสเปนเพื่อเล่นให้กับเรอัล มาดริดกาสตีญ่าหรือทีมสำรองของราชันชุดขาวในแบบยืมตัว
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ ฟาบินโญ่ ในวัยเพียงแค่ 18 ปี ต้องพยายามปรับตัวอย่างมาก ช่วงอยู่โปรตุเกสยังโอเคหน่อย ภาษาไม่มีปัญหา แต่พอโยกมาสเปน มีความแตกต่างหลายอย่าง
นอกจากนี้นิสัยที่ขี้อาย พูดน้อย ชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ยังเป็นอุปสรรคพอสมควรเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันพื้นฐานทางบ้านก็ค่อนข้างไปทางยากจน การตัดสินใจมุ่งมั่นเอาดีทางแข้งอาชีพ ก็เพื่อหวังไว้ว่าอนาคตจะช่วยเหลือครอบครัวให้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง โดยที่ไม่ได้ตั้งเป้าต้องเป็นซูเปอร์สตาร์หรอก
ตอนนั้นเพื่อนนักเตะในทีมเยาวชน ส่วนมากมีอุปกรณ์พร้อมสรรพ สตั๊ดรุ่นพรีเมี่ยมราคาแรง ฟาบินโญ่ ได้แต่มองด้วยความเหนียมอายเวลาลงซ้อม เพราะต้องหยิบอาดิดาสรุ่นโคปา มอนดิอัล ซึ่งตกยุคไปแล้วมาสวม
เขาต้องเจอทั้งสายตาที่มองมาแบบแปลกๆและหยามหยัน บางคนกระซิบกัน คงเห็นเหมือนเป็นตัวตลกขำขันอยู่บ้าง
ฟาบินโญ่ พยายามบอกกับตัวเองเสมอว่า สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือการทำงานหนักให้หนักที่สุดเท่านั้น เพื่อนำไปสู่สัญญาอาชีพ นั่นแหล่ะคือธงที่ปักเอาไว้
ยังดีที่ว่า โตมาส เมฆีอาส ผู้รักษาประตูที่เล่นในทีมสำรองเช่นกัน แต่อายุมากกว่า 5 ปี คอยให้การสนับสนุน
เมฆีอาส เป็นทั้งพี่และเพื่อนของ ฟาบินโญ่ พาไปพักที่บ้าน จัดแจงเป็นธุระปะปังให้หลายเรื่อง คอยดูแลใกล้ชิด ให้คำแนะนำต่างๆมากมาย
ด้วยความที่เข้ามาในอะคาเดมี่ของมาดริดตั้งแต่ 11 ขวบ จึงเป็นเหมือนขาใหญ่ หลายคนเกรงใจ นั่นจึงเป็นเหมือนเกราะกำบังให้ ฟาบินโญ่ อีกด้วย
ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าขุมกำลังดาวรุ่งของมาดริดตอนนั้นแข็งแกร่งเหลือเกิน นอกจากผลงานในลีกเปรี้ยงปร้างแล้ว ขีดความสามารถนักเตะก็สุดๆ
อัลบาโร่ โมราต้า คือหัวหอกที่ทั้งเก่งกาจและหล่อเหลา ตกเป็นเป้าสายตามากมาย นอกจากนี้ยังมีพวกตัวรุกอย่าง เฆเซ่ โรดริเกซ , เดนิส เชอรีเชฟ และ ลูกัส บาสเกซ คอยสนับสนุนด้วย
แดนกลางมี โอมาร์ มาร์กาเรลล์ ซึ่งภายหลังไปสร้างชื่อในบุนเดสลีกา บอร์ฆา การ์เซีย และดาวรุ่งดาวใหม่ที่แรงมากอย่าง กาเซมีโร่ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ด้านแนวรับมีคู่พี่น้อง นาโช่ เฟร์นานเดซ และ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ ซึ่งปัจจุบันเล่นกับลีดส์ ยูไนเต็ดคอยป้องกัน
นึกดูเอาแล้วกันว่า มาดริดสำรองขบวนนั้นเจ๋งแค่ไหน มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับ ฟาบินโญ่ ที่จะสอดแทรกเข้าไป
แน่นอนว่าตำแหน่งมิดฟิลด์ไม่มีที่ว่างหรอก เขาจึงต้องไปต่อสู้แย่งแบ็กขวาเอา ด้วยรูปร่างภาพลักษณ์แล้ว ดูจากภายนอกไม่น่าสนใจเท่าไรอีกต่างหาก
จริงๆการสู่มาดริดของ ฟาบิโญ่ มีเอเจ้นท์คนดังอย่าง ฮอร์เก้ เมนเดส อยู่เบื้องหลัง ผลักดันนักเตะที่มีแววเพื่อหาเวทีใหญ่ให้แสดงผลงาน หวังเป็นบันไดก้าวแรกไต่ไปสู่อนาคต
เพราะ เมนเดส เคยเป็นนักเตะมาก่อนและมีสายตาแหลมคมในการอ่านคนทั้งในและนอกสนาม จึงมั่นใจว่า ฟาบินโญ่ จะไปได้สวยแน่บนเส้นทางสายนี้
ต้องไม่ลืมว่ากุนซือชุดใหญ่ของมาดริดในเวลานั้นคือ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งมีความแนบแน่นกับ เมสเดส เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ที่สำคัญคือกุนซือริโอ อาฟ ซึ่งเป็นต้นสังกัดจริงของ ฟาบิโญ่ มีชื่อว่า นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เป็นลูกค้ารายแรกๆของ เมนเดส ในช่วงตั้งตัวเช่นกัน
2
ต้องยอมรับว่า ฟาบินโญ่ โชคดีที่ได้รับการสนับสนุน ไม่ง่ายเลยที่จะมี เมนเดส คอยค้ำชูดูแล
อัลแบร์โต้ โตริล โค้ชทีมสำรองของมาดริดช่วงดังกล่าว เล่าไว้ว่า ฟาบินโญ่ สูงถึง 190 เซนติเมตร แต่เล่นในแนวรับตลอด ไม่เคยขยับมายืนมิดฟิลด์เลยเต็มที่คือหุบมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก
ดังนั้นผลงานการเป็นสุดยอดกองกลางเชิงรับในปัจจุบัน ต้องยกนิ้วให้พัฒนาการเรียนรู้ของ ฟาบินโญ่ รวมทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่นำมาต่อยอด
ขณะเดียวกันเป็น มูรินโญ่ นี่แหล่ะที่ให้โอกาส ฟาบินโญ่ ลงเป็นตัวสำรองในช่วง 14 นาทีสุดท้ายเจอมาลาก้า ก่อนจะทำแอสซิสต์ให้ อังเคล ดิ มาเรีย ซัลโวปิดกล่องถล่ม 6-2 ต่างหาก
ด้วยเหตุนี้ ฟาบินโญ่ จึงมีความเชื่อมโยงกับมาดริดอย่างชัดเจนมากๆ ไม่ถึงขั้นผูกพันหรอก เพราะเขาถูกปล่อยให้โมนาโกยืมตัวในซัมเมอร์ปี 2013 นั่นเอง ก่อนจะย้ายถาวรในอีก 2 ปีถัดมา
แต่การได้เผชิญหน้าในนัดชิงวันเสาร์ มันย่อมมีความพิเศษแฝงไว้แน่นอน รวมถึงการได้ปะทะ กาเซมีโร่ และ นาโช่ ที่คุ้นเคยกันมา
ในอดีตเขาอาจแย่งตำแหน่งกองกลางตัวรับจาก กาเซมีโร่ ไม่ได้ก็จริง ทว่าที่พาร์ค เดอ แพร็งซ์จะได้พิสูจน์ว่าใครเจ๋งกว่ากัน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา