28 พ.ค. 2022 เวลา 06:00 • ธุรกิจ
สรุป 6 แนวทางลงทุนชนะเงินเฟ้อฉบับ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’
1
เงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งไม่หยุด สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก และในมิติของการลงทุนที่เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างหนักได้ส่งผลให้การลงทุนยิ่งผันผวนและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่บริษัท Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับเลือกที่จะทุ่มเงินมูลค่ากว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าซื้อหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวน ไม่แน่นอน บริษัทของเขากลับยังมีกำไรเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเขามีกลยุทธ์อย่างไรในการลงทุน ลองมาทำความเข้าใจวิธีคิดของเขาผ่าน 6 แนวทางลงทุนรับมือภาวะเงินเฟ้อสูงในแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์
💸 1: ลงทุนในธุรกิจที่ดีที่ต้องการเงินทุนต่ำ (Invest in good businesses with low capital needs)
ในภาวะที่เงินเฟ้อสูง บริษัทที่ต้องการเงินทุนต่ำอาจไม่ได้เหนื่อยมากนัก แต่บริษัทที่ต้องการเงินทุนสูงอาจต้องเหนื่อยกว่า บัฟเฟตต์จึงแนะนำว่า ในช่วงที่ภาวะเงินเฟ้อสูงควรเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีความต้องการเงินทุนที่ต่ำกว่า เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี
💸 2: มองหาบริษัทที่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ในช่วงเงินเฟ้อ โดยไม่เสียเปรียบคู่แข่งในตลาด (Look for companies that can raise prices during periods of higher inflation)
1
บัฟเฟตต์บอกไว้ว่า ธุรกิจไหนที่สามารถขึ้นราคาได้ ก็เหมือนกับเขาได้สร้างสะพานไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็เพียงแค่ตั้งด่านเก็บเงิน เพื่อเก็บเงินไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสร้างสะพานใหม่ แบบนี้ก็จะทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ หากเจอว่าธุรกิจไหนที่เข้ากับสมการนี้ เราสามารถเลือกลงทุนได้เลย
💸 3: ลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ Take a look at TIPS (Treasury Inflation-Protected Securities)
พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อคือพันธบัตรรัฐบาลที่มีการปรับมูลค่าโดยอ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อ นับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่บัฟเฟตต์แนะนำให้ลงทุนในช่วงที่ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ในประเทศไทยจะเรียกว่า ILB หรือ Inflation Linked Bond ซึ่งออกโดยกระทรวงการคลัง โดยในช่วงที่เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น การจ่ายผลตอบแทนของ ILB ก็จะยิ่งสูงตาม ดังนั้นจึงเหมาะกับการลงทุนในช่วงที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น
💸 4: ลงทุนกับตัวเอง (Invest in yourself and be the best at what you do)
ลงทุนในการขัดเกลาตัวเอง พยายามพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ ให้ดีหรือโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ค่าตอบแทนในการทำงานของเราเพิ่มมากขึ้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาอำนาจซื้อของเราเอาไว้ให้ไม่ลดลง ต่อให้เงินเฟ้อสูงแค่ไหน ก็แทบไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเรา
💸 5: หลีกเลี่ยงพันธบัตรแบบดั้งเดิม (Steer clear of traditional bonds)
พันธบัตรไม่ใช่ตัวเลือกการลงทุนที่ดีในปัจจุบัน เพราะอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าเรานำเงินก้อนเดียวกันไปลงทุนในธุรกิจ ไปซื้อกิจการ หรือลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดี ก็จะสร้างผลตอบแทนที่เติบโตให้กับเราได้มากกว่า เพราะพันธบัตรนั้นให้ผลตอบแทนคงที่ แต่ธุรกิจนั้นให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจ
💸 6: จำกัดความต้องการของตนเอง (Limit your wants)
พยายามตัดความต้องการที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต ยิ่งเราตัดไปได้มากเท่าไร เรายิ่งไม่ต้องพยายามที่จะไปเอาชนะเงินเฟ้อมากขึ้นเท่านั้น หรือจดบันทึกรายจ่ายของตัวเองเป็นประจำ เพื่อให้เห็นว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายของเราเป็นอย่างไร เพราะหนึ่งในสิ่งที่สร้างปัญหาหลักๆ ของชีวิตการเงินก็คือพฤติกรรมการใช้จ่ายนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าแนวทางลงทุนในภาวะเงินเฟ้อของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นอกจากจะชี้ให้เห็นว่าเราควรลงทุนในธุรกิจที่มีลักษณะอย่างไร หรือควรหลีกเลี่ยงการลงทุนแบบไหน ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคแล้ว บัฟเฟตต์ยังพยายามย้ำถึงการลงทุนในตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ปลอดภัย ยั่งยืน และต่อให้โลกต้องเผชิญภาวะเงินเฟ้อไปอีกยาวนาน โอกาสที่จะเกิดผลกระทบกับเราก็จะน้อยกว่าการลงทุนในแบบอื่นๆ แน่นอน
ดูคลิป The Secret Sauce EP.531 วอร์เรน บัฟเฟตต์ 6 แนวทางลงทุนชนะเงินเฟ้อ ได้ที่ https://youtu.be/tOqawDsMGWQ
สรุป 6 แนวทางลงทุนชนะเงินเฟ้อฉบับ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’
โฆษณา