28 พ.ค. 2022 เวลา 12:07 • ไลฟ์สไตล์
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเปรียบเทียบให้ฟัง เรื่องกิเลส ถ้าจะเดินจงกรมมาก มันก็ เอาละ พอละ ถ้าจะนั่งภาวนามาก เอาละ พอแล้ว จะพิจารณากรรมฐานเข้าไปนานๆ เอาละ พอละ คล้ายๆ ว่ามันปกปิด ปกปิดคุณงามความดีของตนเอง ปกปิดไม่ให้ทำเข้าสู่จุดนั้นได้
แต่ถ้าหากว่าเรามีบารมี หรือว่ามีบุญกุศลในจิตในใจ เราหยั่งดูเหตุดูผล ดูตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอน กิเลสในภายในใจของเรานี่นะ มันเป็นยังไง แล้วก็ธรรมที่เราจะเดินเข้าไปสู่จุดนั้นทำอย่างไร ถ้าเรากลั่นกรอง ไตร่ตรองด้วยเหตุและผล เราควรจะเดินชำระตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า พวกเราจะสำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนา
อันนี้แหละท่านอยากให้พวกเราทุกๆ ท่าน ยื้อกัน ความดีกับความชั่วนั่นน่ะ ถ้าหากว่าพวกเราทำแต่ความชั่ว โดยที่ความดีน้อย แปลว่า กิเลสภายในใจ กิเลสชนะ ชนะความดี แต่ถ้าหากว่าพวกเราทำความดี ความดีชนะความชั่ว คือความดีชนะกิเลส กิเลสคือความชั่ว
ในหลักธรรมคำสอนของครูบาอาจารย์ที่องค์หลวงตามหาบัวท่านพูด พวกเราจะได้ยินทุกกัณฑ์ที่หลวงตาจะพูด เรื่องกิเลสกับธรรม กิเลสกับธรรม กิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ โลภ โกรธ หลง อันนี้คือกิเลส
ธรรมก็คือธรรมที่จะชำระกิเลสภายในจิตใจของพวกเรา เอาชนะความขี้เกียจ เอาชนะความเลว เอาชนะความโลภ โมโหโลหนะ ราคะ โทสะ โมหะ ของเรา ออกจากจิตใจได้ มีธรรมจุดไหน อันนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราจะต้องกลั่นกรองไตร่ตรองพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล เราจะวางจะปฏิบัติตนอย่างไร ในจุดนั้น
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “เครื่องสำเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗
โฆษณา