29 พ.ค. 2022 เวลา 01:30 • ข่าวรอบโลก
และแล้วการวัดใจก็จบลง.. รัสเซียรอดพ้นจากการผิดชำระหนี้ทางเทคนิคที่สหรัฐพยายามจะกดดันให้เกิด
2
Russia’s National Settlement Depository (NSD) ของรัสเซียได้ชำระหนี้ให้ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยเป็นเงินสกุลยูโร และดอลลาร์ตามที่เจ้าหนี้ต้องการ
ตราสารหนี้ทั้งสองฉบับที่จะมีอายุครบกำหนดในปี 2026 และ 2036 และมีกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ครบกำหนดที่ระบุไว้ในตราสารหนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้จะมีการสั่งห้ามจากทางรัฐบาลสหรัฐก็ตาม เพราะถ้าหากเจ้าหนี้ไม่ได้รับเงินค้างชำระก้อนนี้จากทางรัสเซีย ก็อาจจะส่งผลให้รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิค
ในวันพุธที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯโดยคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลรัสเซียชำระหนี้ให้ผู้ถือพันธบัตรผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้กับทางเจ้าหนี้
การบีบให้รัสเซียผิดชำระหนี้จากสหรัฐ อาจส่งผลต่อสถานะของพันธบัตรรัสเซียต่อตลาดภายนอก ว่ารัสเซียมีความสามารถในการชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้พันธบัตรของรัสเซียถูกมองเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงในการผิดนักชำระหนี้สูงมาก และถือเป็นพันธบัตรขยะหรือพันธบัตรสำหรับเก็งกำไร
1
แต่ทางมอสโกที่ผ่านมาก็ได้ตอยโต้โดยทาง ยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย แจ้งว่าหากไม่ให้เราชำระเป็นดอลลาร์หรือยูโร เราก็มีแผนชำระหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิล เพราะทางสหรัฐฯ ขัดขวางไม่ให้ทางรัสเซียชำระหนี้ให้ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของอเมริกาเอง ซึ่งไม่ใช่ความผิดของรัสเซีย
อย่างไรก็ดีแม้จะทราบว่ารัสเซียถูกกลั่นแกล้ง แต่หากนักลงทุนที่ถือตราสารรัสเซียสกุลเงินต่างประเทศแต่ได้รับชำระเงินเป็นเงินสกุลเงินรูเบิล มูลค่าก็อาจจะดิ่งลงจากการปฏิเสธการยอมรับเงินสกุลรูเบิลในสหภาพยุโรปกับในสหรัฐจากการ Sanction นั่นอาจถือเป็นการเท่ากับการผิดนัดชำระหนี้ทางอ้อมด้วยเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ช่วงที่เกิดการบุกเข้ายูเครนใหม่ๆ ทางสหรัฐกับทางยุโรปได้อายัดเงินสกุลต่างประเทศของรัสเซียไว้ ตอนนั้นค่าเงินรูเบิลตกต่ำชั่วคราวและสถานการณ์ช่วงนั้นมีโอกาสอาจทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้รัสเซียได้มากที่สุด
เพราะธนาคารยุโรปและสหรัฐอเมริกาลงทุนในพันธบัตรรัสเซียกว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์หรือ ราว 3.9 ล้านล้านบาท ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นหนี้ก้อนใหญ่พอควร และมีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดปัญหาชำระหนี้จากรัสเซียได้
ซึ่งถ้าเกิดจริงช่วงนั้น อาจจะสร้างผลกระทบต่อสถาบันการเงินในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนของตลาดการเงินโลกรอบใหม่ได้
อย่างไรก็ดีถึงจะผ่านนัดการชำระพันธบัตรของเดือนพฤษภาคมมาได้ด้วยดี แต่ทางรัสเซียยังมีตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดชำระอีกในปลายเดือนมิถุนายนอีกสามฉบับที่มีอายุครบกำหนด 2027, 2028 และ 2048
ซึ่งทาง Anton Siluanov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแจ้งว่ากำลังจัดการหากลไกใหม่ในการที่จะชำระหนี้ตามกำหนดครบชำระของตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้
ขณะเดียวกันหลังจากที่รัสเซียรอดการผิดชำระหนี้แบบวัดใจลูกหนี้ไปแล้ว แต่ภาคเศรษฐกิจการเงินโลกยังมีความเสี่ยงในระดับสูง ยังมีประเทศที่น่ากังวลในการที่จะเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้อีกมากคือประเทศเล็กๆหลายประเทศทั้งในและนอกสหภาพยุโรปเอง
ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ECB หรือธนาคารกลางยุโรปแจ้งเตือนว่า ขณะนี้ ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้นมากในหลายประเทศ สาเหตุจากความขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเงินของหลายประเทศ เงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นทำให้กิจกรรมทางทางเศรษฐกิจทุกประเทศมีปัญหา
ราคาสินค้าทั้งอุปโภคบริโภคและพลังงานยังคงเพิ่มสูงและผันผวน อาจทำให้หลายบริษัทในหลายประเทศประสบปัญหาในการพบกับต้นทุนสูงขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง ทำให้หลายบริษัททั้งในและนอกกลุ่มยูโรโซนอาจพบปัญหาในการชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่จะครบชำระในปีนี้ และอาจรวมไปถึงรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นไม่สามารถหารายได้พอที่จะชำระหนี้ของพันธบัตรของประเทศตนเองได้
โฆษณา