จัดพอร์ตลงทุน Asset Allocation เอาชนะ ‘ตลาดหมี’ ในตอนนี้
ช่วงนี้อะไร ๆ ก็โทษพี่หมี เมื่อถนนการลงทุนทุกสายพากันมุ่งหน้าสู่ตลาดหมี (Bear Market) ไม่ว่าจะเป็นตลาด Nasdaq, ตลาด Hang Seng (HSI Index), ตลาด China A-shares (CSI300) และ Asia Ex Japan ล้วนตบเท้าเข้าสู่เส้นทางสายหมี ซึ่งบ่งชี้ได้จากดัชนีที่ปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดเกิน 20%
แต่ช้าก่อน เราไม่ได้หมีกันครั้งแรก!
เพราะตลอดเวลากว่า 140 ปีที่ผ่านมา เราเคยเดินเข้าสู่ตลาดหมีมาแล้วถึง 19 ครั้ง นั่นแปลว่าเราต้องมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง บทเรียนจากอดีตบอกเราว่าธรรมชาติของตลาดหมี คือดัชนีปรับตัวลงประมาณ 37.3% และใช้เวลา 289 วันในการฟื้นตัว นับจากวันที่ทำจุดสูงสุดไปจนถึงวันที่ฟื้นกลับขึ้นมา ขึ้นกับว่าเป็นตลาดหมีแบบใด ระหว่างตลาดหมีที่ค่อนข้างรุนแรง ตลาดหมีแบบไม่รุนแรง และตลาดหมีที่เกิดจากเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง
แล้วสถานการณ์ปัจจุบันนะหรือ ตลาดหมีครั้งนี้ถูกมองว่าเข้าข่ายตลาดหมีที่ค่อนข้างรุนแรง และแบบไม่รุนแรง กล่าวคือตลาดแบบนี้อาจเห็นดัชนีปรับลดลงไป 20-30% หากเลวร้ายกว่านั้นอาจเห็นมากกว่า 40% ก็เป็นได้ และจะใช้เวลาในการฟื้นตัวราว 3-5 ปีทีเดียว
แค่ฟังก็หลอนแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ข้อดีคือสถิติยังบอกเราว่า เราสามารถเอาชนะพี่หมีได้ด้วยการจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาสินทรัพย์พากันลดลงโดยพร้อมเพียงเช่นนี้ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ Asset Allocation
เพราะแม้แต่สินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างตลาดพันธบัตรที่เคยเป็นแหล่งกระจายความเสี่ยงที่ดี ในวันนี้ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิมแล้ว ดังนั้นการหวังสูตรลงทุนดั้งเดิมอย่าง หุ้น 60% พันธบัตร 40% ในปีนี้อาจจะไม่มีประสิทธิผลเช่นเดิม
BBLAM ได้นำเสนอสูตรการลงทุนใหม่ให้นักลงทุนจัดพอร์ตได้เหมาะสมกับสถานการณ์ และ Risk Appetite หรือความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละคน โดยกลุ่มที่รับความเสี่ยงได้น้อย เช่น คนวัยเกษียณที่มีระยะเวลาการลงทุนไม่ยาวมาก ก็ควรถือเงินสดเพิ่มขึ้น ลดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น รวมถึงพันธบัตรระยะยาวลงเพราะมีความเสี่ยงในยามดอกเบี้ยขาขึ้น นำทัพโดยดอกเบี้ย FED ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นรัว ๆ
หากคุณอยู่ในวัยทำงานที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรลดความเสี่ยงของพอร์ตลงมาตามทิศทางตลาดขาลง โดยเพิ่มสัดส่วนเงินสดในพอร์ต แต่ยังควรลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ อาจทำในรูปแบบของการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือน หรือ Dollar Cost Average (DCA) ในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
และกลุ่มสุดท้ายคือผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง ยินดีด้วย! ความใจกล้าของคุณทำให้คุณเหมาะกับการสู้ศึกตลาดหมีที่สุด โดยเฉพาะหากคุณมีระยะเวลาการลงทุนเกิน 5 ปีขึ้นไป เรียกว่าสู้ยังไงก็คุ้ม!
เพราะคุณจะมีเวลาเก็บของถูกที่ยาวนานกว่า การลงทุนในตลาดหมี จึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในช่วงตลาดกระทิง และดั่งสุภาษิตที่ว่า “ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ” เพราะหลังจากเกิดตลาดหมีไปแล้ว ตลาดกระทิงจะวิ่งเข้ามา อีกข่าวดีคือตลาดหมีมักสั้นกว่าตลาดกระทิงอีกด้วย เพราะฉะนั้นยังมีเวลาให้คุณเก็บกินได้อีกยาว ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่านักลงทุนใจกล้าทั้งหลายจะรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจกันขึ้นมาเยอะเลย จริงไหม? ลองมองหาหุ้นพื้นฐานดีมีอนาคตที่คุณสามารถทยอยเติมเข้าพอร์ต เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนีปรับลดลงมาเกิน 15% แล้ว รวมถึงการเลือกลงทุนในหุ้นที่สร้างความยั่งยืนในระยะยาว หรืออยู่ในเมกะเทรนด์ของโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็นธีมด้านพลังงานสะอาด ธีมเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ รถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
แต่ถ้าระหว่างทาง อยากหาจังหวะทำกำไรระยะสั้น ๆ หรือ Tactical Call ให้จิตใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง ตลาดหุ้นจีนก็มีความน่าสนใจ เพราะมีโอกาสฟื้นตัวจากปี 2021 จากความเสี่ยงเรื่องกฎเกณท์ที่ลดลง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากที่นโยบาย Zero Covid มีการปรับเปลี่ยนให้เข้มงวดน้อยลง
เมื่อตลาดหมีมาเยือน หากคุณมีเวลาที่จะลงทุนไปนาน ๆ แล้วละก็ BBLAM มีกองทุนในหลากหลายรูปแบบ พร้อมเสิร์ฟให้ตรงกับวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคล กองทุน RMF/SSF ก็เป็นทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวพร้อมประหยัดภาษี และหากทยอยเก็บสะสมหุ้นเข้าพอร์ตอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธี DCA ก็จะช่วยต่อยอดความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต พร้อมกันนี้ BBLAM ได้คัดเลือกกองทุนเด่น มาแนะนำนักลงทุน ดังนี้
B-INNOTECHRMF และ B-INNOTECHSSF กองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น Microsoft, Apple และ Alphabet ซึ่งล้วนแต่มีความแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวแรง
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
‣ B-INNOTECHRMF คลิก! https://bit.ly/3MgvQnK
‣ B-INNOTECHRMF คลิก! https://bit.ly/3MgvQnK
B-SIPRMF และ B-SIPSSF กองทุนรักษ์โลกที่จะตอบโจทย์ด้านราคาพลังงานและปัญหาขาดแคลนพลังงาน เพราะมุ่งการลงทุนไปในพลังงานสะอาด/พลังงานทดแทน
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
‣ B-SIPRMF https://bit.ly/3v1hfXA
‣ B-SIPSSF https://bit.ly/388L932
B-CHINAARMF และ B-CHINESSF เพราะประเทศมหาอำนาจอย่างจีน ยังต้องอยู่ในเรดาร์การลงทุน ตามแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่แห่งนี้
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
‣ B-CHINAARMF https://bit.ly/3GwTjzg
‣ B-CHINESSF https://bit.ly/3z4Hj6n
คำเตือน: การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน
กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
#BBLAM #BINNOTECHRMF #BINNOTECHSSF #BSIPRMF #BSIPSSF #BCHINAARMF #BCHINESSF #RMF #SSF #กองทุนรวม #การลงทุน #กองทุนลดหย่อนภาษี #ตลาดหมี #การจัดพอร์ต #AssetAllocation
