6 มิ.ย. 2022 เวลา 06:05 • ความคิดเห็น
ทำไมยุโรปต้องปกป้องยูเครน ?
... ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรปก็จะเข้าใจเอง....
มันเป็นคำถามที่หลายคนไม่เข้าใจ เลยทำให้เกิดความเชื่อไปถึงทฤษฎีสมคบคิดว่า เป็นเรื่องต่างๆนาๆที่เขียนกันไป
ที่จริงถ้าเข้าใจความเป็นมาของยุโรปจริงๆ เราจะเข้าใจไม่ยากว่าทำไม ยุโรปถึงต้องปกป้องยูเครน ทั้งที่ตัวเองก็เดือดร้อนอย่างมาก...
ภาพวาดของศึก waterloo อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุคนโปเลียน
เพราะยุโรป ไม่ใช่ดินแดนสงบสุขมาก่อน....
ยุโรปที่เราเห็นว่าเจริญๆนี่ ความจริงมันไม่เคยสงบสุข มันเพิ่งมานิ่งเอาหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่เอง
ก่อนหน้านั้น ยุโรปคือดินแดนที่มีปัญหามากที่สุดในโลก
มันอาจจะไม่ใช่สงครามยืดเยื้อมีการฆ่ากันรายวันแบบในแอฟริกา หรือตะวันออกกลาง
แต่มันหนักกว่านั้นมาก ยุโรปเวลามีปัญหา แทบทุกครั้งมันจะลามเป็นสงครามขนาดใหญ่
แถมขั้วอำนาจ พันธมิตรคู่สงคราม ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามผลประโยชน์ในขณะนั้น
ถ้าย้อนไปสมัยโบราณหน่อย ก็สงคราม 100 ปี อังกฤษ-ฝรั่งเศส ตีกันอยู่นาน ลามปามความขัดแย้งไปทั่วยุโรปด้วยความสัมพันธ์สุดสลับซับซ้อนของบรรดาราชวงศ์ต่างๆ จนยุโรปเละเทะไปหมด
มายุคล่าอาณานิคม ฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน ก็ฟาดกันเละเทะ แต่ส่วนมากเป็นลักษณะของยุทธนาวี คนจึงไม่เห็นกันมากนัก
ยุทธนาวีอังกฤษ-สเปน มีบ่อยมากในยุคอาณานิคม ที่เลื่องชื่อที่สุดคือการพิชิตกองเรือ Armada ของสเปนโดยกองทัพเรืออังกฤษ และเป็นจุดเริ่มของการเป็นเจ้าทะเลของอัง
ผ่านมาอีกสักพัก พวกปรัสเซีย(เยอรมัน ,ออสโตร-ฮังการี) ก็ขึ้นมามีอำนาจบ้าง นี่ก็ระรานไปทั่วเหมือนกัน แล้วก็มายุคนโปเลียนสร้างสงครามไปทั่วยุโรป
มายุคใหม่หน่อย ก็มีสงครามไครเมียร์(รัสเซีย-พันธมิตรยุโรป+ออตโตมัน)
แล้วก็ต่อด้วยสงครามโลกทั้งสองครั้ง เหล่านี้ เกิดในยุโรปทั้งสิ้น
เราจะเห็นว่า ยุโรปนั้นแม้จะเจริญก็จริง แต่ไม่เคยมีความสงบสุขจริงๆเลย
ที่เป็นแบบนั้นเพราะยุโรปไม่เคยมีเขตแดนแน่นอน
ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ก็มาก มันจึงเกิดปัญหาได้ง่ายมากๆ
ยุโรปเป็นภูมิภาคที่เกิดสงครามขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกว่าพอกันที กับเรื่องบ้าๆเหล่านี้.
มีการเริ่มชำระประวัติศาสตร์ร่วมกันเพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว
...เพราะเอาเข้าจริงๆ คนยุโรปมันก็ผสมกันมั่วไปหมดนั่นแหละ อย่างราชวงศ์อังกฤษทุกวันนี้ ที่จริงสืบเชื้อสายมาจากโจทย์เก่าคือฝรั่งเศสเสียด้วยซ้ำ พวกเขาจึงเลือกที่จะสลายความเข้มข้นของเชื้อชาติ เพื่อป้องกันลัทธิชาตินิยมสุดโต่ง...
การขีดขอบเขตดินแดนก็ชัดเจนขึ้น แล้วมันก็ทำท่าจะสงบจริงๆ จนมาเกิดกรณีฮิตเลอร์ ที่เอาเรื่องเชื้อชาติมาเล่นอีก แล้วก็กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบ มันจึงกลายเป็น พอคือพอแล้วจริงๆสำหรับยุโรป จะต้องไม่มีเรื่องบ้าๆ หรือคนบ้าๆโผล่มาสร้างปัญหาอีก
พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อสลายลัทธิชาตินิยมสุดโต่ง สร้างเขตแดนแต่ละประเทศให้แน่นอนที่สุด
ซึ่งพวกทีไม่เอาด้วยก็ไปรวมกับโซเวียต ซึ่งในขณะนั้นในกลุ่มสนธิสัญญาวอซอร์ไป.
แยกเป็นสองกลุ่ม ไม่ตีกัน จบเรื่องจบราวไป
แล้วมันก็สงบมาได้จนถึงสงครามในปัจจุบันนี่แหละ....
แผนที่ยุโรปตอนกลางก่อนสงครามโลกครั้งทีหนึ่ง เราจะเห็นว่ามั่วมาก และมีการผนวกรวมดินแดนเต็มไปหมด
สิ่งที่ยุโรปกำลังทำในปัจจุบัน มันไม่ใช่แค่การเอาชนะรัสเซียให้ได้
แต่มันคือการปกป้องแนวคิดว่าด้วยเขตแดน และชาติพันธ์ุที่พวกเขามองว่าเป็นปัญหา
ถ้าเขาเสียหลักตรงนี้ไป มันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบตามมาอีกมากมาย
ยุโรปตะวันตกนั้น จะบอกว่าไม่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเลยก็ไม่ถูกต้องนัก ที่จริงยังมีอยู่มากเสียด้วยซ้ำ
ทั้งช่องแคบอังกฤษ หรือบริเวณเทือกเขาแอลป์
มันก็ยังเป็นปัญหาคาราคาซังมาจนถึงทุกวันนี้
แต่พวกเขาเลือกใช้วิธีปล่อยมันไว้อย่างนั้น แล้วใช้ร่วมกันไปเสียเลยมากกว่า ผลประโยชน์ก็แบ่งกันไป
ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ต้องมีความเชื่อใจกันเป็นอย่างมาก
เช่น กรณีสร้างอุโมงค์ลอดช่องแคบอังกฤษ มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าอังกฤษและฝรั่งเศส ยังมัวแต่อ้างสิทธิของตน
...และสิ่งที่จะรับประกันความเชื่อใจเหล่านั้น คือ สนธิสัญญา. และนั่นคือที่มาจริงๆ ของ NATO...
NATO นั้น ผมค่อนข้างแปลกใจที่ตำราไทยและสื่อไทย ให้ความหมายว่า มีเพื่อต่อต้านอดีตสหภาพโซเวียตในสงครามเย็นเป็นหลัก
ทั้งที่ความจริง มันไม่ใช่แบบนั้น แต่นาโต้ มีผลมาจากสนธิสัญญาไม่รุกรานกันเองของชาติยุโรปตะวันตกเป็นหลัก(WEU) พอมันมีกันหลายๆชาติเข้า มันก็เลยกลายเป็นกลุ่มขึ้นมาอย่างที่เห็น
แน่นอน พวกเขาต้องการหลักประกันจากผู้มีกำลังมากที่สุดในโลก ดังนั้นอเมริกาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของยุโรปเอง
มันอาจจริงที่ว่า NATO คานอำนาจโซเวียตในอดีตเอาไว้ แต่ปัจจัยหลักจริงๆ มันเกินเลยถ้าจะบอกว่า NATO เกิดมาเพื่อทำสงครามกับโซเวียต โดยมองข้ามต้นกำเนิด และวัตถุประสงค์จริงๆของมัน....
1
ปัจจุบันยุโรปนั้น มีท่าทีต่อการเปลี่ยนแปลงเขตแดน ดินแดนภายในยุโรปเองค่อนข้างชัดเจนมาก
กรณีของ บาสก์ และคาตาลันในสเปน คือสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด
สองแคว้นนี้ในสเปน โดยเฉพาะบาสก์ มีความเป็นฝรั่งเศสมากกว่า พวกเขาพยายามแบ่งแยกตัวเองจากสเปนมาหาฝรั่งเศสมาตลอด
แต่ฝรั่งเศสก็มีจุดยืนชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่รับบาสก์มาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา
พวกเขาเพียงขอหลักประกันการปฏิบัติต่อชาวบาสก์ที่ถูกต้อง จากรัฐบาลสเปนเท่านั้น และนั่นทำให้ปัญหาจบลงได้โดยไม่บานปลาย
อาจมีหัวรุนแรงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตแบบในอดีต
1
...ลองคิดดูว่า ถ้าฝรั่งเศสซึ่งแข็งแกร่งกว่าสเปนมาก อยากได้จริงๆ แล้วใช้กำลัง อะไรจะเกิดขึ้น และอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไม่มี NATO....
เราจะเห็นว่า ยุโรปนั้นให้ค่ากับวิธีคิด หลักคิด ในแง่ชาติพันธ์ุและขอบเขตดินแดนที่เป็นอยู่อย่างมาก
1
ดังนั้นการกระทำของรัสเซียในปัจจุบัน จึงเป็นสิ่งที่ยุโรปรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
...แม้จะเจ็บก็ต้องยอม เพื่อรักษาหลักการเหล่านี้เอาไว้ ไม่ย่างนั้นพวกเขาเองก็อาจแตกเป็นเสี่ยงๆได้เหมือนกัน
...และความสงบที่มีมา 70 กว่าปี มันจะไม่เหลืออีกเลย ทุกชาติจะกลับไปอยู่ในระบบใครเข้มแข็งก็กดขี่อีกครั้ง เหมือนก่อนสงครามโลก
...และนี่ คือเหตุผลที่พวกเขาสู้ และจะสู้ไปเรื่อยๆด้วย จนกว่าจะพังกันไปข้างนึงนั่นแหละ....
น่าจะเข้าใจกันมากขึ้นนะครับ ถึงเหตุผลของยุโรปในการปกป้องยูเครน
ไม่ใช่อเมริกันเสี้ยม ไม่ใช่อยากทำลายรัสเซีย ตามทฤษฎีบ้าบออะไรทั้งนั้นแหละ
1
ยุโรปบอบช้ำทางเศรษฐกิจมามาก ทั้งจากเรื่องเก่าและเรื่องใหม่อย่างโควิด ถ้าเลือกได้ พวกเขาไม่มีทางสร้างปัญหาแน่
ไอ้ที่ว่าวางแผนรุกรานรัสเซียเลยขยายพันธมิตรไปทางยูเครนตามคำอ้างของปูตินนั้น ค่อนข้างเพ้อเจ้อ เพราะยุโรปเองก็ไม่มีเงิน ไม่มีทรัพยากรขนาดนั้น ในตอนนี้
...ถ้ามองความจริงข้อนี้สักนิด ถึงศักยภาพของยุโรปและอเมริกาปัจจุบัน มันก็น่าจะเข้าใจได้ ว่าใครพูดจริงหรือเท็จอย่างไร...
...และใครกันแน่ ที่ต้องการสงคราม....
ส่วนยุโรปนั้น จะสู้แค่ไหน ผมเชื่อว่าสู้จนหมดแรงนั่นแหละ
...เพราะมันเป็นการสู้เพื่อตัวพวกเขาเอง และแนวคิดของพวกเขา ไม่ใช่สู้เพื่อยูเครน หรือหาประโยชน์แต่อย่างใด เพราะที่เป็นอยู่มันมีแต่ขาดทุน
...การรสู้เพื่อแนวคิด สำคัญแค่ไหน?...
...ลองคิดว่าเป็นเราแล้วกัน ถ้ามีคนมาบอกให้ไทยเปลี่ยนโน่นนี่ สู้ได้คุณจะสู้ไหมล่ะ?...
...มันก็ตรรกะเดียวกัน....
การวิเคราะห์ วิจารณ์อะไร บางทีถ้าไม่รู้ประวัติศาสตร์ ไม่รู้ที่มา วันๆพูดแต่ทฤษฎีสมคบคิด ตัดความจริงบางอย่างออกไป ผมว่ามันก็ไม่เข้าท่าที่จะพูด หรือเข้าไปอ่านสักเท่าไหร่หรอก
1
...เพราะมันต้องมีวาระซ่อนเร้น หรืออคติอย่างแน่นอน ข้อมูลแบบนั้นให้ประโยชน์อะไรไม่ได้ นอกจากความสะใจ สนองความเกลียดชังของบางคนเท่านั้น
...มันก็น่าเศร้านะ ที่คนชอบอ่านทฤษฎีสมคบคิดมากกว่าความจริง....
...เศร้ากว่าคือเข้าใจว่าตัวเองฉลาดเสียด้วยสิ.....
....ก็....นะ....ตามจริตละกัน ผมก็จะดีดกีตาร์ไปเรื่อยๆแหละ เพราะสีซอไม่เป็น 😁😁😁....
โฆษณา