8 มิ.ย. 2022 เวลา 02:02 • ข่าวรอบโลก
สหภาพยุโรป(EU)มีมติบังคับให้ใช้พอร์ต USB - C แบบเดียวเท่านั้น ในสายชาร์จของทุกอุปกรณ์
สร้างผลกระทบต่อ Apple เต็ม ๆ
กว่า 10 ปีมาแล้วที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้ขอความร่วมมือจากผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์แบบพกพา ให้ปรับเปลี่ยนพอร์ตสายชาร์จไฟฟ้าให้เป็นแบบเดียวกัน
เพื่อลดปัญหาขยะอิเลคทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นเวลาที่ผู้บริโภคเปลี่ยนยี่ห้ออุปกรณ์การใช้งาน
เป็นที่ทราบกันดีว่า Type ของสายชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่มีการใช้งานกันอยู่หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 แบบคือ แบบ Lightning สำหรับมือถือ iphone ของ Apple , แบบ Micro USB และ USB - C ในอุปกรณ์ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์
การที่ Type ของสายชาร์จมีหลายแบบ ถูกมองว่าสร้างความสิ้นเปลืองให้กับผู้บริโภคและเพิ่มจำนวนขยะอิเลคทรอนิกส์เป็นจำนวนมากในแต่ละปี
รวมทั้งยังเป็นข้อจำกัด สำหรับนักพัฒนาอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ต้องพัฒนาเพื่อรองรับอุปกรณ์ทั้ง 3 Type หากต้องการจะขายให้ได้ในสำหรับทุก ๆ อุปกรณ์
ที่ผ่านมาผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ค่อนข้างให้ความร่วมมือปรับเปลี่ยน Type ของสายชาร์จทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ตและแล็ปท้อป ฯลฯ ให้เป็น USB - C เหมือนกันเป็นส่วนใหญ่
จะมีก็แต่อุปกรณ์ของค่าย Apple เท่านั้นที่ยังปรับเปลี่ยนไม่ครบตามที่สหภาพยุโรปได้ขอความร่วมมือไป
ทั้งนี้เหตุผลที่ทางผู้บริหาร Apple ได้ให้ไว้ก็คือ การจำกัดชนิดของ Type ต่อพ่วง เป็นการลดทางเลือกในการสร้างสรรค์และพัฒนาอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ
แต่ทางผู้บริหารสหภาพยุโรปไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ โดยผู้ทำการผลักดันในเรื่องนี้กล่าวว่า..
"เราอาจต้องขออภัยสำหรับข้อกำหนดใหม่นี้ แต่เราต้องทำเพื่อประชากรของเรา"
"หาก Apple หรือใครก็ตามที่อยากทำตลาดในยุโรป คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้วยการเปลี่ยนสายชาร์จเป็น USB - C "
โดยในรายละเอียด ข้อกำหนดดังกล่าว นอกจากมือถือ แท็ปเล็ตและ แล็ปท้อปแล้ว ยังมีผลขยายการบังคับไปถึงกล้องดิจิทัล หูฟัง ลำโพงแบบพกพา รวมทั้งอุปกรณ์อ่าน E- Book อีกด้วย
แม้ว่าสหภาพยุโรปจะมีมติออกมาเรียบร้อยแล้ว แต่ตามกระบวนการยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จ
และผลบังคับใช้จริง ๆ ของข้อกำหนดดังกล่าวก็จะเริ่มขึ้นในปลายปี 2024 เพื่อให้ผู้ผลิตทุกรายมีเวลาปรับตัว
จริงแล้ว อุปกรณ์ค่าย Apple เองก็เริ่มมีการใช้สายชาร์จ USB - C มาบ้างแล้วเช่น ใน ipad และบางรุ่นของแล็ปท้อป
ด้วยความที่สหภาพยุโรปมีจำนวนมากถึง 27 ประเทศ รวมประชากรกว่า 450 ล้านคน แถมเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้ขนาดของตลาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์แบบพกพามีผลต่อการตัดสินใจในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตทุกรายเป็นอย่างมาก
ดังนั้นข้อกำหนดของสหภาพยุโรปในครั้งนี้ อาจถือเป็นการบังคับให้มีการเปลี่ยนรูปแบบสายชาร์จของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์แบบพกพาทั่วทั้งโลกเลย ก็เป็นได้...
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา