9 มิ.ย. 2022 เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#เศรษฐกิจไม่ดี เก็บเงินลงทุนอะไรได้บ้าง?
ปี 2022 สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยพร้อมการลดสภาพคล่องจากระบบ ขณะเดียวกันต้นทุนค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นส่งให้สัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวเริ่มปรากฏ สินทรัพย์การเงินเกือบทุกชนิดถูกดดันไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ และกองทุนอสังหาฯ
ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดคำถามว่าควรลงทุนอะไรเพื่อลดความเสี่ยงจากทั้งเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะเดียวกันก็ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมที่สุด แม้สินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ดังกล่าวในภาวะเช่นนี้จะหายากแต่ก็ยังพอมีอยู่ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
📈กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี
ในภาวะที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอายุยาวจะได้รับผลกระทบมากกว่าตราสารหนี้อายุสั้น ดังนั้นนักลงทุนควรเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุน้อย (Duration ต่ำ) เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนราคา เมื่อดอกเบี้ยถูกปรับขึ้น และไม่เสียโอกาสให้เงินลงทุนเติบโตต่อไปได้
📈สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
สงครามรัสเซีย-ยูเครนรวมไปถึงการปิดเมืองในประเทศจีน ทำให้สินค้าด้านทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นวัตถุดิบของการผลิตขาดแคลน ราคาสินค้าก็ปรับตัวขึ้นตามเป็นสาเหตุของอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านผลิตภัณฑ์การเงินอย่างกองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์
📈หุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock)
เป็นหุ้นของบริษัทที่มีรูปแบบธุรกิจซึ่งได้รับอิทธิพลจากวัฏจักรเศรษฐกิจอย่างมาก ถึงแม้จะอยู่ในกลุ่มหุ้นประเภทเดียวกันแต่ก็ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ต่างกัน เริ่มจากกลุ่มธนาคารซึ่งในภาวะเศรษฐกิจไม่ดียอดสินเชื่ออาจไม่เติบโต แต่ก็ยังได้ประโยชน์จากรายรับที่เป็นดอกเบี้ยซึ่งปรับตัวขึ้นเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ด้านกลุ่มหุ้นธุรกิจพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน สินค้าเกษตร ก็รับประโยชน์โดยตรง
📈หุ้น Defensive
หุ้นที่มีมูลค่าและเงินปันผลคงที่ แม้อาจไม่เติบโตหวือหวาแต่มีรูปแบบธุรกิจที่มั่นคงไม่ได้รับผลกระทบจากวัฏจักรเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ของบริษัทในตลาดหุ้นจะหดตัว ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น หุ้น Defensive จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน เช่น หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล หุ้นสาธารณูปโภค นอกจากธุรกิจที่มั่นคงแล้วยังสามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสู่ผู้บริโภคได้อีกด้วย
หุ้น Defensive ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มโรงพยาบาลหรือสาธารณูปโภคเสมอไป อาจเป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นที่มีขนาดใหญ่ มีเงินทุนหนา ครองส่วนแบ่งการตลาด และแน่นอนว่าจะต้องสร้างรายได้และกำไรสม่ำเสมอ
หุ้นกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มที่สามารถลงทุนระยะยาว มีสัดส่วนในพอร์ตได้ตลอดเวลา มูลค่าจึงมีความสำคัญ นักลงทุนอาจพิจารณาควบคู่ไปกับอัตราส่วน P/E หรือ P/BV เพราะหากเจอช่วงเวลาที่หุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม นักลงทุนอาจลงทุนด้วยสัดส่วนเงินมากกว่าที่วางแผนไว้ได้
แต่หากราคาสูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสม นักลงทุนอาจลงทุนด้วยสัดส่วนเงินน้อยกว่าที่วางแผนไว้ และรอให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสมมากกว่านี้ จึงเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนอีกครั้ง
📈หุ้นคุณค่า (Value Stock)
มีความใกล้เคียงกับหุ้น Defensive นักลงทุนรู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นหุ้นดี ราคาถูก ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตสม่ำเสมอ กระแสเงินสดและอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน และการที่ได้รับชื่อว่าหุ้นคุณค่า ระดับราคาก็ควรจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหรืออุตสาหกรรมเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้จะได้ชื่อว่าหุ้นคุณค่า แต่ต้องพิจารณาด้วยว่ารูปแบบธุรกิจได้รับผลกระทบหรือไม่จากทั้งความต้องการที่ลดลงจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี และต้นทุนที่สูงขึ้นซึ่งไม่อาจผลักดันสู่ผู้บริโภคได้ทั้งหมด เช่น กลุ่มค้าปลีกสินค้าจำเป็น ซึ่งรับผลกระทบจากทั้งกำลังซื้อที่ลดลงและต้นทุนวัตถุดิบซึ่งสูงขึ้น
📈กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund)
โครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีแต่รายได้มีความผันผวนต่ำ นอกจากนี้ในขณะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงต้นทุนเพิ่มขึ้นก็สามารถผลักต้นทุนไปสู่ผู้บริโภคได้ อัตรากำไรสุทธิก็รับผลกระทบน้อยเช่นกัน เป็นสินทรัพย์ที่ให้ความมั่นคงในรูปแบบกระแสเงินสดพร้อมช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา อัตราเงินเฟ้อสูง
เป็นที่รู้กันว่าช่วงที่ตลาดการเงินเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและเงินเฟ้อสูง สินทรัพย์เกือบทุกชนิดได้รับผลกระทบเชิงลบ อย่างไรก็ตามมีบางสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด ดังนี้
📈หุ้นของบริษัทที่มีการกู้ยืมสูง
บริษัทที่มีหนึ้สูงโดยเฉพาะการกู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจะรับผลเสียจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การที่เศรษฐกิจซบเซาทำให้รายได้มีแนวโน้มลดลง ส่งผลกระทบต่อความสามารถการใช้หนี้
📈กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว
ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีอายุยาวซึ่งราคาจะผันผวนมากกว่าตราสารหนี้ที่อายุสั้นกว่า การขาดทุน 3-4% ต่อปี นับเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการลงทุนตราสารหนี้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการลงทุนตราสารหนี้ที่มีอายุยาวในสภาวะการเงินเช่นนี้
ในทุกภาวะมีโอกาสลงทุนอยู่เสมอ นักลงทุนต้องเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสที่อาจเข้ามา เช่นเดียวกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นอย่าลืมที่จะกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนอยู่เสมอ
โฆษณา