24 มิ.ย. 2022 เวลา 02:04 • การศึกษา
ไทยพูดดี เบงกาลีพูดได้ ตอนที่ ๒๔ วิเทศสโมสร
กระทรวงการต่างประเทศไทยมีห้องประชุมขนาดใหญ่ชื่อวิเทศสโมสร แปลว่าสถานที่พบปะกันกับชาวต่างประเทศ เคยใช้เป็นสถานที่จัดประชุมระดับนานาชาติหลายครั้ง เช่น การประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรคซาร์สเมื่อปี ๒๕๔๖ และการประชุมผู้นำ ACD ครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๕๙ รวมทั้งเคยเป็นสถานที่แถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อปี ๒๕๕๑ และจัดพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อปี ๒๕๖๒
วิเทศสโมสรเป็นอาคารโถงชั้นเดียวสำหรับจัดประชุม จัดงานเลี้ยงรับรอง หรือจัดกิจกรรมสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ ตรงกลางมีสีหบัญชรที่จำลองแบบจากพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท สถานที่ที่ราชทูตฝรั่งเศสถวายพระราชสาส์นจากพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช   ภาพโดย สราญจิตต์ ศรีศกุน นักการทูตชำนาญการพิเศษ กรมสารนิเทศ
วิเทศในภาษาเบงกาลีแปลว่าต่างประเทศเช่นกัน คนต่างชาติเรียกว่า
วิเทศี แต่กระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศไม่ใช้คำนี้ ใช้ว่ากระทรวงปรราษฏร์แทน (ดูตอนที่ ๒๓
มนตรณาลัย) หลายหน่วยงานของไทยตั้งชื่อฝ่ายต่างประเทศว่าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มีอีกคำที่ความหมายเดียวกันคือบรเทศ แต่มีใช้อยู่น้อยมาก เช่น ชื่อเพลงแขกบรเทศ
เบงกาลีใช้ “เทศ” ในความหมายว่า ประเทศ เขต หรือพื้นที่ ชื่อบังกลาเทศแปลว่าประเทศของชาวเบงกาลี ภาษาไทยใช้ “เทศ” กับพื้นที่ขนาดย่อมลงมาด้วยคือ เทศบาล เจ้าหน้าที่ของเทศบาลคือเทศกิจ ส่วนสำนวน “รู้จักกาลเทศะ” หมายถึงการทำตัวให้เหมาะสมกับเวลาและสถานที่ บางครั้งยังใช้เทศขยายความสัตว์ ผลไม้ หรือสิ่งของเพื่อบ่งบอกว่ามีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ เช่น ม้าเทศ เป็ดเทศ มะเขือเทศ มะขามเทศ
แต่สำหรับคนบังกลาเทศแล้ว “เทศ” คือในประเทศ เวลาสถานีโทรทัศน์รายงานข่าวตัววิ่งที่ขอบล่างของจอ ข่าวในประเทศใช้หัวข้อว่า “เทศ” และข่าวต่างประเทศใช้ “วิเทศ”
เราเรียกคนที่ทำหน้าที่สานสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าทูต เอกอัครราชทูตในภาษาเบงกาลีคือ rastraduta (ราษฏระทูต) สถานทูตคือ dutabas (ทูตาวาส) มาจากทูต + อาวาสที่แปลว่าที่อยู่ ดังนั้น ถ้าตีความแบบเบงกาลีเราน่าจะถือว่าเอกอัครราชทูตก็เป็นเจ้าอาวาสได้เหมือนกัน คำว่า bas หรือวาสยังใช้เรียกรังนกด้วย คือคำว่า pakhi basa
สถานทูตไทยที่บังกลาเทศอยู่ในเขต Baridhara ซึ่งรัฐบาลบังกลาเทศตั้งใจให้เป็นเขตสถานทูต จึงรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เขตนี้มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก คล้าย ๆ แถวสาทรและสุขุมวิท สถานทูตไทยทำสัญญาเช่าพื้นที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๔๐ ตารางวา เป็นเวลา ๙๙ ปี
ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากาในปัจจุบันเปิดใช้เมื่อปี ๒๕๔๙ โดยใช้สถาปนิกและบริษัทก่อสร้างไทย ภาพโดย พนม ทองประยูร
โดยได้ก่อสร้างอาคารที่ทำการและทำเนียบทูตในบริเวณเดียวกัน บนถนนเส้นนี้ยังมีสถานทูตสหรัฐฯ แคนาดา เยอรมนี และตุรกี ถนนเส้นหนึ่งใกล้ ๆ สถานทูตชื่อถนนทูตาวาส เป็นที่ตั้งของสถานทูตญี่ปุ่น ปาเลสไตน์ และทำเนียบทูตอังกฤษ
การก่อสร้างสถานทูตและทำเนียบทูตขึ้นใหม่ทำให้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ในหลายประเทศเราใช้วิธีเช่าตึกหรือบ้าน บ่อยครั้งที่พื้นที่คับแคบเกินไป โต๊ะกินข้าวนั่งได้เพียง ๑๐ คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ท่านทูตบางท่านเห็นว่าควรนั่งได้อย่างน้อย ๒๐ คน
โดยให้เหตุผลว่า หากประเทศใดมีสถานทูตอาเซียนอยู่ครบทุกประเทศ และไทยเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงทูตประเทศอาเซียนพร้อมคู่สมรส ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นบ่อยมาก นับหัวแล้วควรมีอย่างน้อย ๒๐ ที่นั่ง
ภาษาเบงกาลีเรียกนักการทูตว่า kutanitika มาจากกูฏ (หลอกลวง) + นีติ (ความประพฤติ) รวมแล้ว
นักการทูตเลยเฉียด ๆ จะอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกสิบแปดมงกุฎ แต่ที่จริงเราอาจตีความให้ดีขึ้นหน่อยได้ว่า “กูฏ” หมายถึงการอำพรางไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความคิดที่แท้จริงของเรา
จะพอใจหรือไม่พอใจก็ทำหน้านิ่งเข้าไว้ เพื่อให้เขาคล้อยตาม เหมือนเนื้อเพลงบัวแก้วของกระทรวงการต่างประเทศที่บอกว่า “ถึงน้ำจะขุ่นด้วยเลนด้วยตม บัวแก้วก็ข่มซ่อนขุ่นเอาไว้ข้างใน”
นายพนม ทองประยูร
อัครราชทูตที่ปรึกษา
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา
โฆษณา