17 มิ.ย. 2022 เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#Investment แอบซื้ออยู่ รู้นะ 👀❗
🚩แรงเทขายในตลาดเยอะจนรายย่อยหมดกำลังใจ
แต่รู้ไหมว่า มีหุ้นบางตัวที่นักลงทุนสถาบันในอเมริกา
แอบซื้อเก็บอยู่แบบเนียน ๆ 🤫
วันนี้ SkillLane จึงพาทุกคนไปตามติดพฤติกรรมรายใหญ่ ว่าช่วงนี้แอบซื้อหุ้นตัวไหนเยอะๆ ถี่ๆ บ้าง ใครอยากรู้ก็ไปพร้อมกันเลยครับ
📌โดยข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากแบบฟอร์ม 13D และ 13F ที่เหล่านักลงทุนสถาบันต้องยื่นให้กับก.ล.ต. สหรัฐกว่า 5,000 รายการ และพบว่ามีหุ้น 4 ตัว ที่นักลงทุนสถาบันตั้งแต่ กองทุนมหาวิทยาลัย, กองทุนบำเหน็จบำนาญ, กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และ Hedge funds เข้ามาลงทุนเพิ่มใน Q1 เยอะกว่าขายทิ้งอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งแน่นอนว่านักลงทุนสถาบันเหล่านี้ ไม่ได้กำลังซื้อหุ้นยอดนิยมของรายย่อยอย่าง Tesla, SnapChat แต่กลับเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแรง และมีรายได้จากสถานการณ์ช่วงนี้จริงๆ
#1 UNITEDHEALTH GROUP (NYSE:UNH)
บริษัทประกันสุขภาพชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในกลุ่ม Healthcare และได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล (Medicare / Medicaid) เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชาวอเมริกัน โดย UNITEDHEALTH ยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการตระหนักในเรื่องสุขภาพของคนหลังเหตุการณ์การระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19
🔻ขายสุทธิ 9,404 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
🔺ซื้อสุทธิ 9,772.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
#2 ALPHABET (NASDAQ:GOOG)
บริษัทแม่ของ Google ที่ได้รับรายได้หลักจากธุรกิจโฆษณาบน Google โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา และยังเป็นบริษัทที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถหารายได้อย่างต่อเนื่องแม้จะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์เงินเฟ้ออีกด้วย โดย ALPHABET ยังถือหุ้นผ่านบริษัทลูกอีกหลายแห่ง
1 ในนั้นคือบริษัท Calico ที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยีชีวภาพ ที่เกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์อีกด้วยครับ
🔻ขายสุทธิ 14,336.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
🔺ซื้อสุทธิ 28,356.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
#3 ISHARES CORE S&P 500 ETF (NYSEARCA:IVV)
กองทุน ETF ที่วิ่งตาม S&P 500 ดัชนีตลาดหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ 500 เเห่ง เป็นกองทุน ETF ที่กองทุนรวมของไทยเข้าลงทุนมากเป็นอันดับต้นๆ และให้ความเสี่ยงต่ำกว่าการเลือกซื้อหุ้นรายตัว
🔻ขายสุทธิ 8,220.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
🔺ซื้อสุทธิ 27,506.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
#4 MASTERCARD (NYSE:MA)
หลังจากสถานการณ์ COVID-19 พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมาใช้จ่ายเงินผ่านเทคโนโลยี มีพฤติกรรม “แตะเพื่อจ่าย” มากขึ้น ทำให้ MASTERCARD เป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์แบบก้าวกระโดด และเป็นหุ้นรายตัวที่ได้รับการจับตามองจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้นอีกด้วย
🔻ขายสุทธิ 4,505.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
🔺ซื้อสุทธิ 10,575.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวมคอร์สการเงินการลงทุนจากกูรูชื่อดังทั่วประเทศไทย ครบทุกความรู้ในเว็บไซต์เดียว
ทั้งการลงทุนแนวเทคนิคอล, การลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน (VI), การสร้างระบบเทรด, การลงทุนอนุพันธ์, Crypt๐currency & Bl๐ckchain, F๐rex, การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ, สินค้าอุปโภคบริโภค
และการเงินส่วนบุคคลให้เลือกได้ตามสไตล์คุณเลือกเลย 👉🏻 https://www.skilllane.com/categories/finance-investment
โฆษณา