20 มิ.ย. 2022 เวลา 23:23 • หนังสือ
วิ่งในการวิ่งแข่งของคริสเตียน เพื่อเราจะได้รับรางวัล โดยการหันมา #เพ่งพินิจที่พระเยซูผู้เป็นผู้ริเริ่มและผู้สำเร็จความเชื่อของเรา
“เหตุฉะนั้น ในเมื่อเรามี #พยานบุคคลหมู่ใหญ่ดุจกลุ่มเมฆรายล้อมเราอยู่ เช่นนี้แล้ว ก็ให้เราละทิ้งของหนักทุกอย่างที่ถ่วงอยู่และความบาปซึ่งผูกมัดเราได้ง่ายนั้น และการวิ่งแข่งที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้น ก็ให้เราวิ่งด้วยความอดทน” — ฮร.12:1:
1. กลุ่มเมฆนั้นมีไว้สำหรับนำพาพลไพร่ในการติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า (อฤธ.9:15–22) และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงสถิตอยู่กับพลไพร่ในท่ามกลางกลุ่มเมฆนั้น (อซด.13:21–22); ศัพท์คำว่า “#พยานบุคคล” ในภาษากรีกมีความหมายเป็นนัยถึงผู้พลีชีพ (กจ.1:8):
เราสามารถมีการสถิตอยู่และการนำพาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยอาศัยผู้ที่มีความเชื่อ; ผู้ที่มีความเชื่อทุกคน ซึ่งก็คือผู้คนที่อยู่ในคริสตจักรนั้นเป็นกลุ่มเมฆ; หนทางที่ดีที่สุดในการแสวงหาการสถิตอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็คือการมายังคริสตจักร.
หากคนใดแสวงหาการนำพาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาก็จะต้องติดตามกลุ่มเมฆ ซึ่งก็คือคริสตจักร; องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ในกลุ่มเมฆ ซึ่งก็หมายความว่าพระองค์สถิตอยู่กับผู้ที่มีความเชื่อ.
เนื่องจากเราเป็นผู้คนที่มีความเชื่อ เราจึงเป็นกลุ่มเมฆในวันนี้ และผู้คนสามารถติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยการติดตามเรา; ผู้ที่แสวงหาพระองค์จะสามารถพบกับการสถิตอยู่ของพระเจ้าได้ท่ามกลางพวกเรา — เทียบ 1กธ.14:24–25; บพส.36:8–9; 16:11.
เฮ็บราย บทที่ 12 ข้อ 1 ...ในเมื่อเรามีพยานบุคคลหมู่ใหญ่ดุจกลุ่มเมฆรายล้อมเราอยู่เช่นนี้แล้ว ก็ให้เราละทิ้งของหนักทุกอย่างที่ถ่วงอยู่และความบาปซึ่งผูกมัดเราได้ง่ายนั้น และการวิ่งแข่งที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นก็ให้เราวิ่งด้วยความอดทน.
เอ็กโซโด บทที่ 13 ข้อ 21 พระยะโฮวาได้ทรงอยู่ในเสาเมฆนำหน้าพวกเขาในเวลากลางวัน และอยู่ในเสาไฟช่วงเวลากลางคืน ให้เขามีความสว่างเพื่อจะได้เดินไปได้ทั้งกลางวันและกลางคืน.
กลุ่มเมฆมีไว้สำหรับนำพาผู้คนให้ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า (อฤธ.9:15–22) และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงอยู่กับพลไพร่ของพระองค์โดยการอยู่ในกลุ่มเมฆ (อซด.13:21–22). ชาวอิสราเอลติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยเสาเมฆและรับสุขการสถิตอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่อยู่ในเสาเมฆ.
ทุกคนที่เป็น #พยานบุคคลแห่งความเชื่อ กระทั่งเป็นผู้พลีชีพแห่งความเชื่อล้วน #เป็นเหมือนกลุ่มเมฆ. เราก็ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับสุขการสถิตอยู่ของพระองค์โดยกลุ่มเมฆแห่งพยานบุคคลนี้ [ฮร.12:1].
พยานบุคคลที่กล่าวไว้ในเฮ็บราย 12:1 นั้น...ถ้าพิจารณาตามตัวอักษรแล้วคล้ายกับชี้ถึงคนที่มีความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ในบทที่ 11. อันที่จริงแล้วไม่ใช่ชี้ถึงคนเหล่านั้น แต่ได้ชี้ถึงเรื่องราวของคนเหล่านั้น.... พยานที่ได้จากเรื่องราวของคนเหล่านั้นเป็นเหมือนกับกลุ่มเมฆที่รายล้อมเราอยู่.
พยานมากมายเหล่านี้...พิสูจน์ถึง “#ความรอดอันยิ่งใหญ่” ของพระเจ้า (ฮร.2:3–4) ซึ่งไม่ใช่แค่การอภัยบาปเท่านั้น แต่ยังชี้ถึงการได้รับอาณาจักรด้วย. อาณาจักรก็คือเป้าหมายในการวิ่งแข่งของเรา.
พระเจ้าประทานพยานให้เรามากมายเช่นนี้ก็เพื่อหนุนใจเราให้ #ดำเนินชีวิตแห่งความเชื่อ เพื่อเราจะสามารถวิ่งแข่งและได้รับสง่าราศีของอาณาจักร. แม้ผู้ที่มีความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ในบทที่ 11 จะไม่ได้มีอาณาจักรเป็นเป้าหมายแห่งความเชื่อของพวกเขาโดยตรง แต่ความเชื่อของพวกเขาก็คือเส้นทางของพวกเขา....
ถ้าพิจารณาทางภายนอก พวกเขาได้รับสิ่งที่พวกเขาเชื่อแล้ว เช่น บางคนถูกรับขึ้นไป, บางคนได้รับแผ่นดิน, บางคนเป็นขึ้น, และบางคนก็พ้นจากการพินาศ. ทว่าทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่สิ่งสุดท้ายที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้แก่พวกเขา. ทุกสิ่งที่พวกเขาได้รับโดยความเชื่อนั้นเป็นเพียงหลักฐาน [หรือมัดจำ] ที่ยืนยันว่าพวกเขาจะได้รับอาณาจักรที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้.
“คนเหล่านั้นทุกคนได้รับพยานที่ดีเลิศโดยความเชื่อของเขา แต่ไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้. ด้วยว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ประเสริฐกว่าให้เราทั้งหลาย ทำให้พวกเขาไม่อาจครบสมบูรณ์ได้โดยปราศจากพวกเรา” (11:39–40).... กรณีนี้พูดถึงอาณาจักร และพระเจ้าทรงยืนยันว่าพวกเขาจะต้องได้รับอาณาจักรในภายหน้าอย่างแน่นอน.
ท่านจะรู้สึกได้ทันทีว่า โดยผู้คนที่มีความเชื่อเหล่านี้ ท่านจะสามารถได้รับการสถิตอยู่และการนำพาขององค์พระผู้เป็นเจ้า. ถ้าท่านมีกลุ่มเมฆ ท่านก็มีองค์พระผู้เป็นเจ้า. แต่ถ้าท่านสูญเสียกลุ่มเมฆ ท่านก็จะสูญเสียองค์พระผู้เป็นเจ้าไปด้วย. ทุกคนที่มีความเชื่อ ซึ่งก็คือคนที่อยู่ในคริสตจักร ก็คือกลุ่มเมฆ.
#หนทางที่ดีที่สุดในการแสวงหาการสถิตอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็คือการมายังคริสตจักร. ถ้าใครกำลังแสวงหาการนำพาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาก็ต้อง #ติดตามกลุ่มเมฆ ซึ่งก็คือคริสตจักร. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ในกลุ่มเมฆ ซึ่งก็หมายความว่าพระองค์ทรงอยู่กับผู้คนที่มีความเชื่อ.
ในเมื่อเราเป็นผู้ที่มีความเชื่อ เราจึงเป็นกลุ่มเมฆในวันนี้ และคนทั้งปวงก็สามารถติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยการติดตามเรา. บรรดาคนที่แสวงหาพระองค์จะพบการสถิตอยู่ของพระองค์ได้เมื่ออยู่กับเรา. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ในที่ซึ่งเราอยู่ และที่ซึ่งเราอยู่ก็คือทิศทางที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในวันเวลานี้.
โฆษณา