28 มิ.ย. 2022 เวลา 04:00 • สุขภาพ
ผลวิจัยผู้บริโภคล่าสุดชี้ คนไทยกว่า 7 ใน 10 คิดว่าการกินขนมกรุบกรอบเป็นการเยียวยาจิตใจอย่างหนึ่ง
ผลวิจัยของ Mintel (มินเทล) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด ระบุว่า สถานการณ์โรคระบาดส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภคไทยในเรื่องการดูแลตัวเองและสุขภาพทางอารมณ์ผ่านการรับประทานขนมกรุบกรอบ
คนไทยกว่า 7 ใน 10 คิดว่าการกินขนมกรุบกรอบเป็นการเยียวยาจิตใจอย่างหนึ่ง
และจากการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1,464 คน อายุมากกว่า 18 ปี ที่เคยรับประทานขนมกรุบกรอบในระยะเวลา 6 เดือน จนถึงเดือน ม.ค.2565 พบว่า คนไทย 77% หันมารับประทานขนมกรุบกรอบ เพื่อเป็นการให้รางวัลตัวเอง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังเพิ่มขึ้นเป็น 81% ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี
ขนมกรุบกรอบในผลวิจัยนี้ นับรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบที่ทำจากถั่วประเภทฝัก มันสำปะหลังและพืชหัว ข้าวโพด มันฝรั่ง ข้าว ผัก ข้าวสาลี
นอกจากนี้ รายงานยังพบว่า ความเครียดและความวิตกกังวลที่เกิดจากสถานการณ์โรคระบาด ประกอบกับวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เร่งรีบวุ่นวาย ยังส่งอิทธิพลต่อโอกาสในการรับทานขนมกรุบกรอบ ด้วยเช่นกัน ภาวะ “เคี้ยวไปเรื่อย” หรือการรับประทานขนมกรุบกรอบระหว่างทำงาน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว หรือระหว่างกิจกรรมยามว่างอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภค 76% ทำเป็นประจำ
1
พิมพ์วดี อากิลา นักวิเคราะห์ตลาดอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท Mintel Reports Thailand กล่าวว่า “การรับประทานขนมกรุบกรอบเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยชอบทำเพื่อฆ่าเวลาในระหว่างวัน
จากผลการวิจัยผู้บริโภคของ Mintel Global ในปี 2564 พบว่า คนไทยมีการรับประทานขนมกรุบกรอบและเครื่องดื่มแทนอาหารมื้อหลักมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากคนอินเดียเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก
ความสนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและอารมณ์นั้น ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับแบรนด์ขนมกรุบกรอบต่าง ๆ ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของตัวผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาดในแง่ที่ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้สุขภาวะทางอารมณ์ดีขึ้น”
ผู้บริโภคไทยจำนวนมากรับประทานขนมกรุบกรอบในโอกาสที่เรียกว่า ‘we-time’ หรือช่วงเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมพิเศษร่วมกับผู้อื่น (54%) รวมไปถึงเวลาที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว และ ‘me-time’ หรือช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อหรือเครียด (45%)
เมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุ คนรุ่นมิลเลนเนียล (อายุ 25-44 ปี) จำนวน 59% จำแนกตนเองเป็นคนที่กินแบบ ‘we-time’ ขณะที่คนรุ่น Gen Z (อายุ 18-24 ปี) จำนวน 58% กินแบบ ‘me-time’ มากกว่า
นอกจากนี้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Mintel Global (GNPD) เรื่อง "อาหารเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น" ระหว่างเดือน ม.ค. 2562 ถึง ธ.ค. 2564 ระบุว่า แม้ขนมกรุบกรอบจะช่วยเรื่องการผ่อนคลายอารมณ์ แต่โซเดียม สารเติมแต่ง และวัตถุกันเสียที่ใส่เข้ามาก็ยังคงขัดกับความต้องการของผู้บริโภค
และพบว่ามีการเปิดตัวขนมกรุบกรอบที่ทำด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติและไร้สารเติมแต่ง ปราศจากวัตถุกันเสียและสารก่อภูมิแพ้ เพิ่มมากขึ้น (19%) ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เติบโตขึ้นเช่นกัน (17%)
ทั้งนี้ การบริโภคขนมกรุบกรอบที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรภายนอก อย่างการได้รับตราสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” นั้นเป็นที่ต้องการถึง 77% ในกลุ่มผู้บริโภคไทยที่เคยเห็น และทราบว่าตราสัญลักษณ์นี้มีความหมายอย่างไร
“นอกจากการลดลงของส่วนผสมที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในขนมกรุบกรอบแล้ว (เช่น โซเดียม, สารเติมแต่ง) ผู้บริโภคไทยยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำให้รู้สึกผิดน้อยลงเมื่อกินขนมกรุบกรอบ อีกทั้งผู้ที่ชอบทดลองรสชาติใหม่ ๆ เอง ก็ยินดีจะจ่ายให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
การเติมสารอาหารเพิ่มเป็นแนวทางหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ ที่แบรนด์สามารถทำเพื่อยกระดับคุณค่าด้านสุขภาพของผลิตภัณฑ์ได้ เห็นได้ชัดว่าการเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านสุขภาพและการสร้างสรรค์รสชาติใหม่ ๆ โดยไม่สูญเสียรสชาติที่ดี จะเข้ามามีบทบาทในการทำให้ขนมกรุบกรอบเป็นส่วนหนึ่งของการกินเพื่อสุขภาพในหมู่ผู้บริโภคไทย” พิมพ์วดีกล่าวทิ้งท้าย
โฆษณา