24 มิ.ย. 2022 เวลา 21:22 • ปรัชญา
“ให้จิตว่าง”
การภาวนาขั้นต้นเรียกว่าสมถภาวนา ต้องเจริญสติอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นจนหลับ ต้องควบคุมจิตไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน ไม่ให้คิดเรื่อยเปื่อย ให้จิตว่าง ให้สักแต่ว่ารู้อยู่กับการทำงานของร่างกาย ร่างกายกำลังทำอะไรก็ให้เฝ้าดูไป ให้อยู่กับการทำงานของร่างกายอย่างเดียว ไม่ให้ไปคิดเรื่องต่างๆ
ไม่ให้คิดเรื่องคนนั้นเรื่องคนนี้ เรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต ให้คิดให้รู้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่นกำลังเดินก็ให้รู้ว่ากำลังเดิน กำลังยืน กำลังนั่ง กำลังดื่มน้ำ กำลังทำอะไรก็ตาม ให้ใจจดจ่ออยู่กับการทำงานของร่างกาย อย่างนี้เรียกว่ามีสติควบคุมความคิด
พอมีเวลาว่างไม่ต้องทำอะไร ก็ควรนั่งหลับตา แล้วก็ดูลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่คิดเรื่องอื่น ดูแต่ลมหายใจตลอดเวลา ไม่นานห้านาทีสิบนาทีใจก็จะสงบ ความสงบก็มีสองลักษณะ สงบแบบพรวดพราดลงไปถึงฐานเลย หรือสงบแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนเปลี่ยนเกียร์รถ ค่อยๆสงบไปทีละขั้นทีละขั้นไป จะสงบแบบไหนก็ไม่เป็นปัญหา
1
อย่าไปคาด อย่าไปกำหนดว่าจะต้องเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ เพราะการภาวนาในแต่ละครั้งนี้ มีเหตุมีปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งมีปัจจัยทำให้รวมลงไปถึงฐานเลย บางครั้งก็ค่อยเป็นค่อยไป ได้ทั้งสองแบบ เวลาใจสงบจะเบาอกเบาใจ เย็นสบาย มีความสุข ความอิ่ม ไม่หิวกับรูป เสียง กลิ่น รส ไม่หิวกับเรื่องราวต่างๆ
ก็ควรปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ให้นั่งให้นานที่สุด จนกว่าจะนั่งไม่ได้ค่อยลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกขึ้นมาเดินจงกรม มาเจริญสติต่อ
ถ้าต้องทำงานก็ทำเท่าที่จำเป็น งานภายนอก อย่าทำมากจนเกินไป เวลาอยู่กับหลวงตานี้ท่านคอยเตือนคอยสอนอยู่เรื่อยๆว่า อย่าทำงานอย่างอื่นนอกจากงานภาวนา “งานภาวนานี้เป็นงานที่สำคัญที่สุด งานรื้อภพ รื้อชาติ”.
กำลังใจ ๕๘ กัณฑ์ที่ ๔๔๓
๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
โฆษณา