2 ก.ค. 2022 เวลา 00:03 • ความคิดเห็น
Content is king from the king of content..
1
ในวงสนทนาที่มีผู้มีประสบการณ์หลากหลาย นักการเมืองรุ่นใหญ่ท่านหนึ่งปรารภกับผมหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า โลกนี้ช่างเปลี่ยนไปเร็วเสียเหลือเกิน การทำการตลาดแบบเก่านั้นตกยุคไปอย่างรวดเร็ว การใช้ป้ายหาเสียงเยอะๆ ปราศรัยเก่งๆ นโยบายโดนใจ ที่เคยใช้ได้ในอดีตนั้นใช้ไม่ได้เสียแล้ว
ผมก็ให้ความเห็นไปว่า ในยุคนี้สมัยนี้ หัวใจหลักของเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักการตลาด หรือนักธุรกิจ ที่จะทำให้คนสนใจมากๆนั้น ไม่ใช่อยู่ที่งานโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์อีก หากแต่ว่าอยู่ที่ใครสร้าง “คอนเท้นท์” ได้ปังกว่ากันต่างหาก
นักการเมืองท่านนั้นทำหน้างุนงงด้วยความสงสัยใครรู้ว่าแล้วเขาจะสร้างคอนเท้นท์โดนใจที่ว่าในบริบทของเขาได้อย่างไร ระหว่างการสนทนานี้ ผมนึกอยากจะแนะนำให้เขารู้จักกับ king of content คนหนึ่งมาก เป็นคนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถสร้างคอนเท้นท์ปังๆมาได้เป็นสิบปีในฐานะ youtuber อันดับหนึ่งในสามของไทย
1
มี content creator จำนวนมากที่เกิดมาแล้วก็หายไปในระยะเวลาอันสั้น แต่คนที่อยู่ได้ยาวนานเป็นทศวรรษทั้งๆที่เทรนด์ก็เปลี่ยนเร็วมาก เครื่องไม้เครื่องมือก็เปลี่ยนบ่อย
โลกหมุนเร็วขนาดที่อะไรฮิตวันนี้พรุ่งนี้ก็จืด มีน้อยคนมาก
… แต่คนๆนี้ยืนระยะอยู่ได้จนปัจจุบันด้วย follower สิบสี่ล้านคนแล้ว
ผมรู้จักชื่อ “บี้ เดอะสกา” ครั้งแรกจากคลิปพาโรดี้กังนัมสไตล์ที่ลูกสาวเปิดให้ดูเมื่อสิบปีก่อน หลังจากนั้นลูกสาวสองคนก็ชวนดูคลิปโน่นคลิปนี่ให้ดูเป็นระยะ ผมเองก็ทึ่งในการคิดไอเดียของแต่ละคลิปที่ดูจะลงทุนไม่มากแต่ตลกและมียอดถล่มทลายในระดับที่ยิง “แม่น” มาตลอดไม่ใช่ฮิตครั้งเดียวแล้วจากไปเหมือนคนสร้างคอนเท้นท์ปังๆทั่วไป
1
ในตอนนั้นผมเฝ้าดูเขาเป็นพิเศษเพราะลูกสาวดูจะคลั่งไคล้ “พี่บี้” เอามากๆ จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งเห็นบี้ใส่ชุดสีทองในงานอะไรซักงาน ลูกสาวมองด้วยความตื่นเต้น รบเร้าจนต้องพาเข้าไปขอถ่ายรูป
1
เวลาผ่านไปหลายปี ผมก็ยังเห็นงานดีๆ วิวสูงๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ได้ยินข่าวบี้ดังไปไกลถึงระดับโลก ได้รับเชิญไปแสดงร่วมในยูทู้ปรีวิวที่เชิญเฉพาะคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ตัวพ่อจากแต่ละประเทศไปถ่ายทำกันก็หลายครั้ง ผมเริ่มรู้แล้วว่าหนุ่มคนนี้มี “สูตร” อะไรบางอย่างที่ปรุงทีไรก็ฮิตทุกครั้ง ก็เลยเชิญมาเป็นวิทยากรในหลักสูตร แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าสูตรของเขาคืออะไร…
ต่อมาบี้ก็เข้ามาเป็นนักเรียนในหลักสูตรเอบีซีที่ผมจัดอยู่ ได้รู้จักมากขึ้นเป็นการส่วนตัว บี้เป็นน้องที่เก่งกว่าที่ผมจินตนาการไว้มากทั้งพื้นฐานด้านไอทีที่ไม่ธรรมดา วิธีคิดสร้างสรรค์แหวกแนวในเรื่องต่างๆ แถมนิสัยดีมีน้ำใจเอามากๆด้วย หลังจากนั้นอีกหลายปีจนปัจจุบัน คนสร้างคอนเท้นท์จำนวนมากผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หาคนยืนระยะแบบบี้นั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย
1
กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าตัวจริงเสียงจริงในโลกคอนเท้นท์ที่แสนจะยาก ยุ่งเหยิงและเปลี่ยนไปตลอดเวลานั้น บี้เดอะสกายืนระยะได้อย่างมหัศจรรย์เป็นที่สุด
1
บี้เพิ่งตัดสินใจเขียนหนังสือแนะนำการเป็นคอนเท้นท์ ครีเอเตอร์ ยอมเผยแพร่ “สูตร” ลับของเขาที่พิสูจน์มาอย่างยาวนานในโลกที่ไม่มีใครเข้าใจใบนี้ที่กำลังจะวางแผนในไม่ช้า มีตอนหนึ่งเขาเขียนเรื่อง “TREC” สูตรสำเร็จในการสร้างคอนเท้นท์โดนใจ ก็ทำให้หูตานักการตลาดโบราณอย่างผมสว่างว่าบขึ้นมา
TREC ของบี้นั้นประกอบด้วย ตัว T ที่มาจาก trend + tool ก็คือคอยใช้เครื่องมือทางสถิติดูว่ามีอะไรที่โดนใจ กำลังมาในช่วงนี้ แล้วหาทางเชื่อมโยงเข้ากับเทรนด์นั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นช่างแต่งหน้าพอลิซ่าดังก็สอนแต่งหน้าแบบลิซ่าเป็นต้น
1
ตัว R นั้นมาจาก real/rare บี้บอกว่าคนสมัยนี้ไม่ต้องการอะไรที่ปรุงแต่งมาก ยิ่งเป็นเหตุการณ์จริงๆ หรือหลุดๆคนยิ่งชอบ ซึ่งตรงกับไอซ์ ธีรศาส์น เจ้าพ่อคอนเท้นท์อีกคนที่เคยลอง live ขายของแบบมืออาชีพ ปรากฏว่าไม่มีใครดู แต่ live แบบรกๆ มั่วๆ คนดูกลับเยอะ ส่วน rare นั้น บี้อธิบายว่ามาจากความหายากหรือคนไม่ค่อยรู้ เช่นเขาเคยไปทำคลิปเที่ยวเกาหลีเหนือที่แทบไม่เคยมีใครไป ก็ได้รับความนิยมมาก
1
E มาจาก experience/emotional บี้บอกว่าถ้าเราทำคอนเท้นท์ที่คนส่วนใหญ่มีประสบการณ์ร่วม เช่นประสบการณ์การนั่งแท็กซี่ คนดูก็จะรู้สึกว่าเคยเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ก็จะอิน และคอนเท้นท์ที่ทำก็จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ต้องสร้างความรู้สึกเมื่อดูจบว่าจะ ตลก เศร้า เพลิดเพลิน มีพลัง มีกำลังใจ อะไรก็ได้ ห้ามแค่รู้สึกเฉยๆ คอนเท้นท์จึงจะมีพลัง
1
C ข้อสุดท้ายมาจาก contrast การต้องหาความขัดแย้งในคอนเท้นท์ให้เจอ เช่นบี้เต้นเกาหลีแต่พร็อบบ้านมากๆ ไม่เข้ากับเพลง หรือทำอะไรสนุกมากๆแต่คนรอบตัวในคลิปหน้านิ่งๆ ถ้ามีความขัดแย้ง คอนเท้นท์นั้นก็มักจะสะดุดตาสะดุดใจเสมอ
สี่ข้อนี้ก็เป็นสี่ข้อที่ชวนคิดเวลาเราจะทำคอนเท้นท์ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะนักการตลาด นักการเมือง หรือทำเพื่อรณรงค์ให้ใครติดตาม ต้องการส่งสารบางอย่าง หรือเป็นแคมเปญทางสังคมก็ตาม ก็น่าจะพิจารณาว่ามีสี่ข้อนี้หรือไม่ และก็เป็นบทสรุปว่าทำไมแคมเปญนักการเมืองแบบเก่าถึงไม่ทำงาน หรือโฆษณาที่เน้นแต่ขายของถึงไม่เวิร์คในยุคสมัยที่มีอะไรให้เลือกดู ไม่ชอบก็ skip ได้แบบนี้
2
………
ผมคิดว่ามีอีกข้อที่บี้ไม่ได้เขียนแต่ทำให้เขายืนระยะได้กว่าสิบปีในโลกที่ผันผวนแบบนี้ เป็นโลกที่ fake news กระจายเร็วกว่าข่าวจริงหกเท่า (MIT research) เป็นโลกที่ทำอะไรฉาบฉวยหรือหยาบคายแล้วมักจะได้วิวมากกว่าทำเนื้อหาปกติ การที่จะอดทนไม่ล้ำเส้น ไม่ตีกินเอาแต่ยอดไลค์ยอดแชร์โดยไม่คำนึงถึงเยาวชนที่ติดตามซึ่งนำมาให้เกิดดราม่าและการดับวูบของ content provider มานับไม่ถ้วน
2
บี้ยังยืดหยัดมั่นคงกับคอนเท้นท์อารมณ์ดีที่ไม่หยาบ เคารพผู้ชม และพยายามเดินทางสายยากที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์บนกรอบ TREC
เขาจึงยืนระยะและฝ่าคลื่นแห่งข่าวสารมายืนหนึ่งได้จนปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่ไม่ว่านักการเมือง นักการตลาด หรือ content provider ทุกคนก็ควรจะเรียนรู้จากเขาด้วยอีกเช่นกัน
ในโลกที่ content is king ฟังและเรียนจาก บี้ เดอะสกา king of content คนนี้ไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ
เขียนไว้ให้เธอ
โฆษณา