2 ก.ค. 2022 เวลา 07:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ประณีต งดงาม "Elvis" หนังชีวประวัติราชาเพลงร็อค “เอลวิส เพรสลีย์”
ครอบครัวเพรสลีย์ชื่นชมภาพยนตร์ “เอลวิส” (Elvis) เป็นหนังที่ถ่ายทอดออกมาด้วยความรัก และเคารพในตัวราชาเพลงร็อค พร้อมเกร็ดชวนอ่านว่าทำไมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีเรื่องนี้ถึงเป็นหนังที่คุณไม่ควรพลาด
ประณีต งดงาม "Elvis" หนังชีวประวัติราชาเพลงร็อค “เอลวิส เพรสลีย์”
เอลวิส (Elvis) เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 2022 ที่มีผู้รอชมกันเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นการหยิบยกเอาเรื่องราวของบุคคลที่เป็นตำนานแห่งวงการดนตรีอย่าง เอลวิส เพรสลีย์ เจ้าของสมญา “ราชาเพลงร็อคแอนด์โรล” มานำเสนอผ่านมุมมองของผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มือดีของวงการฮอลลีวู้ดที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีตของผลงาน
1
เพื่อต้อนรับภาพยนตร์ เอลวิส (Elvis) ที่กำลังลงโรงฉายในบ้านเราอยู่ขณะนี้ กรุงเทพธุรกิจ จะพาคุณไปทำความรู้จักกับหนังชีวประวัติเรื่องนี้กันว่าทำไมถึงไม่ควรพลาด
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับ เขียนบท และโปรดิวซ์โดย บาซ เลอห์มานน์ (Baz Luhrmann) ผู้กำกับชาวออสเตรเลียที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากในการทำหนังเกี่ยวดนตรี ละครเพลง ละครเวทีที่ต้องมีบรรยากาศกรีดกราย มีความอลังการงานสร้างอย่างที่เราได้เห็นกันมาแล้วใน Strictly Ballroom (1992), William Shakespeare's Romeo + Juliet (1996), Moulin Rouge (2001), Australia (2008), The Great Gatsby (2013)
Elvis เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มผิวขาวที่เติบโตมาในชุมชนคนผิวดำ นักร้องหนุ่มจากเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ที่ร้องเพลงตามงานคาร์นิวัลมาก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็น King of Rock and Roll ผ่านสายตาของ “ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์” ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับเอลวิสมายาวนาน
ผู้กำกับ บาซ เลอห์มานน์ บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก “เชคสเปียร์” ตอนที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ ดังนั้น เอลวิส (Elvis) จึงไม่ค่อยเหมือนหนังชีวประวัติทั่วไปเท่าไรนัก
ผู้มารับบทราชาเพลงร็อคคือ ออสติน บัทเลอร์ (Austin Butler) นักแสดงชาวอเมริกันวัย 31 ปีซึ่งเพิ่งมารับบทนำใน Elvis เป็นเรื่องแรก เขาเข้าวงการด้วยการเป็นดาราเด็กทางช่อง Disney Channel, Nickelodeon ก่อนจะขยับมาเล่นซีรีส์ ต่อด้วยภาพยนตร์ ซึ่งผลงานล่าสุดคือ Once Upon a Time in Hollywood ของเควนติน ทารันติโน โดยรับบทเป็น “เท็กซ์ วัตสัน”
การรับบท “เอลวิส เพรสลีย์” ที่มีเสน่ห์เหลือล้น มีความแพรวพราวเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของสีหน้าท่าทาง การส่ายสะโพก น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนจิตวิญญาณของ “ราชาเพลงร็อค” เวลาอยู่บนเวที ทำให้ ออสติน บัทเลอร์ ต้องไปขอคำแนะนำจาก รามี มาเลค ผู้มีประสบการณ์จากการรับบทนักร้องระดับตำนาน “เฟรดดี้ เมอร์คิวรี” ในหนังเรื่อง Bohemian Rhapsody มาก่อน
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่เคยเล่นเรื่อง Once Upon a Time in Hollywood กับบัทเลอร์ และเคยเล่นหนังของเลอห์มานน์มา 2 เรื่อง คือ Romeo + Juliet กับ The Great Gatsby ได้บอกบัทเลอร์เอาไว้ว่า “บาซ เลอห์มานน์จะทำให้คุณเสียศูนย์อยู่ตลอด แต่มันจะดึงเอาสิ่งต่างๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีอยู่ในตัวคุณออกมา นั่นคือประสบการณ์ที่ผมได้จากการทำงานกับเขา”
ออสติน บัทเลอร์ ใช้เวลา 5 เดือนเพื่อศึกษาตัวละคร ในหนังเรื่องนี้เขาต้องสวมเครื่องแต่งกายกว่า 90 ชุดเพื่อถ่ายทอดบุคลิกของเอลวิสที่แตกต่างกันไปในยุค 1950, 60 และ 70 ให้ออกมาสมจริง
ทอม แฮงค์ส รับบท “ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์” ผู้จัดการส่วนตัวที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับเอลวิส และถูกมองว่าเป็นตัวร้าย แต่ทำไมเขาถึงกลับทำหน้าที่นี้มาได้อย่างยาวนานคงต้องไปหาคำตอบในหนัง
ภาพยนตร์ เอลวิส (Elvis) ได้รับการคาดหมายว่าจะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหลักหลายตัว เช่น ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ทอม แฮงก์) รวมไปถึงรางวัลด้านเทคนิค และโปรดักชั่นอีกหลายสาขา
คนในครอบครัวเพรสลีย์ถึง 3 เจเนอเรชัน ตบเท้าเข้าร่วมงานเปิดตัวหนัง Elvis ได้แก่ พริซซิลา เพรสลีย์ ภรรยาของเอลวิสที่ไม่ออกสื่อมานานแล้ว แต่ก็ยอมมางานนี้ รวมไปถึง ลิซา มารี เพรสลีย์ ลูกสาวของเอลวิสที่พาลูกสาว 3 คนมาดูหนังชีวประวัติของคุณตากันพร้อมหน้า
ลิซา มารี เพรสลีย์ ออกมาอวยหนังเรื่องนี้อย่างหนัก โดยบอกว่าดูไปแล้ว 2 รอบ พร้อมชมว่าสัมผัสได้ถึงความรักอันบริสุทธิ์ และความเคารพที่ผู้กำกับเลอห์มานน์มีให้กับพ่อของเธอ ขณะที่ ออสติน บัทเลอร์ สมควรได้รับรางวัลออสการ์จากการถ่ายทอดจิตวิญญาณของพ่อเธอออกมาได้อย่างหมดจดงดงาม
นักวิจารณ์หนังจากนิตยสารไทม์เป็นอีกคนที่บอกว่า สัมผัสได้ถึงความรักที่ บาซ เลอห์มานน์ มีต่อเอลวิสได้ตลอดทั้งเรื่อง พร้อมชมว่าเหมือนได้เห็นเอลวิส เพรสลีย์ กลับมามีชีวิตอีกครั้งผ่านภาพโฮโลแกรม ทั้งที่จริงแล้วเป็นคนแสดงจริง
ฮิวจ์ แจ็คแมน ผู้เคยร่วมงานกับ บาซ เลอห์มานน์ ในหนังเรื่อง Australia เมื่อปี 2008 ลงคลิปในไอจีชมภาพยนตร์ Elvis ว่าเป็น “งานศิลปะที่งดงาม” พร้อมพูดถึงผู้กำกับว่า “บาซ คุณทำได้อีกแล้วนะ”
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์ Elvis จะมีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่งแล้วก็ตาม แต่ผู้กำกับเลอห์มานน์บอกว่ายังมีเวอร์ชั่นที่ยาว 4 ชั่วโมงกว่าอยู่อีก โดยฉากที่ถูกตัดออกไปก็เช่น ฉากที่พูดถึงความสัมพันธ์ของเอลวิสกับวง, ความสัมพันธ์ของเอลวิสกับแฟนคนแรกที่ชื่อ ดิกซีย์
โฆษณา