2 ก.ค. 2022 เวลา 05:24 • ไลฟ์สไตล์
วันนี้เห็นบทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบ
Dual Income, no kids -​DINK
อ่านแล้วรู้สึกสนใจ คิดว่าสังคมยุคนี้รูปแบบการใช้ชีวิตคู่น่าจะเป็นแบบนี้ไม่น้อย แม้แต่คนใกล้ตัวเราก็มีแบบนี้หลายคู่ เหตุผลของแต่ละคู่ที่ตัดสินใจไม่มีลูก ย่อมแตกต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้าง
ถามตัวเอง ถ้าแต่งงานสักอายุสามสิบต้น กลาง ปลายก็จะมีลูกนะ ไม่งั้นเดี๋ยวสามีจะว่างค่ะ
แต่ถ้าสี่สิบขึ้นก็ไม่ใช่วัยแล้วที่จะตั้งท้อง ทั้งสภาพสังคมก็อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่จะเกิดมา เราอาจจะมีเวลาปกป้องลูกได้ไม่นานพอ...
DINK
นั่นคือรูปแบบการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างทำงาน มีรายได้ แล้วตัดสินใจไม่มีลูก ในบทความกล่าวถึงข้อดีของการใช้ชีวิตคู่แบบนี้ในแง่ของการสร้างฐานะ
รายได้สองทาง
ค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันก็เหมือนหารสองกลายๆ
ไม่มีภาระเด็กที่ต้องเลี้ยงดู ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่น้อยเลย
หาสองคน ใช้นิดหน่อย ไม่มีภาระเรื่องเด็ก
เงินเหลือๆก็คือเก็บและลงทุน ผลตามมาาคืองอกเงย มีโอกาสร่ำรวย
การใช้ชีวิตกินหรู อยู่สบาย ท่องเที่ยวตามใจคือ ทำได้ไม่ลำบากถ้าวางแผนดี
คนกลุ่มนี้มีโอกาสสร้างความร่ำรวยและเกษียณ​ได้เร็ว ถ้าต้องการ
ประเด็นที่คุยกันกับเพื่อนคือ
ถ้ามีชีวิตแบบนี้ อายุสี่สิบกว่า มีตังค์เก็บเยอะแยะก็เกษียณเลยสิ ลูกไม่มีหาคู่ใหม่ก็ยังได้ (คิดว่าน่าจะคิดแบบง่ายๆขำๆ)​
เราก็อ้าววววว.....​อายุแค่นี้ไม่ทำงาน จะล่องลอยยังไงกว่าจะตาย เรี่ยวแรงก็ยังมี เงินไม่รู้จักใช้ก็หมดได้ คุณค่าอยู่ตรงไหน ไปบวชเลยยังจะดีกว่า
แล้วคู่ชีวิตนะ ไม่ใช่รองเท้าจะได้เปลี่ยนไปมา
และสำหรับเรามองว่า.. ..
ชีวิตคู่ ไม่ใช่การลงทุน ไม่ใช่แค่อยู่ร่วม กินด้วยกัน นอนด้วยกัน เห็นหน้า ใช้ชีวิตด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน หาเงินช่วยกัน เก็บเงินช่วยกัน เพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิต แล้วคอยหวงกัน เพื่อรอวันตายจากกัน แค่นี้
ชีวิตคู่ นอกจากการอยู่ร่วมกัน
แต่มันคือมีคนที่จะเติบโตทางจิตวิญญาณ​ไปด้วยกันในทางที่ดีขึ้น เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้กันและกัน เกื้อกูลกัน เป็นเพื่อนกัน เคียงข้างกัน ดูแลกัน ตักเตือนกันด้วยรักและหวังดี
ไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าสุขหรือทุกข์ จนหรือรวย
เชื่อใจกัน และเคารพการตัดสินใจของกันและกัน ถ้าจะคู่กันจริงๆ มันก็จะให้อิสระกันมากเลยนะ
มุมมองของคนไม่มีคู่นะคะ 😅😆...
แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ค่ะ
ถ้าสนใจอ่านบทความต้นฉบับบตามลิงก์ค่ะ
โฆษณา