4 ก.ค. 2022 เวลา 11:15 • หุ้น & เศรษฐกิจ
News Update: บรรดานักวิเคราะห์คาดภาวะถดถอยกำลังมา เผย 3 วิธีจัดการพอร์ตลงทุน กระจายความเสี่ยง-ลงทุนพันธบัตร-ถือเงินสดสำรอง
หลังจากดัชนี S&P 500 ในครึ่งปีแรกปิดตัวยํ่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกว่า 68% เชื่อว่าภาวะถดถอยจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 พร้อมทั้งแนะนำให้กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งรวมถึงพันธบัตรแม้ว่าราคาจะตกต่ำ และการเพิ่มเงินสดสำรอง
หลายเดือนของความผันผวนในตลาดหุ้น ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสงสัยว่าจะเกิดภาวะถดถอยหรือไม่ โดยดัชนี S&P 500 เริ่มต้นครึ่งปีแรกได้แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบจากต้นปี ในขณะที่ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และ Nasdaq Composite ลดลงมากกว่า 15% และ 30% ตามลำดับ
แบบสำรวจของ CNBC พบว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินประมาณ 68% เชื่อว่าภาวะถดถอยจะมาในครึ่งปีแรกของปี 2023 ทั้งนี้แต่ละผู้เชี่ยวชาญต่างมีความเห็นที่ต่างกันไปตามสภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า
Elliot Herman นักวางแผนทางการเงินของ PRW Wealth Management กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าตลาดมีวัฎจักรเป็นของตัวเอง และภาวะถดถอยเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรที่เราอาจเผชิญ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องผลักดันให้แก่ลูกค้าทุกคน
วิธีการแรกในการรับมือกับภาวะถดถอยคือ การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน Anthony Watson ประธานผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษียณอายุของ Thrive ระบุว่า การลดความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนมีวิธีมากมาย เช่น การลงทุนในกองทุนมากกว่าหุ้นเดี่ยวเพื่อลดความเสี่ยงเฉพาะบริษัท, การเลือกลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่ามากกว่าหุ้นเติบโต, การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศ เป็นต้น
ประการถัดมาคือ การพิจารณาลงทุนในพันธบัตร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดและราคาพันธบัตรมักเคลื่อนที่ในทางตรงกันข้าม การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED จึงทำให้มูลค่าพันธบัตรลดลง Watson กล่าวว่า พันธบัตรยังคงเป็นส่วนสำคัญของพอร์ตลงทุน หากหุ้นร่วงลงสู่ภาวะถดถอย อัตราดอกเบี้ยอาจลดลงเช่นกัน ทำให้ราคาพันธบัตรฟื้นตัว ซึ่งสามารถชดเชยการขาดทุนของหุ้นได้
วิธีสุดท้ายคือ การประเมินสัดส่วนเงินสดสำรอง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงและผลตอบแทนจากบัญชีออมทรัพย์ต่ำทำให้การถือเงินสดน่าสนใจน้อยลง แต่ผู้เกษียณอายุยังคงต้องการเงินสดสำรองจำนวนมาก การยอมขายสินทรัพย์ขาดทุนจะทำให้นักลงทุนตกอยู่ในลำดับผลตอบแทนเชิงลบ ซึ่งจะกินเวลาเกษียณไปด้วย Catherine Valega ที่ปรึกษาการเงินและความมั่งคั่งของ Green Bee Advisory เผยว่าการสำรองเงินสดมีความสำคัญต่อนักลงทุนในวัยสะสมทุน โดยมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่าก่อนเกษียณ
โฆษณา