Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
จะเล่า
•
ติดตาม
13 ก.ค. 2022 เวลา 03:10 • ข่าว
เปิดคดีปริศนาฆาตกรไร้หน้าสุดโหดผู้ฆ่ายกครัวมิยาซาว่า
วันนี้ทางแอดมินจะพาทุกคนไปดูคดีชื่อดังแห่งยุคอย่างคดีฆาตกรรมครอบครัวมิยาซาว่าจากประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงเป็นปริศนามากว่า 22 ปีแล้ว
ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสิ้นปีในแขวงเซตากายะของโตเกียว ภายในบ้านหลังหนึ่งที่มีครอบครัวแสนสุขซึ่งประกอบไปด้วย มิกิโอะผู้เป็นพ่อวัย 44 ปี ยาสุโกะผู้เป็นแม่วัย 41 ปี นีน่าลูกสาววัย 8 ขวบ และสุดท้ายเรอิลูกชายวัย 6 ขวบ กำลังจัดเตรียมงานเฉลิมฉลองวันสิ้นปีอยู่ที่บ้าน โดยที่งานเฉลิมฉลองครั้งนี้กำลังจะกลายเป็นงานเฉลิมฉลองครั้งสุดท้ายของชีวิต
โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวฆาตกรรมสุดโหดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2000 เมื่อฆาตกรสุดโหดได้แอบเข้าไปในบ้านของครอบครัวมิยาซาว่าและเริ่มฆ่าพวกเขาทีละคน
ซึ่งเช้าวันรุ่งขึ้นคุณยายเซทซึโกะไม่สามารถติดต่อคนในครอบครัวผ่านทางโทรศัพท์ได้เหมือนอย่างเคย เนื่องจากโทรศัพท์ถูกตัดสัญญาณการเชื่อมต่อ เธอที่รู้สึกถึงความผิดปกติได้จึงได้ตัดสินใจเดินไปเคาะประตูบ้านของครอบครัวมิยาซาว่า แต่ก็ไม่มีการออกมาเปิดประตูให้เหมือนกันกับปกติหรือแม้แต่การตอบรับใด ๆ กลับมา
เธอจึงได้ใช้กุญแจสำรองไขประตูบ้าน และภาพที่เธอได้เจอนั้นกลับเป็นภาพที่น่าสยดสยอง โดยภาพที่เธอได้เจอนั้นก็คือภาพของมิกิโอะนั่งทรุดตัวอยู่บริเวณด้านล่างของบันไดใกล้กันกับหน้าประตู ซึ่งร่างอันไร้วิญาณของลูกเขยของเธอนั้นมีร่องรอยการถูกแทงอยู่หลายครั้ง
จากที่เธอได้เห็นภาพของมิกิโอะนั้นเธอจึงได้ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ซึ่งบนชั้นนี้เธอก็ได้พบเข้ากับศพของลูกสาวอันเป็นที่รักและศพหลานสาวของเธอในสภาพที่ถูกฟันจากเหนือหน้าอกไล่ไปที่ใบหน้า อีกทั้งยังมีร่องรอยการถูกกระหน่ำแทงอีกเป็นจำนวนมาก และถึงแม้เธอจะเห็นสภาพของทั้งสองแล้ว
แต่เธอก็ยังคงหวังให้พวกเขามีชีวิตอยู่ โดยเธอเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสตัวพวกเขา พยายามจะค้นหาสัญญาณชีพจร แต่กลับไม่พบชีพจรอีกยังร่างทั้งร่างยังเย็นเฉียบอีกด้วย เธอจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ
จากการสันนิษฐานของตำรวจคนที่ถูกฆ่าเป็นคนแรกนั้นก็คือเรอิลูกชายวัย 6 ขวบ เขาถูกฆ่าโดยการบีบคอจนเสียชีวิตบนเตียงขณะกำลังนอนหลับ
ซึ่งมิกิโอะที่กำลังทำงานอยู่ชั้นล่างได้ยินเสียงผิดปกติ เขาจึงได้เดินขึ้นไปดูและได้พบกับตัวฆาตกร ทั้งสองคนเกิดต่อสู้กัน สุดท้ายเป็นมิกิโอะที่ถูกแทงด้วยมีดทำซาชิมิที่มีความยาวกว่า 34 เซนติเมตร หลังจากเขาถูกแทงเขาก็ถูกถีบลงมายังชั้นล่าง ว่ากันว่าเขานั้นยังไม่ตายในทันที แต่คาดว่าเขาน่าจะเสียเลือดมากจนตาย
หลังจากที่ฆ่าเรอิและมิกิโอะเสร็จแล้ว ฆาตกรก็มุ่งหน้าไปยังห้องใต้หลังคาที่ยาสุโกะและนีน่ากำลังนอนอยู่ แต่ด้วยเสียงดังจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้นั้นทำให้ยาสุโกะและนีน่าตื่นขึ้นมา โดยฆาตกรพยายามฆ่าทั้งสองด้วยมีดทำซาชิมิที่ใช้ฆ่ามิกิโอะ แต่ด้วยมีดเกิดหักจากการต่อสู้กับมิกิโอะ ฆาตกรจึงได้กลับลงมาเอามีดที่อยู่ในครัวของบ้านแทน
ทางด้านยาสุโกะและนีน่าที่บาดเจ็บหนักจากการต่อสู้คิดว่าฆาตกรน่าจะหนีไปแล้วจึงได้ออกมาจากห้องใต้หลังคา แต่มันกลับไม่ใช่ ทั้งสองคนได้ออกมาเจอกับฆาตกรที่ได้มีดเล่มใหม่มา ทั้งสองคนจึงถูกฆ่าอย่างสยดสยอง ตำรวจสันนิษฐานว่าฆาตกรยังคงกระหน่ำแทงทั้งคู่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่นั้นได้ตายไปแล้ว
หลังจากที่ฆาตกรได้ฆ่าทุกคนในบ้านมิยาซาว่าไปหมดแล้วนั้น ตัวฆาตกรไม่ได้หนีออกจากบ้านไปในทันที แต่กลับกันนั้นกลับอาศัยอยู่ในบ้านมิยาซาว่าเป็นเวลานาน ทั้งหยิบสิ่งของภายในบ้านมากิน ทิ้งขยะเกลื่อนไปทั่วบริเวณบ้าน ทั้งใช้คอมของมิกิโอะดูประวัติการทำงาน อีกทั้งพยายามจะจองตั๋วดูหนังในเวลาตีหนึ่ง ที่ยิ่งไปกว่านั้นฆาตกรกลับไปขับถ่ายในห้องน้ำ แถมยังปล่อยคาไว้แบบนั้นอีกด้วย
ซึ่งหลังจากที่ทำอะไรอย่างอิ่มหนำสำราญเสร็จแล้ว ตัวฆาตกรก็ยังคงนอนพักโซฟาภายในบ้าน กว่าที่ตัวฆาตกรจะออกจากบ้านมิยาซาว่าไปนั้นก็ปาไปกว่า 10 โมงเช้าของอีกวัน เนื่องจากมีประวัติเข้าใช้งานเว็บไซต์จากคอมของมิกิโอะในเวลา 10:05 น. ซึ่งคาดว่าฆาตกรน่าจะออกจากบ้านมิยาซาว่าตอนที่คุณยายเซทซึโกะมาเคาะประตูบ้าน
โดยตำรวจสันนิษฐานว่าฆาตกรปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วแอบเข้าไปทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ของห้องน้ำชั้นสอง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้จริง ๆ ว่าฆาตกรนั้นเข้าบ้านของครอบครัวมิยาซาว่าทางไหน เนื่องบ้านมิยาซาว่าได้รับการสนับสนุนให้เป็นสวนสาธารณะ Soshigaya ทำให้ฆาตกรสามารถแอบเข้าบ้านได้หลายจุด
บ้านมิยาซาว่าคือตรงที่ถูกล้อมตรงมุมซ้าย
หลังจากฆาตกรจากไป เขาก็ได้ทิ้งหลักฐานไว้อย่างมากมาย เหมือนกับว่าเขามั่นใจว่าตัวเขาเองจะไม่ถูกจับอย่างแน่นอน
1. รอยรองเท้าของฆาตกร เชื่อว่าเป็นรองเท้า slazenger รุ่นหนึ่ง ซึ่งผลิตและขายในเกาหลี จึงได้เกิดทฤษฎีที่ว่าฆาตกรนั้นไม่ใช่คนญี่ปุ่น
รองเท้าที่คาดว่าฆาตกรใส่
2. เสื้อผ้าที่ฆาตกรสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ตัวฆาตกรทิ้งเสื้อผ้าไว้อย่างมั่นใจว่าจะไม่มีใครตามรอยเขาจนเจอได้ (ถ้านำเสื้อผ้าทั้งหมดที่ฆาตกรทิ้งไว้มาใส่จะได้แบบนี้)
ชุดที่ฆาตกรใส่ในวันเกิดเหตุ
3. ตำรวจพบว่าเสื้อผ้าของฆาตกรได้มีการซักโดยน้ำกระด้างซึ่งไม่พบในน้ำประปาของญี่ปุ่น ในขณะที่เกาหลีใช้ระบบน้ำกระด้าง ทำให้ยิ่งทฤษฎีที่ว่าฆาตกรนั้นเป็นคนต่างชาติยิ่งมีมากขึ้นไปอีก
4. ทรายที่อยู่ในตัวเสื้อของฆาจกร ซึ่งจากการตรวจทรายนี้พบได้ในสหรัฐอเมริกา หรือถ้าแคบไปอีกก็เป็นทรายรอบฐานทัพอากาศของลอสแอนเจลิส ซึ่งนี้ทำให้เกิดทฤษฎีว่าฆาตกรคือนักบินหรือผู้รับเหมาขึ้นมา
5. มีดทำซาชิมิที่หักและมีดอีกเล่มนึงที่เปื้อนเลือด คาดว่าน่าจะเป็นมีดจากในครัวของบ้านมิยาซาว่า
6. คราบเลือดของฆาตกรที่หยดอยู่บริเวณคอมของมิกิโอะ หลังจากนำไปตรวจคราบเลือดมาแล้วนั้น พบว่าพ่อของฆาตกรน่าจะเป็นคนเกาหลี แม่ของฆาตกรน่าจะเป็นคนยุโรป ซึ่งทำให้คาดว่าฆาตกรน่าจะเป็นลูกครึ่ง
ส่วนสาเหตุและแรงจูงใจในการฆ่าครอบครัวมิยาซาว่านั้นยังคงเป็นปริศนา เพราะจากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิดบอกว่ามิกิโอะเป็นพนักงานบริษัทที่เข้ากับทุกคนได้ดีเรียกว่าไม่มีวันที่จะมีศัตรูได้เลย ส่วนคุณแม่ยาสุโกะเป็นแม่บ้านที่มีหน้าที่เลี้ยงลูก ๆ ทั้ง 2 คน ส่วนลูก ๆ อย่าง นิน่านั้นมีนิสัยขี้เล่น และเรอิมีปัญหาด้านการพูด
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ มิกิโอะได้ทะเลาะกับนักสเก็ตบอร์ดคนหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มสเก็ตบอร์ดได้ส่งเสียงดังที่สวนสาธารณะข้างหลังบ้าน มิกิโอะทนไม่ไหวจึงได้ไปว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มสเก็ตบอร์ด และมิกิโอะยังได้ไปทะเลาะกับแก๊งค์มอเตอร์ไซค์เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้จึงมีขอบเขตที่กว้างมากในเรื่องของฆาตกร
1
ซึ่งจนถึงปัจจุบันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปกว่า 22 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะจับกุมตัวฆาตกรได้ และทุกวันนี้คดีของครอบครัวมิยาซาว่านั้นก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก
https://www.jgbthai.com/faceless-killer/
https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://mobile.twitter.com/1stsherlockindc/status/1254353102754312195%3Flang%3Dth&ved=2ahUKEwi6rPaz7vT4AhVh7zgGHb_0BFEQjjh6BAgDEAE&usg=AOvVaw15AOjvBt2gcDu6oEDVInNy
https://writer.dek-d.com/NatsukiAlice/writer/viewlongc.php?id=676433&chapter=97
ข่าว
ข่าวรอบโลก
ญี่ปุ่น
2 บันทึก
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย