ทำไมต้องเป็นพี่ๆทั้ง 3 ท่านนะที่ได้ขึ้นเวทีเสวนาในหัวข้อ การทำแห้งแบบ LTLH
ที่งาน Thailand Coffee fest 2022 วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. เวทีกลาง เวลา 11.00 น. นี้ ?
มาทำความรู้จักกับพี่ๆทั้ง 3 กันค่ะ ว่าขั้นเทพกับการตากแห้งแบบ LTLH กันขนาดไหน!
แน่นอนค่ะ เราขอเริ่มที่พี่กี้ของเรากันก่อนเลย
พี่กี้ หรือคุณอาคม สุวัณณกีฎะ เจ้าของร้านโก๋กาแฟ ธรรมดาเป็นพิเศษและโรงคั่วกาแฟปรีดา
แค่เห็นชื่อก็เห็นถึงความขลังแล้วใช่ไหมล่ะคะ ก็แน่ล่ะค่ะเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาใครที่ติดตามพี่กี้มาตลอดจะรู้ว่าทุกงานวิจัยและทุกการลงมือทำพี่กี้ได้เขียนบันทึกไว้หมดโดยเฉพาะการศึกษาเกี่ยวกับการตากกาแฟด้วยระบบ LTLH ซึ่งจะให้เล่าว่าทำมานานแค่ไหนคงต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 2017 ในปีนี้ที่ถือเป็นจุดกำเนิดการพัฒนากาแฟอย่างจริงจังของโรงคั่วปรีดาซึ่งได้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการแปรรูปกาแฟโดยการหมักยีสต์ จนเดินทางมาถึงปี 2019
ทีมปรีดาให้ความสนใจพัฒนาเทคนิคการตากกาแฟเพื่อแก้ปัญหาฝนหลงฤดูที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุคหลังอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ดังนั้นพี่กี้และทีมงานจึงเริ่มทดลองการตากภายในห้องที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้โดยเรียกระบบการตากดังกล่าวว่า LTLH (Low Temperature,Low Humidity Drying) ซึ่งสามารถทำการตากกาแฟได้ทุก process ไม่ว่าจะเป็น wet process, dry process หรือ Honey Process
ซึ่งผลงานของปรีดาที่ได้รับความนิยมคงจะเป็นอะไรอื่นไม่ได้นอกจาก Strawberry Field และ Plum
กาแฟ LTLH(Yeast-dry precess x LTLH Technique) ของ Preda Roasting House ที่มีคาแรกเตอร์พิเศษและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ามาหลายปี ซึ่งปีนี้ก็พบกับ Strawberry Field และ Plum ที่บูธ 'SC Coffee House' ใจกลางงาน Thailand Coffee Fest 2022 ด้วยนะ
พี่ต้น หรือคุณกมลวรรจน์ โตบุญช่วย Coffee development Manager บ.Boncafe
พี่ต้น Q grader อารมณ์ดี ที่ทำงานแนวส่งเสริมเกษตกรมานานหลายปีโดยมักจะให้ความรู้ทางด้านเกษตรเทคโนโลยีแก่ชาวสวนกาแฟ สวนไหนต้องการเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสวนกาแฟหรือตรวจสอบมาตรฐานสารกาแฟของตัวเองก็จะมีพี่ต้นคอยไปตรวจสอบให้ จนได้ฉายาว่า “สล่าต้น” (สล่า เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ช่างใหญ่)
จนมาถึงปี 2019 ก็ได้เข้ามาร่วมศึกษา พัฒนาการตากแบบ LTLH ไปพร้อมๆกับปรีดา พูดได้ว่าขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ เพื่อการศึกษาอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น โดยพี่ต้นก็ได้สร้างห้องตากกาแฟเองที่บ้านจนกระทั่งถึงคราวที่ห้องนี้ได้สร้างตำนานขึ้น อย่างที่ทราบว่าห้องตากแห้งแบบ LTLH ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาฝนหลงฤดู พี่ชาตรีหนึ่งในวิทยากรซึ่งเป็นเกษตกรผู้ปลูกและ Process ก็เจอเข้ากับปัญหานี้จึงได้ทำการนำเมล็ดกาแฟจากดอยขุนช้างเคี่ยนลงมาตากที่ห้องนี้ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟแบบ Honey Process เมล็ดที่ดีมาพบกับการตากที่ดี
ผลลัพธ์ที่ได้จึงวิเศษมาก ตั้งแต่นั้นมาห้องตากแห่งนี้ก็กลายมาเป็นห้องตาก LTLH กาแฟนามสมมุติ
- กาแฟขุนช่างเคี่ยน ชนะเลิศอันดับ 1 ประเภท Honey process สุดยอดกาแฟไทย 2019
- กาแฟบ้านน้ำทรัพย์ อันดับ 5 ประเภท Honey process สุดยอดกาแฟไทย 2020
- กาแฟแม่เหาะ อันดับ 4 ประเภท Dry Process สุดยอดกาแฟไทย 2020
พี่ชาตรี หรือ คุณชาตรี แซ่ย่าง นึกถึงขุนช่างเคี่ยน นึกถึงชาตรี
เกษตกรรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนากาแฟที่ถือเป็นพืชผลการเกษตรที่มีการเพาะปลูกกันมาอย่างยาวนานด้วยการพัฒนาสายพันธ์กาแฟโดยนำเอากาแฟไปตรวจดีเอนเอ จนรู้จักสายพันธ์ในพื้นที่
กาแฟขุนช้างเคี่ยนก็ค่อยๆมีการพัฒนาขึ้น และเริ่มเข้าประกวดในงานต่างๆทำให้ได้รับรางวัลจากงาน Thai Specialty Coffee Award 2017 และได้รางวัลอันดับ 3 ของการแปรรูปแบบ Washed Process และปีถัดมาก็ได้รับรางวัลสาขาเดียวกันในอันดับที่ 5 ก่อนที่จะเริ่มนำกาแฟมาตากในห้อง LTLH จนชนะรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประเภท Honey process สุดยอดกาแฟไทย 2019
ทุกวันนี้ในแวดวงกาแฟพิเศษคงไม่มีท่านใดไม่รู้จักกาแฟขุนช้างเคี่ยนและด้วยรางวัลนี้เองที่ทำให้พี่ชาตรีเชื่อมั่นในการตากกาแฟแบบ LTLH ในปัจจุบันก็ได้สร้างห้องตากแห้ง LTLH ไว้ที่บ้านโดยทำเป็นร้านกาแฟไว้ชั้นบนสุด ข้างล่าง 2 ห้องจะเป็นห้องตากกาแฟทั้งหมด
แต่ละท่านไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ นี่ขนาดการทำงานของแต่ละท่านยังขนาดนี้ ขึ้นเวทีเสวนาจะสนุก จะมันส์ จะมีความรู้ให้ได้ฟังมากขนาดไหนกันนะ
.
เอาเป็นว่าเจอกันที่งาน Coffee fest 2022
วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. เวทีกลาง เวลา 11.00 น. ค่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
