15 ก.ค. 2022 เวลา 06:17 • ข่าวรอบโลก
ความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารจีน ปัญหาที่อาจใหญ่กว่าที่คิด
ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั่วโลกได้เห็นการรายงานข่าวถึงปัญหาการขาดสภาพคล่องของธนาคารจีน 4 แห่งในพื้นที่มณฑลเหอหนาน ที่มีการสั่งอายัดเงินฝากของประชาชนนับพันคน เป็นมูลค่ารวมหลายล้านหยวน โดยล่าสุดธนาคารขนาดย่อมหลายแห่งในเขตมณฑลเหลียวหนิงก็เริ่มเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินมากขึ้น
โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคาร 4 แห่งในมณฑลเหอหนานก ได้แก่ ธนาคารยู่โจว ซินมินเช็ง วิลเลจ (Yuzhou Xinminsheng Village Bank), ธนาคารเจ้อเช็ง หวงฮวย คอมมูนิตี้ (Zhecheng Huanghuai Community Bank), ธนาคารชางไค ฮุ่ยหมิน เคาน์ตี้ (Shangcai Huimin County Bank) และธนาคารนิว โอเรียลทัล เคาน์ตี้ แห่งไคเฟิง (New Oriental Country Bank of Kaifeng)
ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำการอายัดเงิน เพื่อยับยั้งแผนเข้ายึดธนาคารเหล่านี้ของกลุ่มอาชญากรรม ที่ยักยอกเงินออกจากธนาคาร ด้วยวิธีการปลอมแปลงสินเชื่อเพื่อโอนเงินออก ที่เรียกว่า “การกู้ลม”
ซึ่งตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐของจีนระบุว่า กลุ่มอาชญากรรมเหล่านั้นได้มีการตั้งบริษัทเข้ามาถือหุ้นในธนาคารต่างๆ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 แต่การอายัดเงินจำนวนมากก็ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่ฝากเงินกับธนาคารเหล่านั้นได้รับผลกระทบจนต้องมีการรวมตัวประท้วงอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นความรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดทางการท้องถิ่นได้ประกาศเริ่มคืนเงินให้กับเจ้าของบัญชีเงินฝากบางส่วน คนละ 50,000 หยวน หรือราว 270,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 นี้
ทั้งหมด ทั้งนี้รายงานการจัดอันดับของธนาคารกลางในช่วงไตรมาสที่ 4 เมื่อปีที่แล้วพบว่ามีธนาคาร 24 แห่ง จากทั้งหมด 4,398 แห่งที่ถูกสำรวจ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสถานะ "ปลอดภัย" โดยทั้ง 24 แห่ง ครองสัดส่วน 70% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารที่ถูกสำรวจ ส่วนธนาคารที่ถูกจัดให้อยู่ในความเสี่ยงสูงมี 316 แห่ง รวมทั้งธนาคารในมณฑลเหอหนาน ที่มีสัดส่วนสินทรัพย์เพียง 1% ของธนาคารที่ถูกสำรวจ
แม้ว่าสัดส่วนของธนาคารที่มีปัญหาจะถือครองทรัพย์สินน้อยมาก แต่การที่ธนาคารจำนวนไม่น้อยที่เสี่ยงต่อการจะถูกอายัดบัญชีหรือขาดสภาพคล่องจนทำให้ประชาชนไม่สามารถเบิกหรือถอนเงินได้ กำลังก่อตัวจนกลายเป็นวิกฤตความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารในประเทศจีนแล้ว
ที่สำคัญก็คือ ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้หากฟังจากภาครัฐแล้วพบว่าเป็นเพียงปัญหาที่มาจากการกู้ลม ซึ่งยังไม่สะท้อนภาพความเสี่ยงอีกหลายอย่างของสถาบันการเงินของจีน ซึ่งบางส่วนอาจมีลักษณะเป็น Shadow Bank มาก่อน แล้วมาได้รับใบอนุญาตธนาคารในภายหลัง ซึ่งกลุ่มนี้จะจูงใจให้ประชาชนฝากเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราทั่วไป แล้วนำเงินไปปล่อยกู้ต่อ
นอกจากนี้เรายังไม่เห็นปัญหาใหญ่จากภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอย่าง Evergrande Group ที่แน่นอนว่าจะมีผลประทบอย่างรุนแรงต่อระบบธนาคารและสถาบันการเงิน จากการผิดนัดชำระหนี้ต่างๆ ของ Evergrande Group และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาลูกโซ่ต่อระบบการเงินอีกมาก
วันนี้ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารจีนอาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาทั้งหมดก็ได้ ซึ่งหากว่าเป็นอย่างนั้น จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างแน่นอน
โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ 
ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน
ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา