20 ก.ค. 2022 เวลา 08:21 • การเมือง
อนุญาตต่างชาติซื้อที่ดิน ผลเสียคืออะไร
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่ประเด็นเรื่องการอนุญาตให้ต่างชาติสามารถถือครองที่ดินกลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง หลังจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายนิพนธ์ กล่าวว่ารัฐบาลเตรียมออกมาตรการเปิดทางต่างชาติใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท และต้องคงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปี สามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ 1 ไร่ แต่ยังขอคงเพดานต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมได้ไม่เกิน 49% โดยรัฐบาลคาดหวังว่าจะใช้กลไกดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายมาตรการลดค่าโอน และจดจำนองบ้าน ที่จะขยายจากเดิมที่กำหนดไว้ที่อสังหาฯ มูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่จะขยายฐานมาตรการโดยให้ราคา 3 ล้านบาทเป็นฐาน ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หลังจากที่มีข่าวเรื่องนี้ก็นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยประชาชนจำนวนมากก็ให้ความเห็นว่าการเปิดทางให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ ก็ไม่ต่างจากการขายชาติขายแผ่นดิน
ด้านนางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยขอคัดค้านนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้เพราะคนไทยเองประมาณ 80% ยังไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ซึ่งหากให้ต่างชาติเข้าซื้อที่ดินได้
ก็จะยิ่งทำให้คนไทยหมดโอกาสที่จะเป็นเจ้าของที่ดินมากขึ้น ทั้งนี้จะคิดเหมือนประเทศสหรัฐไม่ได้ เพราะรายได้ต่อหัวของประชากรสหรัฐสูงกว่ารายได้ต่อหัวของประชากรไทยมาก อย่างไรก็ดี ยังเห็นด้วยและควรส่งเสริมให้คนต่างชาติซื้อคอนโดได้ในสัดส่วน 49% ซึ่งก็สามารถมาอยู่ในประเทศไทยอย่างสะดวกได้อยู่แล้ว
ในขณะที่นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ระบุว่า รัฐบาลต้องการให้ต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อดึงดูดต่างชาติลงทุนให้ได้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลกร้ายสำหรับคนไทย ถ้าแลกกับให้ถือครองที่ดินคนละไม่เกิน 1 ไร่ เป้าหมายของรัฐบาล 5 ปีคือ 1 ล้านคน เท่ากับ 1 ล้านไร่ แล้วคนไทยจะไปอยู่ที่ไหน คนส่วนใหญ่พลัดที่นาคาที่อยู่
เช่าที่ดินทำการเกษตร เช่าห้องพักในเมืองใหญ่ ไม่มีที่ดินสักตารางวา แต่พล.อ.ประยุทธ์ มีนโยบายจะประเคนให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ได้ตลอดไป ประเทศไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ไม่พอ แต่นี่ถึงกับต้องขายชาติ ขายแผ่นดิน แลกกับเม็ดเงินลงทุนที่เป็นมายา
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตามข้อเท็จจริง ต้องยอมรับว่าปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยนั้นเริ่มที่จะชะลอตัวลง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในเรื่องของเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม การเปิดช่องให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองที่ดินได้ มองในมุมหนึ่งก็อาจจะช่วยให้มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น แต่ในแง่ของผลกระทบนั้นก็อาจจะมีมากจนต้องคิดให้ดี
กล่าวคือ ที่ผ่านมาชาวต่างชาตินั้นสามารถซื้อคอนโดได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% ของจำนวนยูนิตในโครงการแต่ละโครงการอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลให้โครงการห้องชุดคอนโดจำนวนมากถูกสร้างขึ้นจนล้นตลาด และยังมีคอนโดที่รอขายอีกเป็นจำนวนมาก แต่ราคาคอนโดนั้นกลับสูงเกินความเป็นจริง โดยปกติแล้วราคาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์นั้นควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจ ถดถอยราคาของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ก็ควรจะลดลง
แต่กลไกที่สามารถเก็งกำไรที่ดินได้จากเม็ดเงินลงทุนของชาวต่างชาติ นั้นทำให้กลไกราคาของอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่เป็นไปตามกลไกตลาดของสภาพเศรษฐกิจ เป็นเหตุให้ราคาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในหลายพื้นที่มีราคาที่สูงเกินจริง สูงเกินกว่าที่คนไทยโดยเฉลี่ยจะสามารถซื้อได้
หากมีการเปิดช่องให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินได้โดยตรงไม่เกิน 1 ไร่ ก็จะยิ่งเป็นการเปิดช่องให้ราคาที่ดินของประเทศมีราคาที่พุ่งสูงขึ้น และไม่เป็นไปตามกลไกตลาดปกติ แน่นอนว่าเงินลงทุนอาจจะเข้ามาในประเทศมากขึ้น เจ้าของที่ดินซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มีสถานะทางการเงินดีย่อมได้รับผลประโยชน์ แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ยังไม่มีที่ดินหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอาจจะได้รับผลกระทบมากขึ้น คำถามคือมันคุ้มหรือไม่???
โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ 
ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน
ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา