21 ก.ค. 2022 เวลา 07:56 • คริปโทเคอร์เรนซี
Zipmex ปัญหาที่เกิดจากการปล่อยกู้ในโลกคริปโต
ในช่วง 2 วันมานี้ ปัญหาการระงับการเทรด และเบิกถอนเงินของ Zipmex กระดานเทรดชื่อดังของไทยตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการคริปโตไทยไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อมาในเวลา 20.00 น. ของวันเดียวกัน Zipmex ได้กลับมาเปิดการเทรดและถอนเหรียญได้ตามปกติ ยกเว้นในส่วนของ Z-Wallet ที่ยังมีปัญหา
ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ live สดชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า
“จากกรณีที่ Zipmex ระงับการถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัล ผมขออนุญาตชี้แจงว่า ตอนนี้บริษัทประสบปัญหากับตัวผลิตภัณฑ์ ZipUp+ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ที่สิงคโปร์ โดยที่คู่ค้าของ Zipmex Global ประสบปัญหาสภาพคล่อง และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน ZipUp+ อย่างเดียว
ปัญหาสภาพคล่องนั้นเกิดขึ้น กับ Babel Finance และ Celcius ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ “Bitcoin” (BTC) , “Ethereum” (ETH) , USDT และ USDC มีปัญหาอยู่
แต่สินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่อยู่ใน Trade wallet ไม่มีปัญหา ลูกค้ายังฝากยังถอนได้ตามปกติ เทรดได้ทุกอย่างเหมือนเดิม”
โดย ดร.เอกลาภ ยืนยันว่า จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าใน Zipup+ กลับคืนมาให้ได้หมด แม้ว่าจะเป็นการขายบริษัท หรือเป็นการได้เงินกลับมา หรือฟ้องทางคดีความได้เงินกลับมา ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินของลูกค้าต้องมาก่อน
อย่างไรก็ตามหลังจากมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องจนต้องระงับการเทรดและถอนเหรียญ ราคาของเหรียญ ZMT ของ Zipmex ก็ดิ่งเหวแทบจะทันที จนในรอบ 24 ชั่วโมงราคาของเหรียญ ZMT หายไปมากถึงกว่า 40% มาอยู่ที่ราคา 0.33 เหรียญฯ ในขณะที่มูลค่าการตลาดรวมของ ZMT หายไปประมาณ 40% เช่นกัน แสดงให้เห็นถึงการแห่เทขายเหรียญเนื่องจากปัญหาความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างชัดเจน
ย้อนกลับมาที่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Zipmex ต้องยอมรับว่าการลงทุนในโลกคริปโตนั้นแม้ว่าจะมีกำไรที่สูง แต่ก็มีความผันผวนเป็นอย่างมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่วงการนี้อยู่แล้ว แต่ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ระบบ Defi หรือ Decentralized Finance ที่เกิดขึ้นและเติบโตอย่างมากในโลกคริปโต ดูจะไม่ได้มีแค่ผลดี แต่การที่กระดานเทรด กองทุนต่างๆ ใช้วิธีการปล่อยกู้ เพิ่ม leverage ในการทำกำไรดูจะกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดคริปโต ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงหรือตลาดหมีมากขึ้น
เพราะต้องไม่ลืมว่าระบบ Decentralize ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคริปโตและ BlockChain นั้นการปล่อยกู้นั้นมีความแตกต่างจากระบบธนาคารที่มีกลไกทางกฎหมายและรัฐคุ้มครอง จริงอยู่ในเวลาปกตินั้นการปล่อยกู้ในโลกคริปโตสามารถสร้างผลกำไรจากดอกเบี้ยได้อย่างมหาศาล แต่หากเกิดปัญหาเรื่องความผันผวนทางราคา หรือการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งในรูปแบบบุคคลหรือบริษัท กองทุนในโลกคริปโต ปัญหาด้านการดำเนินคดีทางกฎหมายยังคงเป็นปัญหาใหญ่
ในขณะที่สภาพคล่องนั้นจะเป็นปัญหาแรกที่เกิดขึ้น และสุดท้ายบริษัทที่ขาดสภาพคล่องก็ต้องระงับการเบิกถอนเงิน หรือล้มหายไป ตัวอย่างเรื่องนี้ก็มีให้เห็นหลายกรณี เช่น Terra กับเหรียญ UST และ LUNA, Three Arrows Capitals และ Celcius เป็นต้น
ที่น่ากลัวคือ เรายังไม่รู้ว่าการปล่อยกู้ในโลกคริปโตที่เกิดปัญหานั้นมีอีกมากแค่ไหน และอะไรที่จะระเบิดออกมาอีกบ้าง
โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ 
ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน
ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา