26 ก.ค. 2022 เวลา 11:45 • ข่าวรอบโลก
Expo 2028 - Phuket, Thailand
ทุกคนทราบไหมครับว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังพยายาม bidding เป็นเจ้าภาพงานใหญ่ที่รู้จักกันในนาม Expo ที่ภูเก็ตในปี 2028 หรือ 2571 โดยการเข้าไปแข่งขันครั้งนี้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญแล้วโดยในช่วงที่ผ่านมาคือ 25 จนถึง 27 กค จะมีคณะกรรมการ Expo เข้ามาในประเทศไทยเพื่อเยี่ยมชมความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo แต่ไม่ใช่ World Expo ที่เรารู้จักและได้ยินบ่อยๆนะครับ แต่เป็นงานที่เรียกชื่อว่า Specialized Expo 2028
ทั้งนี้ทีมงานนี้จะเยี่ยมเยียนทั้งที่กรุงเทพฯ และ ลงพื้นที่จัดงานที่ภูเก็ตในระหว่าง 3 วัน 2 คืนในไทย โดยมีกำหนดการพบนายกและคณะเพื่อหารือรายละเอียดต่างๆ การสมัครครั้งนี้ ไม่ใช้แค่ประเทศไทยแต่มีอีก 4 ชาติคือ อเมริกา สเปน อาเจนติน่า และเซอร์เบียเข้าแข่งขัน
ตัวแทน 5 ชาติกับเมืองที่เข้าประกวดเพื่อจัดงานในปี 2027/2028 เป็นเวลา 3 เดือน
ทีมงานไทยแลนด์ที่ช่วยกันพลักดันให้เกิดขึ้นในปี2027/2028 นี้
เปิดตัวเป็นผู้เข้าร่วมประกวดเป็นทางการวันที่ 20 มิย 65
บรรยากาศงานเลี้ยงตอนรับทีมงาน Bureau International des Expositions (BIE) โดย TCEB ในโอกาสมาดูสถานที่วันที่ 25 กค ที่ผ่านมา
อะไรคืองาน Expo และ Specialized Expo มันต่างกันยังไง ผมขอให้ข้อมูลคร่าวๆเพื่อให้เราได้รู้จักงานนี้กันมากขึ้นดังนี้
งาน Expo หรือชื่อเต็มคือ Exposition จัดกันมาแล้วทั้งหมด 170 ปีจากงาน Expo ครั้งที่แรกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษจนถึงวันนี้ เพื่อจัดให้แต่ละชาตินำเสนอผลงานต่างๆ เทคโนโลยีที่ทันสมัยในช่วง 170 ปีที่แล้วที่เราเรียกว่าอุตสาหกรรมใหม่ที่ผ่านช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมมาโชว์กัน หรือเรียกง่ายๆ มาแข่งขันหาลูกค้ากันนั้นเอง และยังแบ่งปันความรู้ให้ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดแนวคิดใหม่ๆด้วย
งาน World Expo ที่เคยจัดมาทั่วโลก เป็นเวลา 170 ปี
Specialized Expo คืออะไรปกติได้ยินแต่ World Expo
เจ้านี้มีชื่อทางการคือ International Recognised Exhibitions มีขนาดงานเล็กกว่า World Expo โดยใช้เนื้อที่ไม่เกิน 25 Hectars หรือ 156 ไร่ ระยะเวลาจัดงาน 3 เดือนในขณะที่ World Expo 2020 Dubai ใช้เนื้อที่ถึง 438 Hectares หรือ 2,737 ไร่ เรียกว่าคนละขนาดเลยที่เดียว ระยะเวลาจัดงาน 6 เดือน
งาน Specialized Expo ที่เคยจัดมาทั่วโลก
มีแถมอีกงานคือ Horticultural Expo (งานมหกรรมพืชสวนโลก) ที่มีเนื้อหางานเข้ากับไทยมา เพราะเราคือประเทศเกษตรกรรม เพราะงานนี้จะเน้นการส่งเสริมเพื่อแบ่งปันความรู้และค้นหาแนวทางแก้ไขระหว่างผู้ผลิตพืชสวน และอุตสาหกรรมการเกษตร โดยมุ่งไปยังประเด็นสำคัญเรื่อง การศึกษา และนวัตกรรม เพื่อวิถีชีวิตแห่งสุขภาพดี เศรษฐกิจสีเขียว การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน โดยจัดที่เชียงใหม่มาแล้วชื่องานInternational Horticultural Exposition Royal Flora Ratchaphruek ในปี 2006 อยากมห้กลับมาอีกแต่ต้องรอคิวอีกยาว
ยังจำงานนี้ได้ไหมครับ
ควาทสำเร็จของ World Expo ได้นำนวัตกรรมใหม่ๆมาให้เรา ผมขอคัด 5 สิ่งมาแบ่งกันครับ
1. หอไอเฟล เปิดในงาน World Expoเมื่อปี 1889 ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งมีการเปิดตัว “หอไอเฟล” อันเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อ “กุสตาฟ ไอเฟล”เดิมนั้น หอไอเฟล ความสูง 324 เมตร ถูกสร้างเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวชั่วคราว แต่ปัจจุบันกลายเป็นจุดท่องเที่ยวอย่างถาวรในกรุงปารีส และสัญลักษณ์ประจำฝรั่งเศสที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ หอไอเฟลยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนกระทั่งในปี 1929 สัญลักษณ์แห่งปารีสเสียแชมป์ให้กับตึก “เบิร์จ คาลิฟา” ในดูไบ ซึ่งมีความสูงถึง 828 เมตร
2. โทรศัพท์ ที่ถูกพัฒนาจนไร้สายมีประวัติความเป็นมาของเชื่อมโยงกับงาน World Expo หลังจากโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกที่ประดิษฐ์โดย อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ เปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกที่งาน Expo ในเมืองฟิลาเดลเฟียของสหรัฐในปี 1876เกือบ 100 ปีต่อมา งาน World Expo ในโอซากาของญี่ปุ่นเมื่อปี 1970 ก็เปิดตัวโทรศัพท์ไร้สายตัวต้นแบบจนเทคโนโลยีเดียวกันนี้ก็ถูกต่อยอดเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลก
หน้าตาโทรศัพท์เครื่องแรกในงาน World Expo
3. ซอสมะเขือเทศ “ไฮนซ์” (Heinz) บริษัทอเมริกันเริ่มผลิตซอสมะเขือเทศในปี 1876 และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอสมะเขือเทศต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในปีเดียวกันที่งาน Expo ในฟิลาเดลเฟีย ภายใต้ชื่อ “Catsup” (แคทซัพ) แต่ ซอสมะเขือเทศมาได้รับความนิยมมากในงาน Expo ปี 1893 ที่ชิคาโก เพราะมีการแจกซองซอสมะเขือเทศตัวอย่างคู่กับอาหารชิ้นเล็กๆ ให้ผู้ร่วมงานลองชิมฟรี ผลปรากฏว่าเมื่อจบงานมียอดแจกซองซอสมะเขือเทศภายในงานมากกว่า 1 ล้านซอง
4. ชิงช้าสวรรค์ กำเนิดในงาน World Expo ที่ชิคาโกปี 1893 เป็นครั้งแรก ชิงช้าสวรรค์เครื่องแรกของโลกซึ่งออกแบบโดย “จอร์จ วอชิงตัน เกล เฟอร์ริส” วิศวกรโยธาชาวอเมริกัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแข่งกับหอไอเฟลในฝรั่งเศส ชิงช้าสวรรค์ยักษ์นี้ซึ่งมีความสูงถึง 80 เมตร ประกอบด้วย 36 กระเช้า แต่ละกระเช้าบรรจุคนได้มากถึง 60 คน ทำให้รองรับคนได้สูงสุด 2,160 คนต่อ 1 รอบที่กินระยะเวลา 20 นาที
จนกระทั่ง ชิงช้าสรรค์ดังกล่าวเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในสหรัฐในปี 1893 ที่มีงาน Expo และกลายเป็นตัวบุกเบิกของสวนสนุกต่าง ๆ เช่น ดิสนีย์แลนด์ อย่างไรก็ตาม เมื่อจบงานปีนั้นแล้ว ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ก็ถูกรื้อถอน และได้กลับมาเปิดให้คนนั่งอีกครั้งในงาน World Expo ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีเมื่อปี 1904 ก่อนจะถูกรื้อถอนและขายทิ้งเป็นเศษเหล็กใน 2 ปีต่อมาปิดตำนานแต่สร้างตำนานใหม่เป็นเครื่องเล่นที่ต้องมีและได้รับความนิยมถึงวันนี้
5. เครื่องเอกซเรย์ ที่ปัจจุบันเป็นอุปกรณ์ตรวจมาตรฐานในโรงพยาบาลและสนามบินทั่วโลก ถูกเผยโฉมต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในงาน World Expo ที่เมืองเซนต์หลุยส์ เมื่อปี 1904 โดยวิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันค้นพบรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นขนาดโดยบังเอิญในปี 1895 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์เป็นคนแรกของโลกในปี 1901 หลังจากนั้น เทคโนโลยีดังกล่าวซึ่งเป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่า “รังสีเอกซ์” ก็ถูกพัฒนาต่อในสหรัฐ และมีบริษัทต่าง ๆ ผลิตเครื่องเอกซเรย์ภายในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
เป็นยังไงครับกลับ 5 สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าเปลี่ยนยุคสมัยไปกับงาน World Expo เลย
ผมขอเอาใจช่วยให้เราชนะคู่แข่งอีก 4 ประเทศ และได้เป็นเจ้าภาพงานนี้ครับ เพราะความสำคัญของงาน Expo มีมากกว่านวัตกรรมใหม่ๆแต่หมายถึงการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับประเทศไทย ไม่ใช่แค่เพียงภูเก็ตเมืองเดียว
สู้ๆครับทีมไทยแลนด์
โฆษณา