30 ก.ค. 2022 เวลา 00:47 • ธุรกิจ
🧑‍✈️สำหรับรายย่อยอย่างเราๆความจริงที่ต้องรับรู้ในโลกการลงทุนเพื่อรับมือในภาวะขาดทุนตื่นกลัว😱
💻จากกรณีของเวบเทรดคริปโตที่ชื่อว่า zipmex ได้หยุดการให้บริการเบิกถอนสินทรัพย์ออกจากเวบ อันเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดจากบริษัทคู่ค้ากำลังจะล่มละลาย
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราเกิดประสบการณ์ว่า ทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง มีได้ก็มีเสีย คำถามต่อมาแล้วเราจะรับมือสถานการณ์นี้อย่างไร
สิ่งที่แน่นอน เมื่อทุกคนได้รับข่าวนี้ หลายคนก็อยากหนีตาย เเพนิกเทขายสินทรัพย์ออกมาโดยไม่สนใจมูลค่ามากน้อยเพียงใด แล้วกลัวไม่กล้าเข้าสู่ตลาดอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนนักลงทุนที่มีประสบการณ์ก็ตั้งสติ ค่อยๆทยอยโอนออก หรือตั้งราคาขายออก ไม่ใช้ขายตามราคาตลาด รอให้เหตุการณ์สงบ จึงเข้ามาซื้อใหม่อีกครั้ง
ความจริงในทุกการลงทุน จะมีเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น คือ ช่วงทำกำไร ช่วงรักษาต้นทุนกำไร ช่วงขาดทุน และช่วงล้มละลาย ช่วงทำกำไรและช่วงรักษาต้นทุนกำไร ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี แต่เมื่อใดก็ตามเข้าสู่ช่วงขาดทุน และก่อนล้มละลายล่ะก็ ถือว่า เป็นเวลาแห่งการตั้งสติก่ำกึ่งกับการตื่นกลัว แล้วเราจะรับมือมันอย่างไร แอดจะมาบอกเล่าความจริงให้ฟัง
อันดับแรกควรให้โอกาสกิจการที่ลงทุนหาแนวทางแก้ไข นักลงทุนรายย่อยอย่างเรา ก็เพียงพิจารณาว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่กิจการจะกลับมาเหมือนเดิม โดยดูจากแนวทางและความมุ่งมั่นของผู้บริหารกิจการ พัฒนาการแก้ไขปัญหาไปในแต่ละวัน สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้ามีแนวทางที่ดีเป็นไปได้ และมีพัฒนาการไปในแต่ละวัน ดังเช่น ค่อยๆคืนต้นทุนให้รายย่อยที่ลงทุนมูลค่าน้อยก่อน แล้วค่อยคืนทุนให้รายใหญ่ถัดไป จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ เราก็แค่รอต่อไป แบบนี้ทั้งรายย่อยและรายใหญ่มีโอกาสได้ทุนคืน ใช้เวลาไม่นาน ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็คงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีกัน
การแจ้งความดำเนินคดี ไม่มีนักลงทุนคนใดอยากให้เกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดขึ้นแล้ว ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากยืดยาว ใช้เวลานาน มีค่าใช้จ่าย สุดท้ายแล้วมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้กลับคืนมาถือว่า น้อยนิดมากหรือบางคนแทบไม่ได้เลยก็มี นักลงทุนรายย่อยไม่คุ้มค่ากับการติดตามทวงถามนานหลายปี ควรปล่อยให้รายใหญ่ดำเนินคดีไป ส่วนใหญ่คดีจะสิ้นสุดขั้นต่ำ 5 ปีขึ้นไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ นักลงทุนรายย่อยจึงต้องทำใจ หากเกิดคดีความต้องยอมรับความสูญเสียเงินที่ลงทุนไป แล้วเริ่มมองหาการลงทุนใหม่ๆหรือหางานเสริมรายได้ดีกว่าจะไปจดจ่ออยู่กับความคืบหน้าของคดีความ
นี้คือความโหดร้ายของการลงทุน เป็นสาเหตุหนึ่งที่กูรูหลายท่านเคยบอกไว้ว่า ให้กระจายความเสี่ยง อย่าลงทุน 1 สินทรัพย์ให้ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อป้องกันเราจากการสูญเสีย ให้น้อยที่สุด และที่สำคัญอย่านำเงินกู้มาใช้เพื่อการลงทุนให้กิจการอื่นเด็ดขาด พยายามใช้เงินเก็บที่มีอยู่หรือเงินที่เราสามารถสูญเสียได้โดยที่เราไม่เดือดร้อน
หวังว่า ทุกคนคงมีแนวทางของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ที่สำคัญคือมีสติ ไม่ด่าว่า ไม่ต้องขู่ฆ่า ระราน ก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวและครอบครัวของเจ้าของกิจการกันนะครับ แอดเองถือว่า ชาติที่แล้วเราคงเอาของเขามา ชาตินี้เลยต้องจ่ายคืนให้เขาไป แล้วพบกันกับการลงทุนใหม่ๆครับ
โฆษณา