30 ก.ค. 2022 เวลา 13:34 • ข่าว
#MBS-มาครง มหามิตรผิดฝา
#สิทธิมนุษยชนที่ต่อรองกันได้
ไฮไลท์ข่าวของวันนี้ เจ้าชาย โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งซาอุดิอารเบีย หรือท่าน MbS ของเราได้เดินทางมาพบ เอมานูเอล
มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ถึงปารีส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทริปเยือน EU ของ MbS และนับเป็นการเยือนฝรั่งเศสครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องการฆาตกรรมนักข่าว Jamal Khashoggi กลางสถานฑูตซาอุดิอารเบีย ในอิสตันบูลเมื่อปี 2018 เป็นต้นมา
1
ซึ่งการมาเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ มีเรื่องให้คุยมากมาย แต่ประเด็นหลักคือ "การรักษาเสถียรภาพด้านพลังงาน" หรือถ้าให้พูดตรงๆก็คือ มาครงต้องการขอร้องให้ฝ่ายซาอุดิอารเบียเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันมากขึ้น เพราะยุโรปกำลังจะเข้าสู่หน้าหนาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และ บริษัท Gazprom ของรัสเซียก็เตรียมปิดท่อก๊าซ ไม่ส่งน้ำมันมาให้แล้ว เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของ EU ต่อกรณีข้อพิพาท รัสเซีย-ยูเครน
ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เคยเรียกร้องให้ซาอุดิอารเบียเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งล่าสุด ปู่โจ ต้องหอบสังขารขี่ Air Force One ไปหาท่าน MbS ถึงริยาดเพื่อมาพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ทางซาอุดิอารเบียยังไม่ตอบรับอย่างเต็มปาก เต็มคำนัก แถมยังวงแตกเมื่อมีการพูดถึงคดี Khashoggi กลางโต๊ะประชุม
มาคราวนี้ เป็นท่านมาการ็องหวานกรอบ แห่งฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อเรื่องวาทศิลป์เป็นเลิศมาพูดเอง จนเชื่อว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ในเร็วๆนี้🙂
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการคุยกันเรื่องการร่วมมือพัฒนาพลังงานทางเลือก จากแสงอาทิตย์ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนข้าวสาลี และอาหาร ที่เกิดจากผลกระทบจากสงครามในยูเครน ความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค ฯลฯ
พอมีการเปิด Agenda ออกมาก่อนการประชุม ฝ่ายค้านของฝรั่งเศส และนักสิทธิมนุษยชนก็ลุกขึ้นยืนสวดให้พ่อมาการ็องโดยพร้อมเพรียงกันว่า ท่านมาครงจะคุยกันแค่ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้ MbS ยานพ่อมาทั้งที เราต้องจี้ให้สุด แล้วหยุดที่คดีฆาตกรรมนักข่าว Washington Post กระชากหน้ากากผู้บงการเบื้องหลังออกมาให้ได้
1
หากเป็นในยามปกติ เรื่องจิกด่า เราไว้ใจพ่อมาการ็องได้ แต่ไม่ใช่กับกรณีนี้ ที่มีปัญหา และ ผลประโยชน์หลากหลายมิติที่ต้องนำมากองไว้บนโต๊ะเจรจา ดังนั้นประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยขนถูกยกขึ้นมาคุยกันจริง แต่ก็คุยกันแบบ กว้างๆ เบาๆ พอเป็นพิธีว่าคุยแล้วนะเฮ้ย เดี๋ยวหาว่าเพิกเฉย
1
ด้านสื่อฝรั่งเศสเคยตั้งข้อสังเกตว่า ระหว่าง MbS กับ มาครง ถือว่าเป็น 2 ผู้นำที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ไม่เคยหวั่นไหวแม้มีดราม่าใดๆ และยิ่งในช่วงที่พันธมิตรเก่าอย่างสหรัฐมาตีตนห่างเหิน ในช่วงที่โจ ไบเดน เข้ามาครองทำเนียบขาว ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสกลับยิ่งแนบแน่นขึ้นไปอีก
2
แม้แต่ช่วงที่เกิดคดีของ Khashoggi ใหม่ๆ ในปี 2018 ที่หลายชาติออกมาประนามซาอุฯ กันแบบคนล้ม ต้องกระทืบซ้ำรัวๆ แต่เอมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสก็ยังจัดคิวไปเยี่ยมเยือนท่าน MbS ถึงในวังที่เมืองเจดดาห์ พร้อมนักธุรกิจชั้นนำจากฝรั่งเศสไปอีกร่วมร้อย เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจให้กับฝรั่งเศส สมฉายาผู้นำนักขายมือทอง ขายได้ทุกที่ ทุกเวลาแม้ยามวิกฤติ
1
เช่นเดียวกับหมายกำหนดการเยือนฝรั่งเศสของท่าน MbS ในวันนี้ ที่ทำให้มาครงต้องรีบบึ่งกลับจากทริปเยือนประเทศในอาฟริกาตะวันตก กลับปารีสเพื่อเปิดทำเนียบ ปาแลเดอเลลีเซ ต้อนรับ MbS ถึงหน้าประตูโดยเฉพาะ และมาครงยังเป็นผู้นำประเทศระดับเสาหลักของ EU คนแรกที่เปิดบ้านต้อนรับ MbS อย่างอบอุ่นหลังจากที่เกิดคดี Khashoggi เป็นต้นมา
1
แต่ก็ยังมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวในฝรั่งเศสจำนวนไม่น้อยต่อต้านการเยือนของมกุฏราชกุมาร MbS และยังได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสสนับสนุนการดำเนินคดีกับ MbS ในข้อหาบงการฆ่านักข่าวชาวซาอุฯ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ซึ่งประเด็นเหล่านี้ Fatima Abo Alasrar นักวิชาการการเมืองในตะวันออกกลางได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านสื่อฝรั่งเศสว่า ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในทิศทางการเคลื่อนไหว
และหากมองกันในเชิงการเมืองระหว่างประเทศ เราก็จะเห็นความ 2 มาตรฐาน แบ่งพวกพ้องกันมาตลอด และทำให้ประเด็นเหล่านี้ถูกลดทอนความสำคัญลงเสมอ
เพราะทุกวันนี้เราเห็นสื่อ และรัฐบาลยังให้น้ำหนักในคดีสิทธิมนุษยชนไม่เท่ากันเลย อย่างกรณีที่เกิดขึ้นในจีน และ รัสเซีย ที่มีการร้องเรียนอย่างเข้มข้น แต่กลับละเว้นสิ่งที่สหรัฐทำกับนักโทษการเมืองในอ่าวกวนตานาโม หรือปฏิบัติการทางทหารของประเทศตะวันออกกลางในเยเมน ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงประเด็นของซาอุดิอารเบีย ที่กลับมามีบทบาทสำคัญหลังเหตุรัสเซียรุกรานยูเครน
1
วันนี้จึงเรียกว่าเป็นชัยชนะอีกก้าวหนึ่งของ MbS ที่สามารถกลับสู่เวทีการเมืองระดับโลกได้ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นบวก และผู้นำในยุโรปก็พร้อมใจกันมองข้ามคดีเก่าๆที่แล้วมา รวมถึงผู้นำฝรั่งเศส ในวันนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นมหามิตรเพื่อนรัก ที่เตรียมดินเนอร์หรูไว้ต้อนรับอย่างอบอุ่น
พอเสร็จจากดินเนอร์แล้ว ท่าน MbS ก็ไปพักผ่อนต่อที่ Louis XIV Chateau คฤหาสถ์หรูส่วนตัวในฝรั่งเศส ที่เจียดเงินรองขาตู้เย็นที่บ้านมาซื้อทิ้งไว้ซึ่งมูลค่ามากกว่า 300 ล้านเหรียญและได้ชื่อว่าเป็นบ้านที่แพงที่สุดในโลก และออกแบบก่อสร้างโดย Emad Khashoggi ผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของ Jamal Khashoggi ผู้ล่วงลับ
1
โลกเรามักมีความลักลั่นย้อนแย้งเช่นนี้เสมอ แม้เงินจะไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่ถ้ามีมากพอ การต่อรองสามารถคุยกันได้เสมอ🙃
4
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
1
แหล่งข้อมูล
โฆษณา