1 ส.ค. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
"ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation)" นวัตกรรมประหยัดน้ำ ที่ช่วยสร้างมั่นคงทางอาหารให้ประเทศอิสราเอล
1
ภาวะข้าวยากหมากแพงและการขาดแคลนของอาหารที่เกิดขึ้นในขณะนี้
เป็นปัญหาทุกข์ใจสำหรับประชาชนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ประชาชนในกลุ่มประเทศที่มีความแห้งแล้ง ที่ปลูกพืชพันธ์ธัญญาหารได้ยากลำบาก
1
อย่างไรก็ดี มีอยู่หนึ่งประเทศที่มีภูมิประเทศแห้งแล้งและรายล้อมไปด้วยทะเลทราย แต่กลับมีความสามารถในการผลิตพืชพันทางการเกษตรจำนวนมาก จนได้รับผลกระทบจากความขาดแคลนในตอนนี้น้อยกว่าหลายประเทศ
ประเทศนั้น คือ “อิสราเอล”
ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความมั่นคงทางพืชพันธุ์และอาหารมากกว่าประเทศสภาพภูมิศาสตร์แห้งแล้งอื่น
มาจากการจัดการบริหารน้ำ และนวัตกรรมล้ำยุคมากมาย จนทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอในการบริโภคและเกษตรกรรมได้
ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา ที่มีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำ และสร้างมูลค่าเป็นสินค้าส่งออกให้กับประเทศอย่างที่หลายคนนึกไม่ถึง ก็คือ “ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation)”
📌 กรณีศึกษาสำคัญของโลก
ต้องบอกว่า กรณีาการจัดการน้ำของประเทศอิสราเอล เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
เหตุเพราะว่า ประเทศอิสราเอลเป็นประเทศที่มีพื้นที่ของทะเลทรายถึง 60% ของประเทศ และก็มีแหล่งน้ำที่ใช้ได้อยู่อย่างไม่ครอบคลุม
ทำให้อิสราเอลเป็นประเทศที่มีสถานการณ์การใช้น้ำตึงเครียดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และในอดีตก็เผชิญกับภาวะภัยแล้งเสมอ ซึ่งมันรุนแรงจนถึงขั้นต้องมีการปันส่วนและบังคับลดการใช้น้ำในบางภาคส่วนทีเดียว
ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลให้ความสำคัญอันดับต้นมาตลอด ทั้งยังพยายามแก้ไขและปรับปรุงเรื่อยมาในช่วงเวลาหลายสิบปี ตั้งแต่ประมาณค.ศ. 1960 มาจนถึงปัจจุบัน
โครงการสำคัญที่เกิดขึ้น เช่น การสร้างท่อน้ำส่งต่อมาจากแม่น้ำจอร์แดนไปทั่วประเทศ การแปลงน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืด การออกกฎหมายเพื่อเก็บค่าใช้น้ำ “ตามต้นทุนในการผลิตจริง” สำหรับทุกคน และการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเกษตร เป็นต้น
📌 นวัตกรรม “ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation)”
ด้วยสถานการณ์ทางน้ำที่ยากลำบาก และการส่งเสริมด้านนวัตกรรมจากภาครัฐ ทำให้อิสราเอลเป็นประเทศแห่ง startup ทางด้านการเกษตรที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
มีนวัตกรรมและเครื่องมือมากมายที่ถูกออกแบบขึ้นมา เพื่อเอื้อให้ประเทศสามารถปลูกผลผลิตการเกษตรได้อย่างเพียงพอ
นวัตกรรมชื่อดังอย่างหนึ่งของอิสราเอล คือ “ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation)” สมัยใหม่ ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการให้น้ำกับพืชพันธุ์
ผ่านไปทางท่อและปล่อยออกมาเป็นหยดน้ำเล็กๆ ทีละหยด ไปสู่รากของต้นโดยตรง ทำให้ไม่มีหรือแทบไม่มีการสูญเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์เลย
ซึ่งระบบหยดน้ำถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยคุณ “Simcha Blass” และลูกชายของเขาในปี 1959 และก็ได้มาจับกับ Kibbutz Hatzerim เพื่อสร้างบริษัทที่ชื่อว่า “Netafim” ในปี 1964
ต้องเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าคุณ Blass มีความพยายามในการสร้างระบบให้น้ำผ่านท่อรูเล็กๆ มาก่อนหลายครั้ง แต่ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาที่มักจะมีเศษหินหรือดินมาติดที่รูได้
ทำให้ระบบหยดน้ำโดยบริษัทอิสราเอลนี้ เป็นระบบหยดน้ำอันแรกที่สามารถใช้งานได้จริง
ซึ่งบริษัทก็ต่อยอดจากนวัตกรรมนี้ สร้างเทคโนโลยีทางด้านการจัดการน้ำและการเพาะปลูกอื่นอีก จนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางด้านชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยหากนับแค่ส่วนของระบบหยดน้ำอย่างเดียว พวกเขาครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด กว่า 30% ของโลก
และในปี 2018 บริษัทก็ถูกบริษัท Mexichem เข้าซื้อไปกว่า 80% ด้วยมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
2
โดยจากข้อมูลล่าสุดในปี 2019 บริษัทที่เติบโตขึ้นมาจากความเจ็บปวดและยากลำบากในการจัดการน้ำของอิสราเอลแห่งนี้
สามารถสร้างรายได้ได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว
และก็จ้างงานพนักงานเกือบ 5,000 คนทั่วโลก
แต่ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่ารายได้และชื่อเสียง คือ ความสำเร็จในการเป็นส่วนช่วยสร้างความมั่นคงทางน้ำและอาหารให้กับอิสราเอลเอง
จากการที่เทคโนโลยีระบบหยดน้ำช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ในช่วงเวลาเกิดยุคข้าวยากหมากแพง หลายประเทศขาดแคลนอาหารแบบนี้ อิสราเอลจึงยังมีเสถียรภาพมากกว่าหลายคน...
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
#APEC2022COMMUNICATIONPARTNER
โฆษณา