2 ส.ค. 2022 เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก
โลกร้อน-ภัยแล้ง ฆ่าชีวิตช้างในเคนยามากกว่าขบวนการลักลอบล่าสัตว์ 20 เท่า
การลักลอบล่างาช้างอย่างผิดกฎหมายเคยเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อช้างในประเทศเคนยา
แต่ตอนนี้ยักษ์ใหญ่แห่งอาณาจักรสัตว์กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่อันตรายยิ่งกว่า นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่ประชาชนในเคนยากำลังต่อสู้กับความแห้งแล้งครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสี่ทศวรรษ
วิกฤตดังกล่าวทำให้ช้างเสียชีวิตมากกว่าการลักลอบล่าสัตว์ถึง 20 เท่า
พวกเขาอ้างถึงซากศพที่ถูกผึ่งให้แห้งที่พบในอุทยานแห่งชาติซาโว
เพื่อความอยู่รอด ช้างต้องการพื้นที่กว้างใหญ่ในการหาอาหาร
ผู้ใหญ่สามารถกินอาหาร 300 ปอนด์และน้ำมากกว่า 50 แกลลอนต่อวัน
แต่แม่น้ำ ดิน และทุ่งหญ้าแห้งแล้ง ส่งผลให้เกิดสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและเป็นอันตรายถึงชีวิต
ในปีที่แล้ว ช้างอย่างน้อย 179 ตัวตายจากความกระหาย
ในขณะที่การลักลอบล่าสัตว์ได้คร่าชีวิตผู้คนไปไม่ถึง 10 ตัว
นาจิบ บาลาลา รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและสัตว์ป่าของเคนยากล่าวกับบีบีซี “มันเป็นสัญญาณเตือนสีแดง”
บาลาลา อธิบายว่าทางการได้ใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกและลักลอบล่าสัตว์ โดยละเลยเหตุการณ์ทางธรรมชาติ
“เราลืมลงทุนในการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ” เขากล่าว “เราได้ลงทุนในการค้าสัตว์ป่าและการลักลอบล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมายเท่านั้น”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเคนยาได้ปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ยีราฟ ที่ผู้คนล่าเอาเนื้อ กระดูก ขน และช้างที่ถูกล่าเอางา
พระราชบัญญัติการจัดการสัตว์ป่าและการอนุรักษ์ที่ได้รับการปรับปรุงและบังคับใช้ในปี 2014 ได้เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงแก่สำหรับผู้ลักลอบล่าสัตว์ พ่อค้า จนทำให้ประชากรสัตว์ป่าเริ่มฟื้นตัว
1
กระทั่งเกิดภัยแล้ง วิกฤตภัยก็กลับมาเยือนเคนยา
ไม่ใช่แค่ช้างที่กำลังจะตายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์
ปศุสัตว์เจ็ดล้านตัวในเอธิโอเปีย เคนยา และโซมาเลีย ได้ล้มตายตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ตามรายงานล่าสุดโดยเครือข่ายระบบเตือนภัยล่วงหน้าของ USAID
นอกจากนี้ ยังพบซากยีราฟ ตลอดจนสัตว์ที่เลี้ยงไว้ เช่น แพะ อูฐ และฝูงวัวในหมู่บ้านต่างๆ อดอาหารตายในตอนเหนือของเคนยา
การสูญเสียดังกล่าวได้สร้างหายนะสำหรับผู้คน นำไปสู่ความไม่มั่นคงด้านอาหาร
นอกจากสัตว์ป่าจะขาดน้ำและอาหาร ภัยแล้งยังมีผลกระทบในด้านอื่นๆ อีก
ภัยแล้งมีส่วนผลักดันให้คนเลี้ยงสัตว์นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงในทุ่งเลี้ยงสัตว์และแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้หรือในที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โรคจากปศุสัตว์อาจลุกลามไปสู่ประชากรสัตว์ป่าและทำให้เกิดการตายครั้งใหญ่ได้
สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวอย่างเช่น การระบาดของ rinderpest (morbillivirus) ในโคในช่วงกลางทศวรรษ 1980 คร่าชีวิต ‘ฮิโรลา’ (ละมั่งท้องถิ่น) ไปเป็นจำนวนมาก
การที่ผู้คนนำสัตว์ไปเลี้ยงใกล้ที่อยู่ของสัตว์ป่ายังเพิ่มความเสี่ยงให้สัตว์เลี้ยงถูกสัตว์ป่าล่าได้ง่าย
ผู้คนมักไม่พอใจ เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวเองถูกฆ่า และมักมีการแก้แค้น จนเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2565 รัฐบาลเคนยาได้กำหนดช่วงเวลาพลบค่ำเพื่อเคอร์ฟิวในบางส่วนของภูมิภาคนี้ เนื่องจากความขัดแย้งด้านการแย่งชิงทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น
ตอนน้ีทางการเคนยาและนักอนุรักษ์ได้พยายามช่วยเหลือทั้งสัตว์ป่าและสัตว์ที่คนเลี้ยงไว้อย่างเต็มที่
ทั้งการจัดหาแหล่งน้ำและอาหารมาเสริมให้กับสัตว์ทั้งสองฝั่ง
แต่ด้วยภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เป็นผลให้ราคาอาหารสัตว์ถีบตัวพุ่งขึ้นสูงมาก
ในระยะยาว ฝ่ายอนุรักษ์กำลังทำโครงการอนุรักษ์ระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ให้เชื่อมร้อยถึงกันมากขึ้น เพื่อให้สัตว์ป่าสามารถอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย และมีอาหารเพียงพอในฤดูแล้งได้
#IsLIFE #Drought #Kenya #Elephant #Extinction #ClimateCrisis
อ้างอิง
Washington Post : https://wapo.st/3zoh9Kt
The Conversation : https://bit.ly/3oMQGBu
โฆษณา