8 ส.ค. 2022 เวลา 07:05 • หนังสือ
โคตรโกง
หัวหน้าแผนกใต้ดิน
"หัวหน้าแผนกสี่ อยู่ไหม? พวกเรามาขอสัมภาษณ์เขา"
นึกไม่ถึงว่ายังจัดสถานที่ไม่เสร็จ ผู้สื่อข่าวก็มาแล้ว ทำยังไงดี?
หัวหน้าแผนกสี่ ยังไม่มา พนักงานหลายคนถึงกับหัวหมุน
"ลองโทรไปที่บ้านหัวหน้าแผนกสี่" พนักงานคนหนึ่งเสนอ รีดพริกสมุดโทรศัพท์ หมุนโทรศัพท์ไป
"ทำไมมาแต่เช้า ผมกำลังอาบน้ำอยู่" หัวหน้าแผนกสี่ ปลอกเสียงมาตามสาย "พวกนายรับมือก่อน เชิญผู้สื่อข่าวนั่ง บอกว่าผมจะไปเดี๋ยวนี้"
เพิ่งวางหูโทรศัพท์พนักงานอีกคนหนึ่งก็โทรมา บอกว่าไม่ต้องโทรไปผู้ช่วยเหอจัดการเรียบร้อยแล้ว
จริงดังที่ว่า ผู้ช่วยหอกำลังพูดคุยกับผู้สื่อข่าวทั้งหลาย
"หัวหน้าแผนกงานยุ่ง แต่ไม่เป็นไร มีปัญหาอะไรถามผมได้ งานวิจัยชิ้นนี้ผมรู้ดีที่สุด"
ผู้ช่วยหอรู้ดีจริงๆบอกกันตามตรง ขอสัมภาษณ์หัวหน้าแผนกสี่ สอบถามผู้ช่วยเหอยังดีกว่า งานวิจัยชิ้นนี้ผู้ช่วยเหอทำตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่รายชื่อผู้สื่อข่าวและเอกสารที่พิมพ์แจก ก็เป็นผู้ช่วยเหอจัดทำขึ้น
นับตั้งแต่หัวหน้าแผนกสีี มีผู้ช่วยเหอรู้สึกเบาตัวขึ้นมาก ไม่ว่าเรื่องใหญ่น้อย ผู้ช่วยเหอรับเหมาหมด แม้กระทั่งเด็กตีกันกับนักเรียนในโรงเรียน ผู้ช่วยเหอก็ออกไปไกล่เกลี่ย มิน่าผู้ช่วยเหอทำงานแค่ 2 ปี ทุกคนแอบตั้งฉายาเขาเป็น "หัวหน้าแผนกใต้ดิน"
หัวหน้าแผนกใต้ดินคนนี้บุคลิกดีจริงๆ เวลาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ ทั้ง smart และเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าบอกว่าสักวันหนึ่งได้เป็นหัวหน้าแผนก ก็ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัย
ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ผู้ช่วยเหอเสร็จ คิดกลับไปเขียนข่าว พากันกรูไปที่ประตู พอดีพบกับหัวหน้าแผนกสีี ที่วิ่งกระหึกะออกมา หัวหน้าแผนกสีี รีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
"ต้องขอโทษด้วย รถติดทำให้มาช้า"
"ไม่เป็นไร" ผู้สื่อข่าวตอบ "ผู้ช่วยเหออธิบายอย่างละเอียดแล้ว"
"ถ้างั้นก็ดี" หัวหน้าแผนกสี่ ตอบยังกระดาก มองจนกลุ่มผู้สื่อข่าวขึ้นรถไฟ ยังพูดพรึมพำ "ถ้างั้นก็ดี"
ควรที่จะขายหน้า
วันนี้ซิ่วอิงเดินนั่งเข้ามา โยนกระเป๋ามือถือลงบนโซฟา นั่งหน้าบึ้งตึง
"เป็นอะไรหรือ?" เสี่ยวหวังเดินเข้ามากระซิบถาม
"ถามตัวเองสิ" ซิ่วอิงโกรธจนหน้าแดง "วันนี้เธอทำฉันขายได้จริงๆจนฉันอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไป"
"ผมตามหัวหน้ากองพวกผมไปชมบริษัทคุณ ทำไมทำให้คุณขายหน้า?" เชื่อหวังงง "เพราะว่าผมเป็นคนโปรดของหัวหน้ากอง เขาจึงพาผมไป อีกอย่างหนึ่ง หัวหน้ากองไม่ไปชมโรงงานอื่น เจาะจงไปโรงงานพวกคุณ ไม่ใช่เพราะผมแนะนำดอกหรือ? ถ้าหากโรงงานพวกคุณทำการค้ารายนี้สำเร็จ ควรขอบใจผมและขอบใจคุณถึงจะถูก ทำไมบอกว่าทำให้คนขายหน้า?"
"ขายหน้าซี" ซิ่วอิงสะบัดหน้า "ก่อนที่คุณจะไป ฉันบอกกับเจ้าของโรงงานว่า คุณเป็นเพื่อนนักเรียนกับฉัน และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้.."
"คุณพูดไม่ผิด"
"ผิดถนัด" ซื่ออิงร้องไห้ออกมา "คุณอยู่ข้างตัวหัวหน้ากอง ทำเป็นไม่เข้าใจ คุณรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกชัดๆ สมควรให้คุณแนะนำ คุณทำไมไม่พูดยังถามหัวหน้ากอง เขารู้กับผีอะไร?"
เสี่ยวหวังหัวเราะออกมา
"เขาก็รู้ ถึงแม้ว่าเขาล้าสมัย แต่ยังเป็นหัวหน้ากอง"
*หมายเหตุ
เรื่องราวดังกล่าวทั้ง 2 เรื่อง จงใจเล่าค้างไว้ให้ผู้อ่านคาดเดาตอนจบเอง
ผู้ช่วยเหอเป็นคนหนุ่มที่เฉลียวฉลาด คนเดียวทำงานเท่ากับ 10 คน ปัญหาอยู่ที่ความ "ฉลาด" ไม่เพียงแต่หมายถึงวิชาความรู้ ยังครอบคลุมถึงการวางตัว
ความล้มเหลวของคนหนุ่ม มักเกิดจากไม่รู้จักแสดงออกอย่างทางการ และแสดงออกเกินไป ยิ่งแสดงออกยิ่งภูมิใจ หลงลำโพงจนลืมนึกถึงคนอื่น
ตรงกันข้าม เสี่ยวหวังซึ่งเป็นที่ปรึกษายืนอยู่่ข้างหลังข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำงานโดยไม่เปิดตัว กลับเรียนรู้หลักการวางตัว จึงพูดอย่างชัดเจนว่า "เขาก็รู้"
ถ้าหากหัวหน้ากองเป็นคนนอกวงการ ก็สมควรให้เสี่ยวหวังที่เป็นผู้สันทัดทำการอธิบาย แต่เมื่อผู้บังคับบัญชาก็เป็นผู้สันทัด เสี่ยวหวังยังแย่งพูด ไม่เพียงแต่ข้ามหน้าข้ามตาซ้ำยังแสดงว่า "เธอสันทัดกว่าฉัน"
เซลล์แมนรู้จักกลละเม็ดในการพูด ทั้งชื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เข้าใจ ยังบอกว่า
"เชื่อว่าคุณคงเป็นผู้สันทัด รู้ว่า.." หลังจากนั้นค่อยบอกสิ่งที่ตัวเองคิดโฆษณาออกมา ทำอย่างนี้ยังได้ผลกว่าพูดว่า "คุณน่าจะรู้ว่า..." เพราะว่าอย่างแรกแสดงว่าเห็นด้วย ถือเป็นจุดยืนร่วมกัน อย่างหลังเท่ากับตั้งข้อสมมุติว่า อีกฝ่ายหนึ่งยังไม่เข้าใจ ต้องให้คนชี้แนะ
ทุกคนชอบคำยกยอปอปั้น วิธีพูดอย่างแรก ถือเป็นการพูดประจบที่ดีที่สุด,💝
นอกจากนี้คนยังชอบแสดงออกคิดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญครึ่งหนึ่ง ส่วนผู้เชี่ยวชาญทุกคนอยากเป็นผู้เชีียวชาญในผู้เชี่ยวชาญ ยังมีเหตุการณ์อะไรสร้างความอิหรักอีเหลือกว่าการแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งหรือ?
ผมเคยเห็นกับตาว่าอาจารย์ท่านหนึ่งพาลูกศิษย์ไปดูงานนิทรรศการภาพวาดหนังสือ หยุดอยู่ตรงหน้าภาพหนังสือหวัดใบหนึ่ง อาจารย์อ่านทีละตัว แต่แล้วมีอยู่ตัวหนึ่งเขียนหวัดเกินไป แม้แต่อาจารย์ยังจำแนกไม่ออกลูกศิษย์จึงพูดว่า
"นั่นเป็นคำโถว ที่แปลว่าศีรษะ"
อาจารย์น่าเปลี่ยนสีดุว่า "ถึงตาแกพูดแล้วหรือ?"
ข้อผิดพลาดของลูกศิษย์คือ "แสดงความเป็นอาจารย์ต่อหน้าอาจารย์" ถึงอย่างไรเขาก็เป็นอาจารย์ที่เคยถ่ายทอดวิชาความรู้ให้
ในแวดวงวิชาการมักได้ยินนักศึกษาที่ทำงานวิจัยตัดพ้อว่า "วิทยานิพนธ์ของท่านศาสตราจารย์เป็นผมเขียนอยู่ครึ่งหนึ่ง ท่านเพียงกำหนดหัวข้อปล่อยให้ผมทำการค้นคว้า แต่พานใส่ชื่อของท่าน"
เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นไม่น้อย แต่พวกเราลองนึกดูเวลาที่ศาสตราจารย์คนนั้นยังเป็นนักศึกษาวิจัยเคยช่วยศาสตราจารย์ของเขาทำการค้นคว้าหรือเปล่า?
มีทำจริยาบางข้อ เป็นผลมาจากการพัฒนาการระยะยาว มองอย่างผิวเผินดูเหมือนไม่ชอบด้วยเหตุผล แท้ที่จริงมีเหตุผลอยู่
พลทหารอาจจะบอกว่า "เวลารบทัพจับศึก เป็นพวกเราบุกไปข้างหน้า ทำไมคนที่มีชื่อเสียงล้วนแล้วแต่เป็นท่านนายพล?"
เวลาที่เขาพูดคำพูดนี้ ควรจะลองนึกดู
ข้อแรก นายพลท่านนั้นไม่ใช่ไต่เต้าขึ้นมาจากระดับล่างหรือ?
ข้อสอง เวลาแพ้สงคราม สมมุติตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 คนที่ขึ้นตาแรงแกงเป็นนายพลเชลยศึกทำไมไม่ยิงเป้าพลทหาร?
ผมเคยดูดร. ท่านหนึ่ง หลังจากผ่านการสอบปากเปล่า ศาสตราจารย์ที่คุมสอบพูดว่า "บอกตามตรงคุณวิจัยมาทางด้านนี้หลายปี คุณจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญ พวกเราไม่เพียงแต่ทดสอบคุณ ยังขอคำแนะนำจากคุณ"
ส่วนผู้ที่เข้าสอบพูดว่า "เป็นอาจารย์ชี้ทิศทางแก่ผม และให้โอกาสผม ถ้าไม่มีโอกาสอย่างนี้ ผมจะแสดงออกได้อย่างไร?"
ในที่นี้ขอเน้นต่อมิตรเยาว์วัยที่เพิ่งเข้าสังคมว่าสังคมนี้เหมือนกับสวนผลไม้ เมื่อคุณเดินเข้าไปเจ้าของสวนผลไม้อาจจะพูดว่า "เอาล่ะ พื้นที่แห่งนี้ยกให้เธอเพาะปลูก"
เมื่อคุณเพาะปลูกได้ผลสมบูรณ์ ซ้ำยังเก็บเกี่ยวได้ผลกว่าที่เจ้าของสวนผลไม้เพาะปลูกมา ต้องอย่าลืมว่าใครเป็นคนปล่อยให้คุณเข้ามา และใครยกพื้นที่นี้แก่คุณ
ขณะที่พวกเราภูมิอกภูมิใจ อย่าได้ลืมกำพืดเดิมเป็นอันขาด
💕💕💕💕💕
แม่ล่ะจังหวะก้าวย่างในสังคมมีเทคนิคอย่างมากเทคนิคบางอย่างไม่ชอบด้วยเหตุผล จนกล่าวได้ว่าเป็นกลเม็ด
ยกตัวอย่างเช่นฮ่องเต้สมัยโบราณทรงนำทัพด้วยพระองค์เอง แม่ทัพที่กำลังรถติดพันอยู่กับข้าศึกความจริงสามารถโจมตีข้าศึกแตกพ่าย พอทราบว่าฮ่องเต้จะทรงนำทัพด้วยพระองค์เองก็จะหยุดทัพ รอให้ฮ่องเต้เสด็จมาพิชิตข้าศึก
ขณะที่หยุดทัพ อาจเปิดโอกาสให้ข้าศึกหอบหายใจ ก่อให้เกิดความเสียหายได้ ทำไมไม่เร่งเผด็จศึก?
นอกจากนี้ฮ่องเต้ทรงนำทัพด้วยพระองค์เองต้องสิ้นเปลืองเงินพระคลังกว่าเดิม ทำไมไม่ช่วยตัดปัญหาของฮ่องเต้ ฮ่องเต้จะไม่พอพระราชหฤทัยกว่าหรือ?
ถ้าคุณคิดอย่างนี้ก็ผิดแล้ว ผิดจนบางครั้งถูกปลดออกจากตำแหน่ง หรือหัวหลุดจากบ่าโดยไม่รู้ตัว
ลองนึกดู ฮ่องเต้ทรงนำทัพด้วยพระองค์เองเพื่อประกาศศักดาภินิหาร เพื่อพิชิตข้าศึกที่แข็งข้อ
ฉะนั้นต่อให้แม่ทัพโจมตีข้าศึกแตกพ่าย แม่ทัพก็จะร้องแทรกซ้อง " ขอพระองค์มีพระชนมายุหมื่นปีหมื่นหมื่นปี"
ทั้งนี้ก็เพราะว่า ตำแหน่งแม่ทัพเป็นฮ่องเต้ทรงแต่งตั้ง เมื่อสาวถึงต้นตอ ยังเป็นพระมหากรุณาธิคุณของฮ่องเต้ ,🎉
พูดมามากมาย บางเรื่องชวนสงวนสนเท่ห์ ชวนให้ท้อแท้ แต่นี่เป็นสังคมที่แท้จริง เป็นนิสัยใจคอที่แท้จริง ของมนุษย์ผมจำต้องพูด คุณจำต้องเข้าใจ
ตอนจบของเรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นทั้งสองเรื่องคือ
ต่อมาผู้ช่วยเหอสอบเข้าสถาบันวิจัยที่ตัวเองสังกัดปรากฏว่าสอบไม่ติด หัวหน้าแผนกสี่ มักพูดจาถากถางผลสุดท้ายผู้ช่วยเหอเดินทางออกนอกประเทศ
โรงงานซิ้วอินได้รับการสั่งซื้อสินค้าจริงๆ ต่อมาเสี่ยวหวังยังเลื่อนเป็นหัวหน้ากอง
หนังสือโคตรโกงเล่มนี้ P'C ตั้งใจนำมาลงให้เพื่อให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมในสังคมได้เป็นอย่างดีสิ่งที่ดีนำไปปรับปรุงใช้สิ่งที่ไม่ดีก็ลืมมันไปเสีย ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นติดต่อสอบถามพูดคุยกับแอดมินพี่ซีได้ที่
โฆษณา