ทำไมคนบางคนถึงไม่อยากเกิดอีก ?
คำถามนี้ถูกลบ
เป็นคําพูดประชดน่ะครับ คนเราถ้ามีความสุขสบาย มีความอบอุ่นในครอบครัว ไม่มีทุกข์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีเงินทองใช้เหลือเฟือ ใครจะไม่อยากเกิดมาบ้าง พูดง่ายๆก็คือถ้าได้ตามสิ่งที่ตนเองต้องการก็อยากจะเกิด แต่ถ้าผิดหวัง ไม่อยากอยู่ในสภาพแบบเดิมก็ไม่อยากเกิด จะเห็นได้ว่าจะอยากไม่อยากเกิด อยู่ที่เงื่อนไขเดียวคือความอยาก (ถึงจะบอกว่าไม่อยากแต่ในใจก็มีความอยาก) ซึ่งเป็นตัณหาหรือกิเลสเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนในจิตของมนุษย์ ที่มันจะคอยโกหกและหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา
คนที่ไม่อยากจะเกิด จะบอกว่าทุกข์เหลือเกิน ไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แล้ว ขอไม่เกิดมาอีกต่อไป ในความจริงคือหลอกตัวเอง เพราะว่าไม่อยากสิ่งหนึ่งแต่อยากจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น ไม่ได้เกิดจากความรู้แจ้งจริงๆว่าตัวเองมีอวิชชาหรือความไม่รู้ ความหลงผิด ไม่เข้าใจว่าทําไมตัวเองถึงต้องเกิดมา เมื่อมีตัณหาจึงต้องเกิดใหม่อยู่เสมอไม่ว่าจะอยากไม่อยากก็ตาม ( ความไม่อยากก็คือวิภาวตัณหา ซึ่งปฏิเสธความอยากแบบหนึ่ง แต่ต้องการอีกแบบหนึ่ง)
แม้แต่ผู้ที่เจริญกรรมฐาน บรรลุในฌาน1,2,3,4 ยังต้องมาเกิดเป็นพรหม( ทั้งรูปและอรูปพรหม) แต่ตัวเองเข้าใจว่าตัวเองบรรลุแล้ว เพราะยังมีอวิชชา มีความอยาก และยึดติดในความว่าง ยังไงก็ต้องมาเกิดเสมอ แต่เกิดในชั้นของพรหมโลก มันยาวนานและเป็นสุขเป็นอย่างยิ่ง แต่กระนั้นพระพุทธเจ้ามิได้ปราถนาในความสงบประเภทนี้ เพราะมันยังมีเชื้อของอวิชชา ที่ไม่ได้หลุดพ้นไปจริงๆ ท่านจึงแสวงหาหนทางที่แท้จริงคือนิพพาน คือปลดปล่อยความยึดติด ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนทุกรูปแบบ เพื่อขจัดอวิชชาให้สิ้นซาก
คนที่ไม่อยากเกิดจริงๆ ในชีวิตจริงก็มีอยู่ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าการเกิดเป็นทุกข์ และต้องการพ้นไปจากสภาพแห่งทุกข์ ไม่ใช่ต้องการหาตัวตนอันใหม่มาทดแทนตัวตนอันเก่า แบบนั้นจึงจะเรียกว่าไม่อยากเกิดจริงๆ ดังที่มีนิทานเซ็นเล่าว่า บําเพ็ญเพียรเท่าไรก็ไม่บรรลุ แต่พอเลิกคิดเรื่องบรรลุ เลิกมีความอยากที่จะบรรลุ ก็บรรลุธรรมเองโดยอัตโนมัติ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
