9 ส.ค. 2022 เวลา 09:13 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เป็นภาคที่มีมิติที่ซับซ้อน นำเสนอแง่มุมที่แปลกใหม่
ของ James Bond ที่มีหัวใจ ถือเป็นการส่งท้ายของ Daniel Craig ได้อย่างสวยงาม
ความรู้สึกหลังดู 007 : No Time to Die
ชอบการเล่าเรื่องของภาคนี้นะ แต่อาจจะทำคนที่ไม่ได้ดูภาคที่แล้วงงได้ง่ายๆ เพราะมีการพูดถึง เรื่องราว ตัวละคร องค์กร ของภาคที่แล้วมาเยอะมาก อาจจะทำให้ไม่เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆ และ ความสำคัญต่างๆที่ตัวละครนั้นๆออกมานั้นที่มีต่อภาพรวมของเรื่องราวทั้งหมดชของหนังอย่างไร ทำให้ขาดอรรถรสไปได้ง่ายๆเลยจริงๆ
ภาคนี้เราจะเห็นมุมที่แตกต่างของ James Bond ทำให้ดูเป็นมนุษย์มากขึ้น เรียกว่าเป็นทิศทางที่สำคัญของ 007 เวอร์ชั่น Daniel Craig เลยก็ว่าได้ ที่มีอารมณ์ ความรู้สึก เห็นความเป็นมนุษย์ในแง่มุมที่ต่างออกไป
และประเด็นที่หนังพยายามแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมากๆ คือ การสืบทอด การส่งผ่าน ที่ถูกแทรกอยู่ตัวหนังเกือบทั้งเรื่อง เช่นใน ตัว James Bond ตำแหน่งหน้าที่ 007 จนไปถึงตัวร้าย Safin ที่มันมีปมอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกันได้อย่างน่าสนใจ ที่ทำให้เรื่องมันซับซ้อนและน่าติดตาม เสียดายตัว Safin ที่แสดงโดย Rami Malek จริงๆแสดงได้ดีนะ แต่เวลาเล่าเรื่องมันน้อยไปหน่อย
แต่ Ana de Armas ที่แสดงเป็น Paloma เป็นสายลับที่เข้ามาช่วย 007 เรียกว่าขโมยซีนมากๆ ใครดูได้จะรู้เลย
ฉากแอคชั่นภาคนี้ออกแบบได้ดีนะ ยังได้ความดุดันแบบ 007 ฉบับ Daniel Craig ที่เพิ่มดีกรีให้ดูเข้มข้นและดิบเพิ่มขึ้น ที่ดูอลังการงานสร้างมากๆ ไม่เสียชื่อตระกูลหนังสายลับอันดับหนึ่งจริงๆ
สรุปภาพรวม
แนะนำให้ดู Spectre เพื่ออรรถรสที่ครบถ้วนและไม่งงเวลาดูภาคนี้ เป็นภาคที่ส่งท้าย Daniel Craig ที่จะปิดฉากการเป็น James Bond ได้อย่างสวยงามและมีมิติที่น่าสนใจมากพอที่ทำให้เราดูแล้วรู้สึกแคร์ตัวละครมากขึ้นกว่าภาคไหนๆเลยจริงๆ
ตอนนี้สามารถ 007 ได้ทุก ภาคใน prime video
#007
#NoTimetoDie
#JamesBond
#หลับต้นเรื่อง
โฆษณา