10 ส.ค. 2022 เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การแข่งขันเทคโนโลยีอวกาศช่วงปี ค.ศ.1955 เป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการข้อมูลด้านเครือข่ายดาวเทียมเติบโตและถูกนำไปใช้ในงานต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อเครือข่าย และการตรวจจับติดตาม ทุกวันนี้แม้แต่ระดับบุคคลเองก็มีการใช้งาน GPS กันอย่างแพร่หลาย จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมภาคธุรกิจและการทหารจึงเห็นประโยชน์และให้ความสำคัญกับการใช้งานดาวเทียมมากที่สุด
แนวคิดที่รัฐบาลแต่ละประเทศใช้เครือข่ายดาวเทียมเพื่อติดตามคนร้าย หรือตรวจสอบกำลังพล รวมถึงยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วในปัจจุบัน แต่สิ่งที่อาจไม่ทันสังเกตคือ โลกทุกวันนี้กำลังดำเนินไปด้วยอิทธิพลซึ่งมุ่งแสวงหาผลกำไรเป็นหลัก
เทคโนโลยีอวกาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมซึ่งมักจะมีการอัปเดตทุก 24 - 48 ชั่วโมงกลายเป็นสิ่งที่สามารถซื้อขายกันได้ รวมถึงการเข้าถึงฐานข้อมูลรูปภาพที่บันทึกไว้หรือการออกชุดคำสั่งไปติดตามเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง นั่นจึงนำมาสู่แนวคิดการสอดแนมห่วงโซอุปทานขององค์กรเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์หรือพื้นที่ที่น่าสนใจได้ (ซึ่งมักมีบริการการวิเคราะห์จาก AI และ Machine Learning ร่วมด้วย) เป็นการทำสัญญาระหว่างองค์กรหรือการชำระเงินตามรอบ (Subscription Model)
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณ (signal) การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนและทำธุรกิจขององค์กร เช่น การเข้าซื้อหุ้นในบริษัทเล็ก ๆ หลายบริษัทซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทใหญ่โดยอ้างอิงจากข้อมูลเส้นทางขนส่งสินค้าเข้าและออกของบริษัทเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม องค์กรที่กำลังถูกจับตาอยู่เหล่านั้นอาจกำลังสูญเสียผลประโยชน์และความลับทางการค้าซึ่งมีมูลค่ามหาศาล และถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง
อีกจุดที่น่าสนใจคือเส้นแบ่งระหว่างดาวเทียมเพื่อการค้าและดาวเทียมเพื่อการทหาร เริ่มถูกเชื่อมกันเข้าไปมากขึ้นทุกที หลายรัฐบาลเลือกที่จะทำสัญญากับบริษัทดาวเทียมเอกชน เพื่อให้เอกชนสามารถเก็บข้อมูลภาพถ่ายภายในประเทศได้ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะได้สิทธิในการเข้าถึงฐานข้อมูลเหล่านั้นเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้นปี ค.ศ.2022 The National Reconnaissance Office (NRO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่งจะลงนามสัญญาให้บริษัทผู้ให้บริการภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์สามแห่ง ได้แก่ Maxar, Planet และ BlackSky สามารถบันทึกภาพบนพื้นโลกได้
โดยสัญญานี้มีอายุถึง 5 - 10 ปี (หากมีการต่อสัญญาหลังจากห้าปีแรก) ทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมพร้อมปฏิบัติการข้อมูลทางภูมิศาสตร์อัจฉริยะ (timely geo-int data solutions) โดยไม่ต้องลงทุนด้วยตัวเอง สอดคล้องกับแนวคิด “ซื้อในสิ่งที่เราต้องซื้อ และ สร้างในสิ่งที่เราต้องสร้าง
เหตุการณ์คล้ายกันนี้ยังเกิดขึ้นอีกหลายประเทศฝั่งยุโรป ที่ต้องการติดตามการเคลื่อนไหวและผลกระทบของสงครามยูเครน-รัสเซีย โดยในขณะที่ยูเครนขอความร่วมมือบริษัทเอกชนเพื่อติดตามกำลังพลของรัสเซีย ในขณะที่รัสเซียก็กำลังพยายามแฮกระบบเครือข่ายดาวเทียมเหล่านั้น และตอบโต้กับบรรดาแฮกเกอร์ที่พยายามโจมตีประเทศตน นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงการที่รัฐบาลในหลายประเทศพยายามใช้ดาวเทียมสื่อสารร่วมกับดาวเทียมภาพถ่ายเพื่อติดตามพฤติกรรมซึ่งถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของนักกิจกรรมทางการเมือง
นัยยะสำคัญที่มีต่ออนาคต:
- หากสาธารณชนสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมบนพื้นโลกแบบเรียลไทม์ได้ ธุรกิจและบริการประเภทการตัดขาดสัญญาณเครือข่ายไร้สาย และความปลอดภัยทางไซเบอร์จะกลายเป็นอีกอุตสาหกรรมที่เติบโตเพื่อปกป้องความลับทางการค้าและการรั่วไหลของข้อมูล
- ความครอบคลุมและชัดเจนของรัฐบาล นักกำหนดนโยบาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย กองทัพ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศ ควรทบทวนกฎหมายสากลเกี่ยวกับธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายดาวเทียม เพื่อป้องกันภัยคุกคามระหว่างประเทศที่อาจจะเกิดขึ้น
- การให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของประชาชนทั่วโลกจะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางและมาตรฐานทางจริยธรรมในเชิงปฏิบัติของธุรกิจดาวเทียม
อยากรู้จักเรามากขึ้น คลิก www.futuretaleslab.com หรือติดตามที่ https://www.blockdit.com/futuretaleslab
#FutureTalesLAB #FuturePossible #FutureUpdate #FutureofWork #Satellite #Business #SuppluChain #Spacewar #MQDC
โฆษณา