สำหรับปีนี้ได้จัดงานในวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2565 ภายใต้ธีม History at a Turning Point: Government Policies and Business Strategies โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2 พันคนจากหลายประเทศทั่วโลก โดยงาน WEF ในครั้งนี้กลับมาจัดงานในรูปแบบพบหน้ากันอีกครั้ง หลังจากต้องจัดงานผ่านระบบออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากผลกระทบของโรคโควิด 19 และมีการหารือในทิศทางสำคัญ 6 ประเด็น ดังนี้
1. สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
รัสเซียรุกรานประเทศยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์และยังคงยืดเยื้อไปถึงช่วงการจัดงาน WEF ในปีนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวยูเครนจำนวนมาก โดยผู้จัดงาน WEF ไม่ได้เชิญประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียมาร่วมงานเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันได้มีการเชิญประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy ของยูเครนให้มากล่าวผ่าน live session พิเศษถึงข้อเรียกร้องให้ทุกประเทศมีมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจแก่ประเทศรัสเซียในระดับสูงสุด
นอกจากนี้ ได้มีการออก white paper เรื่อง Jobs of Tomorrow: The Triple Returns of Social Jobs in the Economic Recovery ที่พูดถึงการสร้างงานที่เกี่ยวกับงานบริการสังคม เช่น งานดูแลผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก โดยคาดว่า ในปี 2573 ประชากรโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นไปแตะ 8.5 พันล้านคน ทำให้มีความขาดแคลนแรงงานด้านบริการสังคม โดยเห็นว่าภาครัฐหรือผู้กำหนดนโยบายควรให้ความสำคัญและส่งเสริมงานประเภทดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาพสังคมและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม