10 ส.ค. 2022 เวลา 12:26 • คริปโทเคอร์เรนซี
พาส่อง 5 สินทรัพย์ในการลงทุน ให้ผลตอบแทนยังไงบ้าง ในช่วงเงินเฟ้อ
ปัจจุบันประเทศไทยได้ประสบปัญหากับภาวะเงินเฟ้ออย่างหนัก ทำให้การลงทุนแบบธรรมดาอย่างการ “ออมเงิน” แล้วนำไปฝากเงินไว้ในธนาคารเพื่อรับผลตอบแทน 1-1.5% ต่อปี อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอีกต่อไป เพราะนอกจากจะได้ผลตอบแทนต่ำกว่าที่ควรแล้ว ยังโดนภาวะเงินเฟ้อกัดกินจนอาจจะทำให้ขาดทุนอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อมากัดกินมูลค่าพอร์ตการลงทุนของเราไปแบบง่าย ๆ เราควรเลือกลงทุนสินทรัพย์ให้เหมาะกับสถานการณ์ด้วย วันนี้แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปส่อง 5 สินทรัพย์ในการลงทุนช่วงเงินเฟ้อ หรือ 3 เดือนที่ผ่านมากันดีกว่าว่า ให้ผลตอบแทนเท่าไรบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่ต้องการปรับสัดส่วนหรือจัดการพอร์ตในช่วงนี้ได้ค่า
ส่วนจะมีสินทรัพย์ไหนที่น่าสนใจและต้านเงินเฟ้อได้ดีบ้างนั้น ไปดูกันเล๊ยยย
นี่ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองก่อนทุกครั้ง
==========================
ถ้าชอบคอนเทนต์แบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเพจไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดสาระดี ๆ จากเพจของเรา
หุ้น
.
มากันที่สินทรัพย์ที่ทุกคนต้องรู้จักกับ “หุ้น” สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ที่ปกติจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 8-12 % ต่อปี แต่ในสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อนั้น หุ้นดูเหมือนจะได้ผลกระทบด้านลบมากที่สุด เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ จะทำให้ผู้คนขายสินทรัพย์เสี่ยงหรือหุ้นมากกว่าการเข้าไปลงทุน
.
ทำให้ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา SET Index ของไทยมีผลประกอบการติดลบไปแล้วกว่า 9% ซึ่งมากกว่าเงินเฟ้อเสียอีก
ทองคำ
.
ทองคำเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่เรียกได้ว่าเป็น Safe Haven ที่ดีที่สุดตลอดกาล เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนทองคำก็เป็นสิ่งที่มีค่าในตัวเองอยู่เสมอ แต่ส่วนใหญ่แล้วราคาทองคำจะผันผวนไปตามเศรษฐกิจโลก ดังนั้นจึงเหมาะกับการถือระยะยาวมากกว่าระยะสั้น
.
ซึ่งในช่วงเงินเฟ้อทองคำเองก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่น่าสนใจเท่าไรนัก เพราะผลตอบแทนของทองรูปพรรณลดลงไปเกือบ 6% ส่วนกองทุนทองคำก็ลดลงไปกว่า 2 - 5% เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ทำให้ผู้คนแห่ไปถือเงินดอลลาร์ที่มีสภาพคล่องสูงกันซะมากกว่า
แต่ถ้าเทียบกับการถือเป็นเงินบาทที่ลดไปเกือบ 8% แล้ว การเข้าไปถือทองคำในช่วงนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่บ้างค่ะ
น้ำมัน
.
น้ำมันถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจมากในช่วงนี้ เนื่องจากภาวะสงคราม และปัญหาความขัดแย้งในแถบประเทศผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ทำให้น้ำมันกลายเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลนมาก สวนทางกลับตวามต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามกฎของ Damnad & Supply แล้ว ราคาก็มักปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
.
ซึ่งหากมองในด้านผลตอบแทน ถ้าหากเพื่อน ๆ เลือกที่จะไปลงทุนในกองทุนน้ำมัน จะให้ผลตอบแทนมากถึง +8% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าชนะเงินเฟ้อได้แบบสบาย ๆ
Stablecoin
.
ในเมื่อเงินบาทมีมูลค่าลดลง ทางออกที่ง่ายที่สุดก็คือเปลี่ยนไปถือเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นซะเลยสิ และการแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์ที่ง่ายที่สุดก็คงหนีไม่พ้น การเข้าไปถือ “Stablecoin” อย่าง Busd, Usdt หรือ. USDC นั้นเอง
.
ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งเงินบาทเฟ้อไปมากเท่าไร คนที่ถือ Stablecoin ก็จะได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น
Bitcoin
.
อีกหนึ่งสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงที่ใครหลายคนบอกว่าเป็น Safe Haven ในอนาคตที่จะมาแทนทองคำ ซึ่งในด้านของผลตอบแทนที่แน่นอนยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะมีความผันผวนสูงมากตั้งแต่ 100% ไปถึง 1000% แต่ที่แน่ ๆ หลังจากตลาด Crash ไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ทำให้ผลตอบแทนของ BTC ลดลงไปแล้วกว่า 50% ซึ่งมากกว่าเงินเฟ้ออยู่ 8-9 เท่าเลยทีเดียว
ซึ่งถ้าใครอยากลงทุนเอาไว้เพื่อชนะเงินเฟ้อในช่วงนี้อาจจะยังไม่เหมาะเท่าไรนัก เพราะราคา BTC มักจะหวั่นไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น แต่ถ้าใครมองในระยะยาวและเชื่อมั่นในอนาคตของ Bitcoin การทยอยสะสมไว้ในช่วงนี้ก็อาจเป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
จบกันไปแล้วน้ากับ 5 สินทรัพย์การลงทุน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการปรับพอร์ตได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ^^
โฆษณา