ทำไมการเลือกเพลงที่เปิดในร้านอาหารจึงช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 9% (เปิดเพลงผิดชีวิตเปลี่ยนหรือเปิดเพลงถูกชีวิตปัง)
เสียงเพลงที่เราได้ยินล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบถึงอารมณ์ของคนฟังทั้งสิ้น จะทั้งแบบตั้งใจฟังหรือฟังผ่านก็ดี แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้สนใจในเพลงที่เปิดหรือเสียงที่ได้ยิน แต่สมองของเราได้รับรู้ไปเรียบร้อยแล้ว
“ยุคใหม่ฯ” เคยมีประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสแบบไม่เสียเงิน หนึ่งในเส้นทางที่ผู้นำเที่ยวพาไปโดยให้เดินดูสินค้ากันเองก็คือถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) หากคนที่เคยไปหรือเห็นในสื่อต่างๆก็จะรู้ว่า ที่นั่นเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์ดังๆระดับโลกมากมายโดยเฉพาะเรื่องแฟชั่น
Credit: Fineartamerica
“ยุคใหม่ฯ” ก็ได้เดินเข้าไปดูหลายร้าน เช่น Louis Vuitton, Hermes, Chanel, Gucci และอีกหลายแบรนด์ โดยส่วนตัวแล้วกระเป๋าที่แพงที่สุดที่ใช้เป็นกระเป๋าใส่เงิน ราคา 800 บาท เดาได้ไม่ต้อสืบเลยว่าการเข้าไปในครั้งนั้นจะเดินออกมาแบบมือปล่าว
แต่ช้าก่อนครับ มีร้านหนึ่งที่ทำให้สะดุดแบบที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องหยุดดูและดูไปเรื่อยๆ นั่นคือกระเป๋า Longchamp และได้เอาไก่ในประเทศไทยไปปล่อยหลายเล้า จากการที่ไปเถียงพนักงานว่าผมไม่อยากดูกระเป๋าใบเล็กที่เป็นของชำร่วย แต่อยากดูใบใหญ่ที่เอาไปใช้ได้จริงๆ ซึ่งเขาก็บอกว่านี่ล่ะคือของจริง แต่ด้วยความมั่นหน้าก็เถียงต่อ จนในที่สุดก็รู้ว่าพนักงานบอกถูกต้องแล้ว ไก่ไทยเลยกระจายอยู่ทั่วกรุงปรารีสในเวลานั้น
แม้ว่าจะไม่ได้ซื้อเองแต่ก็ได้ติดต่อมาที่เพื่อนที่อยู่เมืองไทยว่าสนใจซื้อหรือไม่ สรุปว่าเขาฝากซื้อ 5 ใบ
Credit: The Bicerter Collection
ดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญที่หยุดดูกระเป๋าที่ร้านนี้ แต่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องตลาดฝรั่งเศสได้บอกว่า สิ่งที่ทำให้เราหยุดดูแล้วเลือกซื้อมาจาก 2 อย่างหลักๆคือ แสงและเสียงเพลง ชั้นแรกจะเป็นเพลงแบบหนึ่งชั้นต่อมาก็จะเปลี่ยนเพลง พอกลับมานึกดูก็รู้เลยว่าใช่ตามนั้นจริงๆ
เรื่องนี้ยังมีหลักฐานประกอบจาก FastCasual.com ที่เป็นเว็บไชด์ด้านการตลาดและทางธุรกิจ ได้นำผลวิจัยจาก HUI Research ที่จัดทำมาตั้งแต่ปี 2016 มาเปิดเผยว่าร้านอาหารที่เปิดเพลงที่ตรงกับรูปแบบธุรกิจของร้านจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 9.1%
Credit: Pixabay
ในการทดลองในครั้งนี้ใช้ระยะเวลา 5 เดือน จากการดำเนินการใน 3 รูปแบบคือ
-ไม่มีการเปิดเพลง
-เปิดฮิตติดกระแส (เพลงดังที่รู้จักกันดี)
-เปิดเพลงที่ถูกคัดสรรให้เหมาะกับรูปแบบของร้าน
ผลที่ได้รับคือ
-การเปิดฮิตติดกระแส (เพลงดังที่รู้จักกันดี) เปรียบเทีบกับการไม่เปิดเพลงเลย พบว่ายอดขายลดลงถึง 4 %
-การเปิดเพลงที่ถูกคัดสรรให้เหมาะกับรูปแบบของร้าน ส่งผลให้คนนั่งที่ร้านใช้ระยะเวลาสั้นลงกว่าการเปิดฮิตติดกระแส แจ่กลับมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 9.1%
ศาสตราจารย์สเวน-โอลอฟ เดาน์เฟลดต์ (Prof. Sven-Olov Daunfeldt) ได้กล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการศึกษาในภาคสนามที่ใหญ่ที่สุด เกี่ยวกับอิทธิพลของดนตรีในร้านอาหารจนถึงปัจจุบัน และเราได้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนกว่า 2 ล้านร้านอาหาร
Credit: Acast
ยังพบว่าดนตรีมีผลต่อยอดขายในเชิงบวกของร้านอาหารในส่วนของอาหารหวาน รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ เพิ่มมากขึ้นกว่า 15% ในขณะที่ยอดขายสินค้าอื่นก็เพิ่มขึ้นกว่า 11% ด้วย
เพลงฮิตแม้ว่าจะติดหูคนฟังก็จริง แต่หากว่าเพลงนั้นไม่ได้เหมาะกับธุรกิจที่ประเภทของร้านอาหารที่ทำอยู่ อาจจะทำให้ยอดขายลดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย
ใครที่ทำร้านอาหารหรือร้านค้าที่มีการนำสินค้ามาให้ลูกค้าเลือก ลองพิจารณาดูถึงความเหมาะสมของเพลงกับธุรกิจที่ทำก่อนก็ดีนะครับ
Credit: Vocal
เปิดเพลงผิดชีวิตเปลี่ยน มาเป็น เปิดเพลงถูกชีวิตปัง กันดีกว่า
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
