แค่เล่าให้ฟัง :
เรื่อง comfort zone ตอนที่ 2
หลังจากที่บอกไปว่า
comfort zone มีสองตัว
หนึ่งก็คือ แบบสบาย ชินกับฐานะความเป็นอยู่ที่มี จนคิดว่าสบายแล้ว พอแล้ว
กับ แบบที่สอง จน ชนิดที่เรียกว่าดิ้นไม่หลุด ลำบากแล้ว ลำบากอีก ไม่สบายกะเขาสักที (ที่จริง ควรเรียกว่า violent-zone เสียด้วยซ้ำ) แต่ก็จำเป็นต้องเกาะ มีงานทำดีกว่าไม่มี พวกนี้เขาจะมีความสบายใจอยู่แบบนี้
สำหรับทางแก้ในแบบแรก มีเหล่านักพูด นักพัฒนาตนเอง หรือบรรดาโคชชิ่งทั้งหลายแหล่ ต่างให้แนวทางกันไว้มากมายแล้ว
ทว่า ในกรณีแบบที่สองล่ะ ต้องทำอย่างไร
เพราะการเข้าหาโอกาสจะยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เหตุคือ ไม่มีแม้แต่เวลาหรือว่า เงินทุนที่จะเข้าหาโอกาสนั้นๆเลย แม้แต่น้อย -*-
ยกตัวอย่างง่ายๆ
พวกสัมมนาหรือคอร์สออนไลน์ พัฒนาหรือ การเทรด การอะไรต่างๆเนี่ย
เวลาเข้าไปสมัครหรือในการซื้อ จำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง
ถามว่า พวกที่ติดอยู่ในแบบที่สองจะหาซื้อได้ไหม ก็ไม่ แค่จัดการกับภาระที่มีอยู่ ก็แทบจะไม่เหลือกินใช้กันอยู่แล้ว
ที่น่าสงสารไปกว่านั้นคือ พวกนี้ จะไม่มีเวลาด้วย แล้วจะไปยังไงกัน (จนเงินและเวลาพร้อมกัน)
มีนักพูด นักคิด นักแนะนำ บางคนหรือหลายคน มักจะบอกว่า แบบนี้ ให้เตรียมหางานใหม่ ได้เลย อยู่ที่เดิมไม่ดีแน่
หรือไม่งั้นก็พัฒนาที่ตัวเองซะ
ขอบคุณในคำแนะนำ แต่ใช่ว่าหลายคนจะทำได้ ถ้าไม่มีการปรับความคิดและสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยน
แล้วเราควรทำอย่างไรกันดี
มีบางกลุ่มและบางท่าน แนะนำถูก เรื่องนี้ คงต้องบอกต่อ
สำหรับกลุ่มนี้ จะต้องทำสองอย่างครับ
หนึ่ง แนะนำให้เขาปรับความคิด
และสอง เข้าไปช่วยเหลือในการปรับสภาพแวดล้อม ให้เขาวางใจและสบายใจพอที่จะหลุดออกมาได้ในระดับหนึ่ง
(ถ้าทำได้ ก็จะดีมากๆครับ แต่บางครั้ง แค่ปรับความคิดก็เหลือเฟือแล้วล่ะ)
ความคิดที่ว่า ผู้รู้เขาบอกกันมาตั้งเยอะแล้ว ที่บอก ให้มองว่า โลกนี้ อุดมสมบูรณ์ เหลือเฟือ และมีเพียงพอสำหรับทุกคน
ก็ตามนี้เลยล่ะครับ
ที่จริง มีสูตร มีวิธีการอยู่ หาอ่านได้ฟรีๆ เช่นกัน หรือจะเป็นแค่หนังสือเล่มละไม่กี่บาท ก็ทำได้เช่นกัน
อาจจะดูขัดแย้ง ก็ไหนบอกว่า พวกนี้ ไม่ค่อยจะมีเหลือกินใช้ไง
ก็ใช่ แต่กำลังจะบอกว่า เพราะมีแค่เหลือพอกินพอใช้ นั่นแหละ ของบางอย่างที่ราคาพอเอื้อมถึงได้ เขาก็พอใจจะซื้อได้เช่นกันนะ เพราะใจพวกเขาเอง ที่จริงก็อยากที่จะหลุดออกไปจากสภาพนี้จริงๆอยู่แล้ว
ที่บอกว่า ไม่สามารถหาซื้อได้ เป็นเพราะว่า บรรดาคอร์สทั้งสัมมนาจริงและออนไลน์ ในหลายๆคอร์ส ราคาเกินที่จะเอื้อมถึงในสภาพและทรัพยากรของพวกเขา ณ ขณะนั้นครับ
สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำว่า ลองค้นหาเอาจากที่ เขาใจดี เขียนให้ หรือเอามาแปะไว้หน้าเพจ หน้าเฟส หรือว่าบอร์ด หรือบนหน้าเวบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็พบเห็นกันค่อนข้างมากโขอยู่
สำหรับพวกที่คอร์สค่อนข้างจะแพง สองสามพัน ถึง หลักหมื่น อันนี้ ค่อยว่ากันต่อในภายหลัง หากขยับพ้นจากสภาพนั้นไปได้
ในหลายครั้ง พวกที่สองนี้ จริงๆแล้ว ขอแค่มีอะไรที่ช่วยปลดภาระลงได้บ้าง พวกเขาก็พร้อมที่จะพัฒนา และนำพาตัวเองให้ไปได้ไกลกว่าที่ตัวเองเป็นอยู่ได้ เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น รายได้ ที่เพิ่มขึ้นได้จริง
สภาพแวดล้อมการทำงานเปลี่ยนไป(ได้งานใหม่)
อะไรทำนองนี้
แต่ส่วนใหญ่ ที่มันหลุดออกมาไม่ได้ เป็นเพราะว่า ถูกกระทำหรือถูกหลอกจากสภาพแวดล้อม ผู้คนรอบข้างให้ห่วงเรื่องของภาระที่อยู่ดีๆ ตัวเองก็ต้องไปแบกมันมาหรือมีคนหามาให้แบก
จนที่สุด ก็เลยกลายเป็นว่า ต้องแบกโลกไว้ทั้งใบ ทั้งที่มันไม่ควรแบก
ก็แค่นั้นแหละ
เรื่องนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก
เขียดน้อยเต้นในปาก ช่วยให้คนมีกำลังใจรอดได้อย่างไม่น่าเชื่อได้ ฉันใด (นิทานเรื่อง อมพระในปาก ขณะสู้ตีฝ่าข้าศึก รอดแล้ว คายออกมากลายเป็นเขียด)
พวกกลุ่มที่สองนี้ ควรจะได้รับกำลังใจในลักษณะนั้น ฉันนั้น เช่นกันครับ และถ้ามีอะไรที่พอช่วยเหลือเขาได้เป็นรูปธรรม ยิ่งจะเป็นการดีมาก ยิ่งๆขึ้นไปอีก
สวัสดี.
แถมท้าย มีคำแนะนำจากโค้ชการเงินท่านหนึ่ง ว่า ให้สร้างบ่อน้ำแห่งความหวัง อันหมายถึงการเก็บเงินไว้ในที่หนึ่ง
เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ตนเอง แบบนี้ก็ใช้ได้อยู่เช่นกันครับ.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
