18 ส.ค. 2022 เวลา 02:30 • กีฬา
เคยมีกองเชียร์ที่ดูทีมรักแล้วแพ้ ส่งข้อความไปขู่ฆ่านักเตะ สุดท้ายโดนตำรวจจับติดคุกมาแล้ว นี่เป็นเรื่องจริง ที่จะย้ำเตือนว่า ต่อให้เป็นโลกออนไลน์ ก็ไม่ใช่ว่าจะโพสต์หรือส่งข้อความอะไรได้ตามใจชอบ
1
ในยุคนี้ การเชียร์ฟุตบอลมันบ้าคลั่งกว่าเมื่อก่อนมาก รักแรง โกรธแรง ถ้าทีมตัวเองแพ้ ต้องเล่นงานอีกฝ่ายกะเอาตาย ทั้งๆ ที่บางครั้ง มันแพ้-ชนะในเกม แบบไม่มีข้อกังขาอะไรเลยด้วยซ้ำ
เวลาไม่พอใจ มันก็ง่ายดี ที่จะคอมเมนต์ด่าอีกฝ่ายในโซเชียลมีเดีย จริงๆ นักบอลนั้นก็รับสภาพอยู่แล้ว ว่าถ้ามีชื่อเสียง ก็ย่อมต้องมีทั้งคนรัก และคนเกลียดเป็นธรรมดา
1
โอเค อาจมีแฟนบอลบางคนหยาบคาย แต่นักบอลก็จะปล่อยผ่านๆ ไป ไม่มีประโยชน์อะไรจะไปทะเลาะกันให้มันยืดยาว
ถ้าการด่า การแซว มันอาจจะพอรับได้ แต่ลิมิตที่นักเตะทุกคนก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน นั่นคือการพาดพิงถึงครอบครัว และการ "ขู่ฆ่า" ไม่สำคัญว่าคนที่พิมพ์มา จะทำจริงหรือไม่ แต่มันก็ทำให้จิตตกอยู่ดี ว่าเราทำอะไรเลวร้ายถึงขนาดต้องคิดจะฆ่าแกงกันเลยหรอ เราแค่เล่นฟุตบอล ประกอบอาชีพของตัวเองแค่นั้นเอง
1
หลังจากดาร์วิน นูนเยซ ไปเฮดบัตต์ใส่ โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น ในเกมคืนวันจันทร์ทำให้แฟนคลับของลิเวอร์พูล และนูนเยซ บางส่วน โกรธแค้นแอนเดอร์เซ่น ว่าเป็นต้นเหตุ ทำให้ทีมหงส์แดงพัง และนูนเยซโดนใบแดงตั้งแต่เล่นในแอนฟิลด์เกมแรก จึงส่งข้อความใน DM ขู่ฆ่าครอบครัวของเขา
3
ไม่ใช่แค่ 1-2 คน แต่มีคนส่งข้อความมากกว่า 400 คน! ซึ่งทำให้แอนเดอร์เซ่นช็อกมาก จนเอามาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ ส่วนหนึ่งก็เป็นการป้องกันตัวเองด้วย
คุณจะไม่พอใจสไตล์การเล่นของแอนเดอร์เซ่น ที่เล่นหนัก เล่นดุ ยั่วยุตลอดเกม มันก็ไม่เป็นไร แต่ไม่มีสิทธิ์เลย ที่จะล้ำเส้นถึงขนาดส่งข้อความไปขู่ฆ่านักฟุตบอลแบบนั้น มันบ้าบอเกินไปมากๆ
1
แอนเดอร์เซ่นแคปข้อความส่วนหนึ่งมาเปิดเผยให้ทุกคนเห็น
ข้อความที่ 1 เขียนว่า "แกมันไอ้น่าสมเพช ตัวโตซะเปล่าแต่ล้มไปนอนกับพื้น หวังว่าแกจะเครื่องบินตกตอนบินกลับลอนดอน ไอ้เลว"
ข้อความที่ 2 เขียนว่า "แกตะโกน ทำขึงขัง ใส่คนอื่น แต่ทำเป็นล้มลงไปแบบน่าเวทนาอย่างนั้นเนี่ยนะ ไอ้หนูสกปรก"
ข้อความที่ 3 เขียนว่า "ฉันไม่รู้ว่าแกมีลูก มีน้องชาย น้องสาว หรือพ่อแม่ที่ยังไม่ตายอยู่หรอเปล่า ฉันหวังว่าแกทุกคนจะติดพิษสุนัขบ้าแล้วตายไปช้าๆ อย่างทรมาน"
2
ข้อความที่ 4 เขียนว่า "แกควรละอายแก่ใจ ไอ้เศษสวะ ฉันอยากจะเสียขาคู่ใส่หัวเข่าแก อยากรู้ว่าจะล้มกลิ้งเหมือนเด็กน้อยหรือเปล่า แล้วฉันก็อยากจะล่อเมียแกด้วย"
1
จริงๆ มีหลายข้อความที่แรงกว่านี้ ถึงขั้นขู่ฆ่าครอบครัว แต่มันแรงเกินไป จนเขาไม่เอามาเปิดเผย
เรื่องนี้เป็นข่าวที่รบกวนจิตใจมาก ว่าทำไมถึงต้องแค้นเคืองกันขนาดนั้น การต่อสู้กันก็เกิดขึ้นในสนาม ไม่เห็นต้องลามปามไปถึงครอบครัวเลย แล้วเอาจริงๆ แอนเดอร์เซ่น ก็ไม่ได้ทำผิดอะไร เขาก็เล่นหนักในเกม หรือถ้าไม่พอใจจังหวะตุกติกอะไร ก็ไปประท้วงกรรมการเอา ไปฟ้องเอฟเอเอา ไม่ใช่มาเล่นงานผู้เล่นแบบนี้
นี่เป็นเรื่องราว ที่เราเห็นได้เลยว่า แฟนบอลยุคนี้เกินลิมิตไปมาก คนที่ด่าหยาบคาย ขู่ฆ่าครอบครัวของนักบอลนั้น เชื่อว่าก็คงไม่คิดทำจริงหรอก บางคนอาจแค่อยากระบายอารมณ์ บางคนอาจจะแค่อยากยั่วนักเตะ พิมพ์เอาสนุก
แต่ในข้อเท็จจริงนั้น ตำรวจไม่ตลกด้วย มีคนต้องติดคุกไปเยอะแล้ว ต่อให้ใช้แอคหลุม เขาก็ตามตัวเจอได้
ก่อนหน้าเคสของแอนเดอร์เซ่นไม่กี่วัน ก็มีเหตุการณ์ของวิลเลี่ยน อดีตดาวเตะเชลซี และอาร์เซน่อล ที่ย้ายไปเล่นให้โครินเธียนส์ ก็โดนส่งรูปกระสุนปืนและมีด และขู่ว่าจะฆ่าภรรยา และลูกสาว 2 คน สุดท้ายวิลเลียนจึงประกาศยกเลิกสัญญาโดยทันที
แต่ล่าสุดตำรวจที่บราซิลจับกุมตัวชายวัย 21 ปี ที่ส่งข้อความนั้นได้แล้ว แสดงให้เห็นว่า นี่เป็นเรื่องที่ซีเรียสเหมือนกัน
แล้วอย่าคิดว่า การขู่ฆ่าข้ามประเทศ เขาจะทำอะไรไม่ได้ เคยมีเคสของ นีล โมเปย์ กองหน้าไบรท์ตัน ที่โดนขู่ฆ่าในเดือนมิถุนายนปี 2020
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่ไบรท์ตันชนะอาร์เซน่อล 2-1 โดยโมเปย์เป็นคนยิงประตูชัย แถมยังเป็นคนไปกระแทกแบรนด์ เลโน่ จนบาดเจ็บยาวอีกต่างหาก ทำให้แฟนอาร์เซน่อลโกรธแค้นโมเปย์เป็นอย่างมาก
แต่ประเด็นคือ มีแฟนปืนใหญ่รายหนึ่ง ส่งข้อความไปหาโมเปย์ใน DM ทางไอจีว่า "แกคิดว่าจะเอาตัวรอดได้ง่ายๆ หลังจากที่ทำให้แบรนด์ เลโน่บาดเจ็บงั้นหรือ ไม่มีทางหรอกไอ้เวร แกไม่ต้องกลัวหรอก ตัวแกปลอดภัยแน่ แต่มันคงสนุกน่าดู ที่เห็นคนที่แกรักต้องบาดเจ็บปางตาย ไปทีละคน ทีละคน"
"ครอบครัวของแกจะโดนเล่นงานแน่ๆ คอยดูละกัน แล้วแกคิดว่าแจ้งความไป แล้วจะปลอดภัยงั้นหรือ ฉันจะฆ่าแกและครอบครัวแกให้หมด"
นีล โมเปย์ เข้าแจ้งความทันที และตำรวจอังกฤษ สืบทราบว่า คนที่ส่งแชทมา เป็นผู้ใช้จากประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นรัฐบาลอังกฤษ จึงประสานงานกับรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อตามตัวคนส่งข้อความ
หลังจากส่งข้อความขู่ฆ่าแค่ 7 วัน ตำรวจสิงคโปร์จับกุม เดเร็ก เดอ เรน ชายวัย 19 ปี ชาวสิงคโปร์ ที่เป็นคนส่งข้อความได้สำเร็จ
เดเร็ก คนก่อเหตุอ้างว่าไม่มีเจตนาจะทำจริงๆ เพราะอยู่ตั้งสิงคโปร์ จะไปฆ่าโมเปย์ ที่อยู่ในอังกฤษได้อย่างไร แต่ก็ฟังไม่ขึ้น มันผิดกฎหมายอยู่ดี สุดท้ายเขาโดนจำคุก 6 เดือน ปรับเงิน 5,000 เหรียญสิงคโปร์ แต่ด้วยความเป็นผู้เยาว์ที่ไม่เคยทำความผิดมาก่อน จึงโดนทำทัณฑ์บน 9 เดือน และต้องทำสาธารณประโยชน์ตลอดระยะเวลาทัณฑ์บนด้วย
เดเร็ก จากที่พิมพ์แค่ระบาย กลายเป็นต้องมาขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ เป็นอะไรที่อับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเราจะเห็นว่า คำพูดคำจาในออนไลน์ ถ้ามันเกินลิมิตไป แล้วนักบอลจะเอาเรื่องกันจริงๆ มันตามตัวไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ส่วนใหญ่พวกเขาไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลให้ปวดหัว คือถ้ามันไม่สุดทนจริงๆ แบบแอนเดอร์เซ่น, โมเปย์ หรือ วิลเลี่ยน ก็คงยอมปล่อยผ่านๆ ไป
อย่างไรก็ตาม อย่าให้มันถึงต้องเป็นคดีความขนาดนั้นเลย สิ่งดีที่สุดก็แค่ "ไม่ทำ" แค่นั้นเอง
และสิ่งนี้ มันสะท้อนให้เราได้รู้ว่า การดูกีฬา เราจำเป็นต้องมีสปิริตเช่นกัน เชียร์ในเกม ลุ้นในเกม จบเกมไม่พอใจก็มาคุยกับเพื่อนเอา คือคุณไม่สามารถไปขู่ฆ่า ข่มขู่ครอบครัวนักกีฬาได้
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือคำขวัญเบื้องต้นของการเล่นกีฬา ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้เล่นเท่านั้น แต่ผู้ชมก็ต้องเรียนรู้ที่จะแพ้ ชนะ และอภัยเช่นกัน โดยไม่ล้ำเส้นของอีกฝ่าย
แม้จะเจ็บใจแค่ไหนก็ตาม แต่แน่นอนว่า มันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไปขู่ฆ่าใครแบบนั้นเลย มันไม่มีสปิริตเลยแม้แต่นิดเดียว
โฆษณา