20 ส.ค. 2022 เวลา 15:00 • ไลฟ์สไตล์
~กระแสของพระวจนะ~
ยาโคบจุดเริ่มต้นของอิสราเอล :
ปฐมกาล 32:24-32
สารภาพความเชื่อในมัทธิว 16:16
การใช้ชีวิตจะว่ายากก็ยาก จะว่าก็ง่าย ตอนเด็กเรามีพ่อแม่ บางคนอาจไม่มี
ตอนเด็กเราเป็นสาวก โตขึ้นเราสร้างสาวก
ส่วนการให้เกียรติก็ไม่ใช่ให้เกียรติแก่บิดามารดาเท่านั้นแต่ให้เกียรติแก่ผู้ใหญ่ทุกคน รักลูกก็ไม่ใช่รักลูกตนเองเท่านั้นต้องรักเด็กที่เป็นลูกทุกคนในโลกด้วย
ดังนั้นการใช้ชีวิตในโลกนี้ใครคือคนมีสติปัญญา, มีกำลัง, และมีความสุข?
1. คนที่มีสติปัญญาที่สุด
คือคนที่รู้จักความตาย เพราะรู้จักชีวิต คนที่ยังไม่ได้รับความรอดคือคนที่ยังไม่รู้จักความหมายของความตาย, ชีวิต, และไม่รู้จักอดีต
ดังนั้นคนที่รู้จักความตายของตนเองจึงเป็นคนที่มีสติปัญญาที่สุด เกิด-แก่-เจ็บ- ตาย เป็นการทนทุกข์ คนมีสติปัญญาที่สุดเป็นคนที่รู้จักความตายว่าเป็นความตายแบบไหน?
รู้จักความตายแท้ = รู้จักชีวิตจริงๆ & เป็นคนที่อยู่ในข่าวประเสริฐ มีสติปัญญาแท้ = ได้รับความรอดแล้ว
2. คนที่มีกำลังที่สุด
คือคนที่รู้จักชีวิตหลังความตาย = รู้จักการพิพากษา ความตายคือภูมิหลัง ตายแล้วไปไหน?
การเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซูคริสต์ เพื่อพิพากษา แต่การเสด็จมาครั้งที่ 1 เพื่อให้ชีวิต+นำเราออกมาจากปัญหาตั้งแต่อดีตกาลอย่างชัดเจน + ออกมาจากภูมิหลังของความตายในนรก
ดังนั้นภูมิหลังแห่งอนาคต เราจึงเชื่อได้ นี่คือความจริงฝ่ายวิญญาณ ใครที่เชื่อในความจริงนี้จะเป็นคนที่มีกำลังที่สุด
3. คนที่มีความสุขที่สุด
คือมีนิรันดร์เป็นคำตอบ ในนี้มีคำตอบของปัญหาในอดีตกาล, ปัจจุบัน, และอนาคต, รู้จักความทุกข์แท้
ถ้าไม่รู้จักคำตอบนี้จะใช้ชีวิตอยู่ในชะตากรรม ภูมิหลังอยู่ในนรก คืออยู่ในการควบคุมของซาตาน ถูกกดขี่ด้วยความบาป นี่คือเหตุผลที่ทำไมถ้าไม่ใช่พระเยซูคริสต์ไม่ได้เด็ดขาด!
ใครคือผู้ใหญ่ที่ดีหรือเด็กที่ดี? มาตรฐานของโลกอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่สำหรับพวกเราผู้ใหญ่ที่ดีและเด็กที่ดีมีมาตรฐานอยู่ตรงที่การรู้จักจุดเริ่มต้น, รู้จักความจริงฝ่ายวิญญาณ, รู้จักข่าวประเสริฐ = รู้จักการประกาศเพราะรู้จักชีวิตที่แท้จริง ขอให้ยืนยันผ่านทางยาโคบ
1. ยาโคบและเอซาว
ทั้งสองคนเป็นลูกของอิสอัค แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนต่างกัน
🍛 ถั่วแดงต้มและสิทธิบุตรหัวปี [ปฐมกาล 25:22-34] เอซาวเป็นลูกคนโตมีสิทธิของบุตรหัวปี แต่ยอมแลกสิทธิบุตรหัวปีกับถั่วแดงต้มถ้วยเดียว
ความหมายคือคือตามโลกฝ่ายเนื้อหนังไม่ตามฝ่ายวิญญาณ = ถูกลวงด้วยถั่วแดงต้มเพียงถ้วยเดียว คือถูกลวงด้วยสิ่งที่ตามองเห็น+ตามโลกฝ่ายเนื้อหนัง
คนเราพออยู่ต่อหน้าการนมัสการอาจมองเห็นว่าจริง แต่พออยู่ในทุ่งนาต่อหน้าโลกและสถานการณ์ มักจะเลือกตามเนื้อหนังและตามโลกแทน มองไม่เห็นความจริงฝ่ายวิญญาณ!
🍛พระพรของบุตรหัวปีของอิสอัค [ปฐมกาล 27] ขนบธรรมเนียมประเพณีและพันธสัญญา Ex. การแต่งงานของเอซาว จริงๆแล้วเอซาวไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับหญิงต่างชาติ แต่อิสอัคให้เขาแต่งงานกับหญิงต่างชาติก่อนที่จะอวยพรบุตรหัวปี
เขาเลือกตามขนบธรรมเนียมประเพณีแทนพันธสัญญาของพระเจ้า เพราะเห็นว่าขนบธรรมเนียมประเพณีของโลกสำคัญกว่าพันธสัญญาของพระเจ้า และตามมาตรฐานของโลกไป
🍛พระพรของบุตรหัวปีที่ทรงสัญญาไว้ [ปฐมกาล 25:23] จริงๆแล้วพระพรของบุตรหัวปีพระเจ้าพยากรณ์ไว้แล้วก่อนการตั้งครรภ์ พระเจ้าเลือกไว้แล้วดูใน มาลาคี 1:1-2 พระเจ้ารักยาโคบแต่เกลียดเอซาว พระเจ้าเลือกยาโคบไว้แล้ว นี่เป็นสิทธิอำนาจโดยเด็ดขาดของพระเจ้า
จริงๆแล้วยาโคบไม่มีอะไรดีกว่าเอซาว แต่นี่เป็นการเลือกโดยพระเจ้าเพียงฝ่ายเดียว ไม่ใช่ตามมาตรฐานของโลก
🍛ให้เอซาวปรนนิบัติยาโคบ พี่ปรนนิบัติน้อง พระเจ้ารักและปรนนิบัติเราก่อน [มาระโก 10:45] คนที่โตกว่าจะปรนนิบัติคนน้อง
Ex. พ่อแม่รักและปรนนิบัติลูกก่อน พอโตแล้วลูกก็เรียนรู้แล้วว่าต้องทำอย่างนั้น ดังนั้นเราจึงเป็นคนที่กล้าหาญถึงแม้ยังอ่อนแออยู่ที่สามารถปรนนิบัติพระเจ้าได้
ในโลกนี้นอกจากคริสเตียนแล้วไม่มีใครสามารถปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าได้ จริงๆแล้วพวกเราเสื่อมแล้ว ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปรนนิบัติพระเจ้าได้ แต่พระเจ้าเลือกเรา
2. ยาโคบและลาบัน
🎰 7 ปีเพื่อเลอาห์ = ลาบันเป็นลุง ยาโคบหลงรักราเชล ยอมลำบากเพื่อราเชลแต่ถูกลาบันหลอกลวง กลับยกเลอาห์คนพี่ให้แทน = ใช้มาตรฐานของฉัน, การวินิจฉัยของฉัน, การตัดสินใจของฉันแบบโลก
🎰 7 ปีเพื่อราเชล = ถูกลุงหลอกลวงดังนั้นเขาจึงต้องเสียเวลาอีก 7 ปีเพื่อราเชล หลังจากทนทุกข์ 14 ปีก็ต้องทนทุกข์อีก 6 ปี = ใช้ชีวิตแบบสูญเสียพันธสัญญา อยู่ในโลกหลอกลวงคนอื่นและถูกคนอื่นที่เหนือกว่าหลอกลวง ลาบัน(โลก)ทำให้ยาโคบลำบาก
🎰 6 ปีเพื่อทรัพย์สมบัติ = เป็นสภาพของโลก, มีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ, ใจที่อยากได้ 100 เต็ม[ละโมบ]
ตัวอย่าง เศรษฐีให้ทองคำมา 99 แท่ง คิดว่าเขาคงให้มา 100 แท่งมันต้องหายไป 1 แท่งก็พยายามเสาะแสวงหาอีก 1 แท่งมาเติมเพื่อจะให้ครบ 100 แท่ง ผลก็คือเหน็ดเหนื่อยมากกว่าเดิม สุดท้ายส่วนตัวก็ลำบาก, ไม่มีเวลาให้ครอบครัว จริงๆแล้ว 99 แท่งก็พอแล้ว
= โลกไม่มีสิ่งใดเติมเต็มให้ความสุขกับมนุษย์ได้ มีแต่ข่าวประเสริฐ + กำลังฝ่ายวิญญาณเท่านั้น
การที่เรามองเห็นข่าวประเสริฐแบบนี้ = เป็นคนที่มีความสุขที่สุดแล้ว
3. ยาโคบและอิสราเอล (ปฐก. 32:24-32)
1. ชีวิตของยาโคบ
=:> เป็นผู้ที่หลอกลวงและแย่งชิง [พระพรบุตรหัวปี] จริงๆเขามีพันธสัญญาแล้วตั้งแต่ก่อนอยู่ในครรภ์ ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้แต่....ใช้ชีวิตแบบมนุษย์นิยม มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
= ตัวเราเองก่อนพบข่าวประเสริฐก็ใช้ชีวิตแบบนี้ เป็นชีวิตที่ปล้ำสู้กับพระเจ้า, ยาโคบเป็นคนที่อยู่ในลำดับวงศ์ตระกูลแห่งพันธสัญญา
2. ชีวิตของอิสราเอล
=:> ยาโคบปล้ำสู้กับพระเจ้าและได้รับชัยชนะ, ได้รับการเปลี่ยนชื่อแห่งความล้มเหลวสู่ชื่อแห่งชัยชนะฝ่ายวิญญาณ [ยาโคบ->อิสราเอล]
กลายเป็นคนที่เป็นจุดเริ่มต้นของอิสราเอล การเป็นอิสราเอลคือการเป็นผู้ที่มีความสุขเพราะพระเจ้าทำให้พบกับพระเจ้าได้
3. ชีวิตแห่งพันธสัญญา [พระคริสต์เท่านั้น]
=:> อิสราเอลฝ่ายวิญญาณ คือชีวิตที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง คือคน 12 เผ่าในพันธสัญญาเดิม, สาวก 12 คนในพันธสัญญาใหม่
ยาโคบเป็นจุดเริ่มต้นของอิสราเอล บิดาแห่งความเชื่อของเราทั้งหมดคืออับราฮัม แต่จุดเริ่มต้นความเชื่อของเราคือยาโคบ
จากคนที่หลอกลวงคนอื่น ใช้ชีวิตมีศูนย์กลางที่ตนเอง ถูกเปลี่ยนให้มีชีวิตที่มีศูนย์กลางที่พระเจ้าแทน
ทำไมพระเจ้าถึงรักยาโคบมากที่สุด? มีเหตุผลเดียวคือ เขามีชีวิตอยู่เพื่อถ่ายทอดพันธสัญญาเท่านั้น ยาโคบเป็นจุดเริ่มต้นของอิสราเอลและยาโคบเป็นผู้ส่งต่อพันธสัญญา [อิสยาห์ 43:1-10, กจ. 20:24]
สรุป
1. เก็บไว้ในใจ [ปฐมกาล 37:11]
โยเซฟลูกของยาโคบฝันและเล่าความฝันให้พ่อฟัง บรรดาพี่ชายอิจฉาแต่ยาโคบนิ่งตรองในจิตใจ = เก็บพันธสัญญาไว้ในใจ
ในพันธสัญญาใหม่ กิจการ 19:21 เปาโลบอกว่าจะต้องไปเห็นกรุงโรมด้วย เหมือนเราในขณะนี้ยึดพันธสัญญา 774237 และเก็บไว้ในใจ
2. “เมื่อยาโคบรู้ว่ามีข้าวในอียิปต์ จึงพูดกับพวกลูกของตนว่า “มานั่งมองดูกันอยู่ทำไมเล่า” (ปฐมกาล 42:1) เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก ยาโคบส่งลูกชายไปอียิปต์, โยเซฟอยู่ในอียิปต์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี, ยาโคบส่งลูกชายไปยังอียิปต์ = เป็นความสำเร็จของปฐมกาลบท 37
=:> กิจการ 23:11 พระเจ้าบอกเปาโลว่า เจ้าจะต้องเป็นพยานในกรุงโรมอย่างนั้น” = เก็บไว้ในใจ หมายถึงอยู่ในพันธสัญญาเสมอ พอถึงตารางเวลาของพระเจ้า พระองค์ก็ส่งเปาโลไปยังกรุงโรม
=:> เหมือนกันขณะนี้พวกเรายึดพันธสัญญา 77-4-237 ให้เก็บพันธสัญญานี้ไว้ในใจ เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า พระองค์ก็จะเปิดประตูให้สำหรับ 3 ทุ่งนานั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยา 3 ทุ่งนา ให้ยึดพันธสัญญาและเริ่มต้นจากการเยียวยาตัวเองและคนข้างๆก่อน
3. ยาโคบถวายพระพรแก่ฟาโรห์”
[ปฐมกาล 47:7-10]
ในที่สุดยาโคบซึ่งตอนนั้นอยู่ในสภาพคนชราที่ต้องได้รับข้าวสารเพราะการกันดารอาหาร แต่พอถึงตารางเวลาของพระเจ้าก็ได้ไปอยู่ต่อหน้าฟาโรห์และถวายพระพร, เหมือนในกิจการ 27:24 “เจ้าจะต้องเข้าเฝ้าซีซาร์” พันธสัญญาที่พระเจ้ามอบให้ ในที่สุดก็สำเร็จตามนั้นเลย!
=:> ขณะนี้เป็นเวลาที่เราต้องสร้างแรมแนนท์หรือซัมมิทที่จะไปยืนอยู่ต่อหน้าซีซาร์ สำหรับคนที่อายุมากแล้วเราจะเป็นเปาโลหรือปริสสิลลาและอาควิลลาก็ไม่ได้ แต่แรมแนนท์ที่เราดูแลอยู่อาจจะเป็นเปาโลก็ได้, เป็นปริสสิลลาและอาควิลลาก็ได้
ฉะนั้น! เราต้องสร้างแรมแนนท์, สร้างคนที่เป็นเลิศเรื่องจิตวิญญาณ, เตรียมสร้างชั้นเรียนออนไลน์, สถานที่จัดงานแต่งงาน, สถานที่จัดงานศพคริสเตียน เพื่อส่งต่อพันธสัญญา เพราะเป้าหมายแท้ของเราคือการเป็นผู้ส่งต่อพันธสัญญา
=:> ถ้าเป็นผู้ส่งต่อพันธสัญญาจริงๆ เราจะมีกำลัง วิธีการเดียวเท่านั้นที่จะรู้จักพระเจ้าดีที่สุดคือการเป็นลูกของพระเจ้า ยิ่งรู้จักยิ่งเชื่อ เชื่อในพระวจนะว่าจะสำเร็จ
ทั้งหมดที่พระเจ้าต้องการคือความเชื่อ [มาตรฐานของพระเจ้าคือความเชื่อ] พระเจ้าจึงประทานพระวจนะให้เราผ่านเยรูซาเล็ม
ให้ยึดพันธสัญญานี้+อธิษฐานตลอดสัปดาห์นี้ และเป็นพยานในทุ่งนา
พระคริสต์เท่านั้น 🔛 อาณาจักรของพระเจ้าเท่านั้น 🔛 พระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น"
ข่าวประเสริฐเท่านั้น (ขนมปังไร้เชื้อ)
1_3_8_14_24_25_00_77_4_237_
5,000_นิรันดร์
🌱🌱🐳🐬🐡🐠🐟🐋🐳🌱🌱
📚Prayer Journal📚
📝Covenant Journal📝
@Soul Food🌱
~AG~
..ขอพระเจ้าอวยพร..
โฆษณา